“อาร์มาดิลโล” ตัวน้อยโบกรถร้องขอหวังให้มนุษย์ใจดีช่วย! เมื่อร่างกายอ่อนแรงจากภาวะขาดน้ำ

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะ “เคลดสัน มาเทียส เดอ โอลิเวียลรา” (Cledson Matias de Oliveira) กำลังขับรถอยู่บนถนนในวันที่ร้อนระอุย่านชนบท เขตเมืองโกยานา ประเทศบราซิล เขาก็ได้พบกับวัตถุแปลกประหลาดกำลังขวางทางอยู่กลางถนน ด้วยความสงสัยจึงทำให้เขาต้องหยุดรถแล้วเดินเข้าไปตรวจสอบเพื่อหาคำตอบ

.

ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้... เคลดสันก็ได้สังเกตเห็นว่าวัตถุประหลาดเริ่มมีการขยับ ซึ่งดูคล้ายกับว่าน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่าง เพื่อให้ได้คำตอบเขาจึงเดินเข้าไปใกล้อีกและในตอนนั้นเขาก็ได้คำตอบว่าแท้จริงแล้ววัตถุประหลาดคือ “อาร์มาดิลโล” ตัวน้อยสัตว์สงวนในประเทศบราชิล นี่เป็นความโชคดีมากที่เคลดสันขับรถมาด้วยอัตราเร็วต่ำและระมัดระวัง เขาจึงทันสังเกตเห็นและหยุดรถได้ทัน หากไม่แล้วสัตว์ตัวน้อยหายากใกล้สูญพันธุ์ก็คงต้องจบชีวิตลง เคลนสันก็คงจะกลายเป็นมนุษย์ใจร้ายที่เร่งให้จำนวนอาร์มาดิลโลลดน้อยลงเสี่ยงสูญพันธุ์มากกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ โชคดีที่เขาไม่ประมาท...
.
ถึงแม้เคลดสันจะเดินเข้าไปใกล้มาก แต่อาร์มาดิลโลตัวน้อยกลับไม่มีทีท่าหวาดกลัวหรือพยายามจะวิ่งหนีเลย เขายืนนิ่งปล่อยให้เคลดสันสัมผัสตัวได้โดยไม่ขัดขืน นั่นทำให้เคลดสันเข้าใจว่าการที่อาร์มาดิลโลเดินขึ้นมายืนนิ่งอยู่กลางถนนแบบนี้เป็นความตั้งใจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาคงต้องการโบกรถที่กำลังแล่นผ่านหวังขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง...
.    

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

“อาร์มาดิลโลน้อยยืนนิ่งอยู่กลางถนนไม่ยอมเดินไปไหน แม้ว่าผมจะเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมเชื่อว่าเขาตั้งใจที่จะร้องขอความช่วยเหลือบางอย่างจากผม ผมจึงต้องรีบหยุดเพื่อลงไปช่วยเขา”

เคลดสันกล่าว

.

ดูเหมือนว่าสภาพอากาศที่ร้อนระอุในวันนั้นประกอบกับไฟป่าที่กำลังลุกลามในบริเวณใกล้ๆ ทำให้เคลดสันเดาได้ไม่ยากเลยว่า อาร์มาดิลโลตัวน้อยกำลังต้องการอะไร น้ำคงจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด! เคลดสันช่วยอุ้มอาร์มาดิลโลออกจากบริเวณถนนไปอยู่ข้างๆ ทางก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อหยิบน้ำลงมาให้อาร์มาดิลโลได้ดื่มเพื่อดับกระหาย
.

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

เคลดสันเทน้ำในแก้วลงบนพื้นบอกให้อาร์มาดิลโลรู้ว่านี่คือน้ำก่อนจะยื่นแก้วไปใกล้ๆ ... ทันทีที่อาร์มาดิลโลตัวน้อยเข้าใจก็ค่อยๆ เดินเข้าไปดื่มน้ำในแก้วด้วยอาการหิวกระหาย... และเพื่อลดอุณภูมิร่างกายช่วยให้อาร์มาดิลโลรู้สึกสดชื่นขึ้นเคลดสันก็ได้แบ่งน้ำไว้อีกนิดหน่อยสำหรับราดรดลงบนตัวอาร์มาดิลโลตัวน้อยด้วย... เคลดสันไม่ทราบเลยว่าอาร์มาดิลโลเดินมาไกลแค่ไหนและอดน้ำมานานกี่วัน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้วล่ะ
.

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

“เขาค่อยๆ ดื่มน้ำอย่างช้าๆ เขามีความสุขมากๆ ผมรู้สึกได้ ”

เคลดสัน

.

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

เคลดสันเชื่อว่า การที่เขาไปอยู่ที่นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ โชคชะตานำทางเขาให้มาช่วยอาร์มาดิลโลตัวน้อย สิ่งที่เกิดขึ้นมีหลายอย่างที่ทำให้คิดแบบนั้น เช่น ตามปกติแล้วอาร์มาดิลโลมักจะไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้เลย พวกเขาเป็นสัตว์ที่ขี้กลัว แต่ทว่าอาร์มาดิลโลตัวน้อยที่เขาได้เจอกลับยอมให้สัมผัสตัวได้ โดยไม่ขัดขืนและไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยซักนิด
.

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

“ผมเชื่อว่าผมไปอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเพื่อนตัวน้อยอย่างเจ้าอาร์มาดิลโล โดยปกติแล้วอาร์มาดิลโลตามธรรมชาติจะไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้ และการสัมผัสตัวก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่ง แต่เจ้าอาร์มาดิลโลน้อยที่ผมได้เจอกลับแตกต่าง เขาต้องการให้ผมช่วย”

เคลดสันกล่าว

.

หลังจากที่เคลดสันหาน้ำให้อาร์มาดิลโลตัวน้อยดื่ม เขาก็ไม่ได้จากไปไหนไกลยังคงยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าอาร์มาดิลโลไม่ต้องการความช่วยเหลืออื่นใดอีกแล้ว เคลดสันพยายามไม่เข้าไปรบกวนและเคลื่อนไหวช้าๆ อย่างระมัดระวังหวังเพื่อให้อาร์มาดิลโลตัวน้อยรู้สึกผ่อนคลายและไว้ใจเขามากขึ้น
.

CLEDSON MATIAS DE OLIVEIRA

.

แต่หลังจากที่ได้ยืนเฝ้าสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง... เคลดสันก็พบว่าอาร์มาดิลโลตัวน้อยยังมีอาการอ่อนแรงอยู่มาก นั่นทำให้เขามีความกังวลใจและไม่อาจปล่อยให้อาร์มาดิลโลต้องเผชิญกับชะตากรรมโหดร้ายในสภาพอากาศที่ร้อนระอุ และอีกไม่นานนักเขาก็คงจะต้องรับมือกับแนวไฟป่าที่กำลังลุกลามใกล้เข้ามาทุกที 
.
สุดท้ายแล้วเคลดสันก็ตัดสินใจอุ้มอาร์มาดิลโลตัวน้อยขึ้นรถ ก่อนพากลับไปดูแลต่อที่บ้านในวันนั้น ถึงแม้จะรู้ดีว่าการครอบครองหรือนำสัตว์ป่าสงวนมาดูแลก่อนได้รับอนุญาตจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายก็ตาม... เคลดสันยอมเสี่ยงเพราะตระหนักดีว่าการช่วยเหลือเพื่อให้อาร์มาดิลโลตัวน้อยรอดชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า หากเขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยสัตว์ตัวน้อยใกล้สูญพันธุ์ก็คงไม่มีโอกาสรอด จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าถ้าอาร์มาดิลโลตัวน้อยได้อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและได้ใช้ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อพักฟื้นร่างกาย ก่อนจะได้กลับไปมีชีวิตอิสระตามวิถีธรรมชาติเมื่อพร้อมอีกครั้ง 

.

“มันเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ เขาจะปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับผม และเมื่อเขาแข็งแรงมากพอแล้ว ผมก็จะส่งเขากลับบ้านอีกครั้งแน่นอน”

เคลดสันกล่าว

.

.

เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก

"อาร์มาดิลโล" มีส่วนหน้าและจมูกที่ยาว มีปากขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูเล็กๆ มีกรงเล็บที่แหลมคมทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง ใช้สำหรับขุดทำโพรงอยู่อาศัยและขุดหาอาหาร กินอาหารโดยการใช้ลิ้นที่ยื่นยาวและน้ำลายที่เหนียวตวัดกินแมลงจำพวกมด ปลวกและหนอนตามพื้นดิน มีเกราะหุ้มอยู่ตามตัวเป็นแผ่นๆ มีข้อต่อเชื่อมต่อกันเหมือนชุดเกราะ โดยเฉพาะที่หัวไหล่และด้านท้ายลำตัว

NPR

.

แต่ทั้งอาร์มาดิลโลและลิ่นเป็นสัตว์ที่อยู่ต่างอันดับกัน และอยู่ในอันดับใหญ่คนละอันดับกันด้วย โดยอาร์มาดิลโลมีความใกล้เคียงกับสลอทหรือตัวกินมดมากกว่า แต่ในอดีตทั้งอาร์มาดิลโลและลิ่นเคยถูกจัดอยู่ในอันดับเดียวกัน คือ Edentata ซึ่งแปลว่า "ไม่มีฟัน" แต่ความจริงแล้ว อาร์มาดิลโลมีฟัน เป็นฟันกรามที่มีขนาดเล็กและไม่แข็งแรง

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.