ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันหนึ่งในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา “วิล แบดแมน” (Will Badman) ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อมุ่งหน้าไปที่ชายหาดเวย์เมาธ์ ในเมืองดอร์เซท สหราชอาณาจักร วิลไม่ได้ขับรถไปที่นั่นเพื่อตามหาความสวยงามของท้องฟ้าในยามเช้าขณะที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงโผล่ข้ามเส้นขอบฟ้าเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทว่าเขากลับกำลังมองหา “แซมมี่” (Sammy) แมวน้ำตัวอ้วนสุดฮ็อตที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ต่างหากล่ะ
.
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เริ่มต้นขึ้นในสหราชอาณาจักร แซมมี่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ชายหาดเวย์เมาธ์เป็นครั้งแรกพอดี นั่นทำให้เขาได้พบกับชายหาดแสนสงบเพราะผู้คนต่างต้องพากันเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้านตามมาตรการการควบคุมโรคระบาด แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีผู้คนบางส่วนพยายามหาโอกาสออกมาเดินเล่นบนชายหาดอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับช่วงที่สถานการณ์ปกติ แซมมี่มีความสุขกับชายหาดแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งได้ค้นพบและเขาก็ชอบมากๆ ที่ได้มีอิสระในการอาบแดดบนหาดโดยไม่ต้องเกรงใจใคร มันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากที่สุดเลยล่ะ
.
แต่ทว่าหลังจากหลายเดือนผ่านไป... สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ค่อยๆ ดีขึ้น ผู้คนเริ่มปรับตัวเรียนรู้ที่จะป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาด นั่นจึงทำให้ผู้คนมั่นใจกล้าที่จะออกมารวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งแซมมี่ก็รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บนหาดที่เคยเงียบสงบเริ่มมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกที่เรียกว่ามนุษย์เข้ามาจับจองใช้พื้นที่หนาตาขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามนุษย์จะเป็นสิ่งที่แซมมี่ไม่คุ้นเคย แต่เขากลับไม่รู้สึกกลัว หลังจากที่ใช้เวลานานระยะหนึ่งเฝ้าสังเกตจนมั่นใจว่ามนุษย์เหล่านั้นใจดีและไม่คิดที่จะเข้ามารังแกทำอันตรายกับเขา...
.
สิ่งที่แซมมี่ได้เรียนรู้จากมนุษย์ทำให้เขามั่นใจว่ามนุษย์ส่วนใหญ่เป็นเพื่อน แต่ทว่าการที่มนุษย์เลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับเขากลับเป็นสิ่งที่ทำให้แซมมี่รู้สึกไม่ชอบและไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก แซมมี่เป็นแมวน้ำที่แตกต่าง เขามองโลกในแง่ดีกว่าแมวน้ำตัวอื่นๆ ชอบเข้าสังคมและรักการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นแซมมี่จึงไม่ต้องการนอนอาบแดดอยู่บนหาดลำพังแล้วปล่อยให้ความเงียบเหงากัดกินหัวใจ แซมมี่เลือกทำในสิ่งที่ต้องการนั่นคือการเดินเข้าไปแนะนำตัวเพื่อผูกมิตรกับเพื่อนมนุษย์แปลกหน้า ก่อนที่จะขอเข้าร่วมกิจกรรมกับมนุษย์เหล่านั้น
.
ขอกอดหน่อย จุ๊บเขาทีหนึ่งดิ ม๊วฟๆ
.
“แซมมี่เป็นแมวน้ำที่เป็นมิตรมากๆ เขาเป็นฝ่ายที่มักจะเข้าไปหาผู้คนก่อนเสมอ ก่อนที่จะชักชวนให้พวกเขาเล่นด้วย บางครั้งเขาก็จะกระโดดขึ้นไปบนกระดานโต้คลื่น เรือคายักหรือหลังผู้คนขณะที่พวกเขากำลังว่ายน้ำ ซึ่งเท่าที่สังเกตดูเหมือนเขาจะรักกล้องถ่ายรูปมากด้วยนะ เขาชอบอยู่ในเฟรม”
วิลกล่าว
.
วิลเล่าว่าครั้งหนึ่งในระหว่างที่กำลังยืนมองหาแซมมี่ ก่อนจะได้พบกับเขาซึ่งอยู่ไกลจากจุดที่กำลังยืนอยู่มาก จนทำให้ต้องหยิบกล้องพร้อมกับเลนส์ซูมระยะไกลขึ้นมาเพื่อถ่าย ซึ่งปฎิกิริยาของแซมมี่ที่วิลได้เห็นผ่านเลนส์กล้องในตอนนั้นคือ แซมมี่กำลังรู้ตัวว่ามีใครบางคนกำลังแอบถ่ายภาพเขาอยู่ แต่ทว่าหลังจากนั้นก็เกิดเหตุบางอย่างที่เกินความคาดหมายขึ้น แซมมี่ที่ควรจะรู้สึกเขินอายแต่กลับแสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เขาเริ่มขยับตัวแล้วเริ่มแอคท่าหล่อๆ ให้วิลบันทึกภาพจนสมใจอยาก อีกทั้งยังเชิญชวนราวกับจะบอกว่า "เอาเลยถ่ายฉันซิ เอาอีกๆ" แซมมี่หันหน้าให้กล้องก่อนจะยกมุมปากอวดยิ้มหวานๆ พร้อมกับโบกมือทักทายวิลหยอยๆ แซมมี่เป็นมิตรและน่ารักกว่าที่วิลและผู้คนคิดเอาไว้มาก... เขาเกิดมาเพื่อเป็นซูปเปอร์สตาร์! ร่างอวบแห่งท้องทะเลและชายหาดสีขาว
.
.
นอกจากความขี้เล่นและเป็นมิตรสุดๆ แล้ว ความซุกซนของแซมมี่ก็มีมากไม่แพ้กันเลย เพราะทุกๆ ครั้งที่เขาได้ออกไปว่ายน้ำนอกชายฝั่งจนเกิดรู้สึกเหนื่อยและเมื่อยขึ้นมา... เขาก็จะไม่ลังเลใจที่จะปีนขึ้นไปนอนอยู่บนกระดานโต้คลื่นที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนจะทำท่าทางแบ๊วๆ เพื่ออ้อนขอให้เพื่อนมนุษย์เจ้าของกระดานโต้คลื่นช่วยพาเขากลับเข้าฝั่ง ถึงแม้ว่าการว่ายน้ำจะพาเขาเข้าฝั่งได้เร็วกว่าแต่แซมมี่ก็เลือกที่จะนอนนิ่งๆ อยู่บนกระดานแล้วปล่อยให้มนุษย์ค่อยๆ พากลับเข้าฝั่งอย่างช้าๆ แซมมี่เป็นแมวน้ำที่มีความฉลาดและขี้เกียจพอๆ กัน
.
ไปส่งปากซอยหน่อยพ่อหนุ่ม
.
แซมมี่ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่เคยใส่ใจว่ารอบๆ ตัวเขาจะมีมนุษย์อยู่มากหรือน้อยแค่ไหน เขาจะมีความสุขมากขึ้นเสมอหากได้รับความสนใจและความสำคัญจากเพื่อนมนุษย์แปลกหน้า...
.
ชีวิตดี๊ดี พ่อหนุ่มคิดแบบมิเตอร์หรือว่าเหมาล่ะ เอาเป็นว่าฟรีล่ะกัน เห็นแก่พุงเราหน่อย...
.
ถึงแม้ว่าแซมมี่จะเป็นมิตรมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังคงเป็นสัตว์ป่าที่มีสัญชาตญาณสัตว์นักล่าไม่เปลี่ยน การที่เขาอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากจนเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้หากถูกกระตุ้นจากปัจจัยอื่นๆ รอบตัวที่คาดไม่ถึง นอกจากนั้นแล้ววิถีชีวิตของเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างผิดธรรมชาติในอนาคตได้ซึ่งจะมีผลเสียกับแซมมี่โดยตรง เห็นได้ชัดว่าในความน่ารักยังมีความไม่เหมาะสมและน่าเป็นห่วงตามมาหากมองในมุมของนักอนุรักษ์
.
ดังนั้นเพื่อให้แซมมี่และมนุษย์ที่ต้องเข้ามาใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติเกิดความปลอดภัยและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จึงมีการรวมตัวกันของกลุ่มอาสาสมัครเพื่อช่วยสอดส่องดูแลผู้คนและแซมมี่ ไม่พยายามให้พวกเขาต้องเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกันมากจนเกินไป
.
“เขาเป็นแมวน้ำที่น่ารักมากๆ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นเขา ผมคิดว่าการขับรถไปหนึ่งชั่วโมงเพื่อได้ไปเจอหน้าแซมมี่เพียงแค่ไม่กี่นาที มันคุ้มค่ามากเลยครับ”
วิลกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.