ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อนในช่วงช่วงเดือนมิถุนายน “นิกกี้ โรบินสัน” (Nikki Robinson) นักสัตววิทยาและช่างภาพสัตว์ป่าสาวชาวแคนาดาได้พบเข้ากับลูกแร็กคูนตัวน้อยที่กำลังนอนขดตัวอยู่บริเวณข้างถนนเพียงลำพัง นิกกี้ได้พยายามกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหาพ่อแม่แร็กคูนแต่ทว่าเธอก็ไม่พบร่องรอยของพวกเขาอยู่ในบริเวณนั้นเลย นิกกี้จึงตัดสินใจติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ป่าเพื่อขอความช่วยเหลือให้กับลูกแร็กคูนแต่ทว่าเธอกลับได้รับคำตอบที่ทำให้หัวใจสลาย....
.
.
“ตอนที่ฉันถามพวกเขาว่าคุณสามารถช่วยลูกแร็กคูนกำพร้าที่ฉันพบได้ไหม พวกเขาตอบกลับมาว่า ‘ปล่อยเขาไว้ที่นั่นแหละ ให้ธรรมชาติจัดการเขาเอง หรือ คุณจะพาเขาไปหาหมอก็ได้นะ แต่เขาก็จะถูกการุณยฆาตอยู่ดี’ สิ่งที่พวกเขาพูดทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าหัวใจกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ฉันไม่สามารถปล่อยมือจากแร็กคูนตัวน้อยแล้วละเลยให้เรื่องเลวร้ายแบบนั้นเกิดขึ้นได้แน่ ๆ”
นิกกี้กล่าว
.
นิกกี้จึงตัดสินใจพาลูกแร็กคูนกำพร้ากลับไปดูแลเองที่บ้าน วันนั้นเธอได้ตั้งชื่อน่ารัก ๆ ให้กับลูกแร็กคูนสำหรับการต้อนรับสู่อ้อมกอดแห่งความช่วยเหลือว่า “ลิตเติ้ลแฮนด์” (Little Hands)
.
ด้วยภาระงานที่มีทำให้นิกกี้ต้องใช้เวลาตลอดทั้งวันไปกับการทำงาน เธอจึงไม่สามารถดูแลลิตเติ้ลแฮนด์ได้เต็มที่อย่างที่ควร ดังนั้นนิกกี้จึงขอความช่วยเหลือจาก “ลินดา” (Linda) คุณแม่วัยเกษียณของเธอ แน่นอนว่าคุณแม่ลินดามีเวลาว่างมากพอที่จะดูแลลิตเติ้ลแฮนด์และให้นมเขา 5 ครั้งต่อวันได้ นิกกี้ได้พยายามอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสาเหตุที่ตัดสินใจช่วยลิตเติ้ลแฮนด์เอาไว้ให้กับคุณแม่ฟัง โชคดีที่คุณแม่ลินดายอมเข้าใจ เธอจึงตอบตกลงที่จะรับลิตเติ้ลแฮนด์มาอยู่ในความดูแล อย่างไรก็ตามการตัดสินใจช่วยลูกสาวครั้งนั้นก็เกิดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นักเพราะเธอรู้ดีว่าการช่วยเหลือต้องเสียสละและทุ่มเทความรับผิดชอบมากแค่ไหน
.
“ครั้งแรกที่คุณแม่ป้อนนมให้กับลิตเติ้ลแฮนด์ สายตาของเธอทำให้ฉันใจละลาย เธอปฏิบัติกับเขาด้วยความอ่อนโยนและทะนุถนอม เธอกำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่อบอุ่นและน่าจดจำให้กับเขาถึงแม้จะรู้ดีว่าอีกไม่นานเขาก็จะต้องกลับไปใช้ชีวิตในป่าอีกครั้งก็ตาม”
นิกกี้กกล่าว
.
.
ลิตเติ้ลแฮนด์เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง จนกระทั่ง 2 เดือนถัดมาเขาก็พร้อมสำหรับการออกไปใช้ชีวิตอิสระตามลำพังในป่า
.
ปัจจุบัน พ.ศ.2564 ลิตเติ้ลแฮนด์อาศัยอยู่ในป่าอย่างอิสระเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ทว่าด้วยสายสัมพันธ์ที่อบอุ่นเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาก็ยังคงทำให้เขาหมั่นแวะเข้ามาเยี่ยมคุณแม่ลินดาเพื่ออ้อนขอกอดอุ่น ๆ จากเธออยู่บ่อยครั้ง
.
“คุณแม่ของฉันได้ปล่อยลิตเติ้ลแฮนด์กลับสู่บ้านที่แท้จริงบริเวณป่าหลังบ้านของเธอ แต่ทว่าเขาย้อนกลับมาอาศัยอยู่ในสวนหลังบ้านของฉันนานสักพักก่อนจะตัดสินใจเข้าไปใช้ชีวิตอิสระในป่าอย่างที่ควรจะเป็น แต่ลิตเติ้ลแฮนด์ยังคงกลับมาและแสดงความเป็นมิตรกับทุกคนในครอบครัวของฉัน เขาไม่เปลี่ยนเลยยังเป็นแร็กคูนที่ใจดีเหมือนเดิม”
นิกกี้กล่าว
.
“ที่บ้านคุณแม่มีชิงช้าที่บริเวณชานบ้าน เธอมักจะออกไปนั่งพักผ่อนอยู่ที่นั่นเสมอ ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ลิตเติ้ลแฮนด์กลับมาที่บ้านเขาก็มักจะปีนขึ้นไปบนชิงช้าและนั่งอยู่ข้าง ๆ คุณแม่ของฉันประจำด้วยเช่นกัน เขาต้องการให้เธอกอดและแบ่งขนมให้ เมื่อเขาได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็จะเดินจากไปเอง”
นิกกี้กล่าวเสริม
.
.
นับตั้งแต่ที่ได้เปิดใจช่วยดูแลลิตเติ้ลแฮนด์เอาไว้ คุณแม่ลินดาก็กลายเป็นจิตอาสารับดูแลลูกแร็กคูนกำพร้าและถูกทอดทิ้งอีกจำนวนมากด้วยความต้องการของเธอเอง ลิตเติ้ลแฮนด์เป็นแรงบันดาลใจของคุณแม่ลินดาในการช่วยเหลือเหล่าลูกแร็กคูนตัวน้อยที่น่าสงสาร
.
การกลับมาเยี่ยมคุณแม่ลินดาไม่ได้เกิดขึ้นกับลิตเติ้ลแฮนด์เพียงตัวเดียว ทว่ายังเกิดขึ้นกับแร็กคูนตัวอื่น ๆ ที่คุณแม่ลินดาช่วยเอาไว้ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบ้านหลังใหญ่ของพวกเขาด้วยเช่นกัน พวกเขาล้วนแล้วมีความทรงจำที่ดีกับคุณแม่ลินดาผู้มีพระคุณผู้เปรียบเสมือนแม่แท้ ๆ ที่พวกเขารัก แต่สำหรับลิตเติ้ลแฮนด์แล้วเขาแตกต่างกว่าตัวอื่น ๆ นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยลืมหมั่นกลับมาเยี่ยมคุณแม่ลินดาอยู่บ่อยครั้งไม่เคยหายหน้าปล่อยให้คิดถึงนานเลย...
.
.
“ทุก ๆ วัน เธอจะนั่งอยู่บนชิงช้าตัวเดิมเสมอ เพื่อรอให้เหล่าแร็กคูนที่เคยช่วยดูแลในวัยเด็กกลับมาเยี่ยม เธอรักแร็กคูนทุกตัวที่เธอเคยดูแล พวกเขาเองก็รักเธอเหมือนกัน”
นิกกี้กล่าว
.
.
ด้วยความรักและความเมตตาของคุณแม่ลินดา เหล่าแร็กคูนกำพร้าจึงรอดและมีโอกาสได้ดื่มด่ำกับชีวิตที่มีความสุขและอิสรภาพในป่า... เช่นเดียวกับลูก ๆ ของคุณแม่ลินดา พวกเขารู้ดีว่าสามารถกลับไปที่บ้านเพื่อกินขนมอร่อย ๆ และอ้อนขอกอดอุ่น ๆ จากเธอได้เสมอ... ลินดาเป็น "คุณแม่" ที่วิเศษจริง ๆ
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.