โลกใบนี้คงไม่น่าอยู่หากมีเพียงมนุษย์ทรงภูมิปัญญาเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้เพื่อน โชคดีที่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะยังมีสัตว์นานาสายพันธุ์ใช้ชีวิตอยู่ร่วมโลกใบนี้ ซึ่งคงจะดีไม่น้อยถ้ามนุษย์จะช่วยดูแลพวกเขาเสมือนเพื่อน และใช้ความเมตตาในการอยู่ร่วมกันเพื่อทำให้โลกใบเล็กสีฟ้าน่าอยู่ขึ้น อย่างเรื่องราวของไข่นกใบเล็กที่ถูกทิ้งไว้ในกรงโดยไร้แม่นกดูแล ก่อนได้พบกับความโชคดีเมื่อมนุษย์แปลกหน้ายื่นมือเข้าไปช่วยดูแล กระทั่งรอดชีวิตฟักออกมาเป็นลูกนกตัวน้อยที่น่ารักและแข็งแรง ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนกลายเป็นนกเต็มวัยโผบินเริงร่าได้เช่นนกตัวอื่น ๆ แน่นอนสำหรับนกน้อยผู้รอดชีวิตแล้วนี่คือความสุข แต่สำหรับมนุษย์ผู้ช่วยเหลือนี่คือรอยยิ้มและความอิ่มเอมใจเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่การช่วยเหลือทว่าคือ "การให้ชีวิต" ซึ่งได้สร้างมิตรภาพและความผูกพัน
.
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ความบังเอิญได้นำพา “อัลวิน” (Alvin) ชายหนุ่มผู้หลงใหลการเลี้ยงสัตว์ปีกไปพบกับไข่ใบเล็ก ๆ ของแม่นกหงส์หยกภายในร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งที่เมืองฮาอาเลม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไข่ใบดังกล่าวถูกทิ้งเอาไว้ภายในกรงเลี้ยงที่มีนกตัวผู้อาศัยอยู่ จากการสอบถามเจ้าของร้านอัลวินจึงได้ทราบว่า แม่นกหงส์หยกเจ้าของไข่ถูกขายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โชคร้ายที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเธอกำลังฟักไข่อยู่! ไข่ใบเล็กจึงถูกทิ้งเอาไว้กับพ่อนกซึ่งเขาไม่รู้วิธีฟักไข่ แน่นอนว่าหากไข่นกขาดแม่หรือผู้มีประสบการณ์ดูแล นกหงส์หยกตัวน้อยในไข่ใบนั้นก็คงไม่มีโอกาสรอดชีวิต ด้วยความสงสารและพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้างอัลวินจึงตัดสินใจขอซื้อไข่ใบดังกล่าวกลับไปดูแลที่บ้าน
.
“แม่ของเขาเพิ่งจะถูกขายไป เขาคงไม่รอดถ้าไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วย”
อัลวินกล่าว
.
.
ถึงแม้ว่าอัลวินจะมีประสบการณ์ในการดูแลช่วยฟักไข่สัตว์ปีกมามาก ทว่าสำหรับไข่นกหงส์หยกแล้วนี่คือครั้งแรกของเขา การช่วยให้ไข่ใบจิ๋วฟักออกมาเป็นตัวและสามารถมีชีวิตรอดได้จึงเป็นเรื่องยากที่ท้าทายความสามารถมาก เขาค่อนข้างกังวลใจแต่ทว่าก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
.
.
อัลวินคอยดูแลไข่ใบจิ๋วอย่างดีภายในตู้ฟักที่ต้องควบคุมอุณหภูมิความร้อน ความชื้นและการถ่ายเทของอากาศให้คงที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกนกหงส์หยก ซึ่งแตกต่างจากการฟักไข่ของสัตว์ปีกประเภทอื่น ๆ อัลวินไม่มีความรู้และเขาต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อรักษาชีวิตลูกหงส์หยกตัวน้อยเอาไว้ให้ได้...
.
ไม่กี่สัปดาห์ถัดมาความทุ่มเทของอัลวินก็ประสบความสำเร็จ! ลูกนกหงส์หยกเพศผู้ค่อย ๆ กะเทาะเปลือกไข่ออกมาสัมผัสกับโลกใบใหญ่ ก่อนจะเซย์ฮัลโล! อัลวินคุณพ่อบุญธรรมของเขา แน่นอนการได้ช่วยกำเนิดชีวิตใหม่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ทำให้หัวใจของอัลวินพองโตมีความสุขอย่างที่สุด เขาดีใจที่ทำได้สำเร็จและยินดีกับลูกนกตัวน้อย!
.
.
ถึงแม้ว่าอัลวินจะสามารถช่วยให้ลูกนกหงส์หยกฟักออกมาจากไข่ได้สำเร็จแล้ว แต่ทว่าภารกิจยังไม่จบ! เพราะลูกนกตัวน้อยยังคงอยู่ในช่วงวิกฤติ ร่างกายที่อ่อนแออาจจะทำให้เขาไม่สามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันขณะตัวไร้ขนและแม่นกคอยดูแล ลูกนกตัวน้อยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดมากกว่าเดิมหลายเท่า อัลวินต้องทุ่มเทเวลาเกือบทั้งหมดเพื่อคอยป้อนอาหารวันละ 8 ครั้งและติดตามประเมินอาการลูกนกรายชั่วโมง...
.
.
อัลวินทุ่มเทสุดกำลังถึงแม้ว่าจะต้องเหนื่อย แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุข นกตัวน้อยไร้ขนและบอบบางค่อย ๆ เติบโตมีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งในระหว่างนั้นอัลวินก็มีความคิดที่จะช่วยให้นกตัวน้อยได้อยู่กับครอบครัว อัลวินจึงได้ติดต่อไปหาเจ้าของร้านขายสัตว์เลี้ยงเพื่อสอบถามถึงพ่อนกว่ายังอยู่ที่ร้านหรือไม่... ซึ่งโชคดีที่พอนกยังอยู่ที่ร้าน อัลวินไม่เสียเวลาคิดทบทวนนานรีบขอจับจองพ่อนกเอาไว้และวางแผนว่าหากลูกนกตัวน้อยแข็งแรงพร้อม เขาจะรีบไปรับพ่อนกมาอยู่กับลูกนกตัวน้อย
.
เมื่อลูกนกตัวน้อยเริ่มกระพือปีกแข็งแรงพร้อม อัลวินก็ทำตามสัญญาไปรับพ่อนกเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ทันทีที่พ่อนกถูกปล่อยออกจากกล่อง เขาก็รีบบินไปหาลูกนกทันทีราวกับว่ามีสัมผัสพิเศษสายใยผูกพันบางอย่างที่ทำให้รับรู้ได้ว่านั่นคือลูกของเขา
.
.
.
ปัจจุบันสองพ่อลูกนกหงส์หยกตัวน้อยอาศัยอยู่ภายในบ้านที่อบอุ่นของอัลวิน ในฐานะสมาชิกหนึ่งในครอบครัว แน่นอนบ้านหลังนี้จะดูแลและมอบความรักให้ทั้งสองได้มีความสุขได้ตลอดไปจนกว่าวาระสุดท้ายของพวกเขาจะมาถึง
.
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
นกหงส์หยก เป็นนกปากขอขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ที่มีลวดลายและสีสันที่สวยงาม ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของนกหงส์หยกอยู่ตามแถบทุ่งหญ้าในประเทศออสเตรเลีย มีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า "บัดจี" (budgie) หรือ "แพระคีต" (parakeet) ครั้งหนึ่งผู้คนทั่วไปเคยเข้าใจว่านกหงส์หยกเป็นนกที่อยู่ในจำพวกนกเลิฟเบิร์ด แต่ในปัจจุบันได้ยอมรับกันแล้วว่าเป็นนกคนละจำพวกกัน โดยผู้ที่ทำการอนุกรมวิธาน (จัดกลุ่ม) คือ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ จอห์น กูลด์ ที่เข้าไปศึกษาธรรมชาติวิทยาที่ออสเตรเลียเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว
.
โดยทั่วไปแล้วสีตามธรรมชาติ นกหงส์หยกมักมีขนสีเขียว, ฟ้า, เหลือง และขาว แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลายออกไปจากสีดั้งเดิมตามธรรมชาติในฐานะของการเป็นสัตว์เลี้ยง โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันตามลักษณะ อาทิ "โอแพล์ลิน", "อัลบิโนส์" และ"ลูติโนส์"
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.