ความรักและการปกป้องตามสัญชาตญาณความเป็น "แม่" นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะพรรณนาได้ พวกเธอสามารถทำในสิ่งที่เกินความคาดหมายและไร้ขอบเขตเพื่อลูกได้เสมอ เราสามารถพบความจริงข้อนี้ได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์แทบทุกสายพันธุ์ นี่เป็นสัญชาตญาณที่งดงามและเกิดขึ้นมาพร้อมกับชีวิตใหม่น้อย ๆ บนโลกนี้เสมอ หากยังคงแคลงใจและอยากได้ตัวอย่างที่ประจักษ์ เรื่องราวที่ด็อกคลิปนำมาเล่าในวันนี้อาจจะทำให้ได้รับคำตอบ
.
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา ผู้คนในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเขตจันทรา รัฐฌาร์ขันท์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดเมื่อช้างป่าตัวหนึ่งกำลังใช้เท้าและงวงของเธอพยายามขุดดินอย่างบ้าคลั่งยาวนานกว่า 11 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ตอนที่พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าทอแสงแรกทางทิศตะวันออกจนกระทั่งพระอาทิตย์สาดแสงและค่อย ๆ คล้อยต่ำอ่อนแรงอัสดงทางขอบฟ้าทิศตะวันตก
.
.
เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ประเทศอินเดียเชื่อว่า ช้างป่าสาวตัวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโขลงช้างป่าขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเคยพบเห็นขณะเดินผ่านมาใกล้ในเขตหมู่บ้านเมื่อไม่นานมานี้ แต่เห็นได้ชัดว่าโขลงช้างป่าตัดสินใจไม่รอและทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลัง เมื่อช้างป่าสาวบ้าคลั่งเอาแต่ง่วนอยู่กับการขุนดินไม่เลิก!
.
.
ในตอนแรกชาวบ้านต่างรู้สึกสงสัยและพยายามหาเหตุผลว่า อะไรกันแน่ที่เป็นเหตุจูงใจทำให้ช้างป่าสาวอยู่ที่นั่นลำพังเพื่อง่วนอยู่กับการขุดดินจนไม่ยอมเดินตามโขลงไปซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สมควรและปลอดภัยกว่า... ชาวบ้านต้องรักษาระยะห่างจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปหาคำตอบใกล้ ๆ ทำได้เพียงแค่คาดเดาและเฝ้ามองช้างป่าสาวอยู่ไกลหลายเมตรด้วยเกรงว่าจะเกิดอันตรายไม่ปลอดภัยต่อชีวิต เนื่องจากในประเทศอินเดียมักมีเหตุการณ์ช้างป่าทำร้ายมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง
.
.
.
หลังจากที่ช้างป่าสาวพยายามขุดดินได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงชาวบ้านก็ได้พบกับคำตอบสาเหตุที่ทำให้เธอไม่เดินตามโขลงและยังคงขุดดินอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมหยุดพักว่า แท้จริงแล้วช้างป่าสาวมีสถานะ "แม่" และลูกของเธอก็กำลังตกอยู่ในอันตรายตัวติดอยู่ในบ่อโคลน แม่ช้างยอมทิ้งโขลงเลือกที่จะอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องและช่วยลูกน้อย แม้จะรู้ดีว่าเป็นหนทางที่ต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายกับสัตว์นักล่าและมนุษย์ใจร้ายที่ไม่หวังดีก็ตาม
.
ตอนนั้นแม่ช้างเริ่มมีอาการวิตกกังวลและกระวนกระวายใจเป็นห่วงลูกน้อยหนักขึ้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกรายล้อมด้วยมนุษย์ ยิ่งกดดันหนักเมื่อการช่วยเหลือของเธอก็ดูมีท่าว่าจะไม่สามารถช่วยลูกน้อยได้ทันที ณ เวลานั้น แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ย่อท้อยังคงยืนหยัดที่จะพยายามต่อ หลังได้ทราบความจริงที่น่าเศร้าชาวบ้านต่างรู้สึกเห็นใจแม่ช้างและอยากจะมอบความช่วยเหลือแต่ทว่าพวกเขากลับไม่รู้วิธี...
.
การพยายามช่วยเหลือลูกช้างตัวน้อยของแม่ช้างดำเนินต่อนานหลายชั่วโมง แต่สถานการณ์กลับยังคงไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซ้ำร้ายเธอยังพลาดท่าดันโคลนที่ตักขึ้นมาลงไปในบ่ออีก ลูกช้างกำลังจะจมน้ำและแม่ช้างก็เริ่มอ่อนแรงลงทุกที
.
.
ในตอนนั้นเองที่ชาวบ้านต่างตระหนักได้ว่า หากพวกเขายังคงหวาดกลัวแม่ช้างผู้เปี่ยมด้วยความโอบอ้อมอารีต่อลูกน้อยและเพิกเฉยต่อความทุกข์ยากไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือแล้ว พวกเขาอาจจะต้องเสียใจและเจ็บปวดกับความทรงจำที่จะกลายเป็นฝันร้ายหลอกหลอนตลอดไปหากที่สุดแม่ช้างต้องสูญเสียลูกน้อยที่ไร้เดียงสาไปต่อหน้าต่อตา ชาวบ้านพร้อมใจจะไม่ทำแบบนั้นและเลือกที่จะมีมนุษยธรรม!
.
“จิเทนดา ทิวารี” (Jitendra Tiwari) หนึ่งในชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดตัดสินใจประกาศช่วย ก่อนจะขอความร่วมมือจากชาวบ้านคนอื่น ๆ ในชุมชนเพื่อรวมกลุ่มระดมกำลังและความคิดเพื่อช่วยช้างป่าสองแม่ลูก ซึ่งผลตอบรับนั้นน่าประทับใจมากชาวบ้านต่างเห็นด้วยและพร้อมใจที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
.
ไม่นานหลังระดมความคิดจิเทนดาก็ได้ข้อสรุปว่าภารกิจการช่วยเหลือในครั้งนี้ต้องแบ่งชาวบ้านออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเบนความสนใจแม่ช้างด้วยรถบรรทุกกล้วยเพื่อแยกแม่ช้างออกห่างจากลูกช้าง เมื่อสำเร็จแล้วกลุ่มที่สองจะเข้าไปขุดปากบ่อให้กว้างขึ้นก่อนจะปรับระดับดินเป็นทางลาดเพื่อสร้างทางขึ้นจากบ่อให้กับลูกช้างด้วยจอบและเสียมเท่าที่จะหาได้
.
.
เมื่อวางแผนอย่างรัดกุมดีแล้วปฏิบัติการการช่วยเหลือช้างป่าสองแม่ลูกก็เริ่มต้นขึ้น! ด้วยความหิวโหยทำให้แม่ช้างยอมเดินตามรถบรรทุกกล้วยไปอย่างว่าง่าย ทันทีที่ดึงความสนใจแม่ช้างออกห่างลูกน้อยได้ระยะปลอดภัยแล้ว รถบรรทุกก็หยุดลงและปล่อยให้แม่ช้างใช้งวงตวัดกล้วยกินทีละหวีอยู่ข้าง ๆ รถบรรทุกอย่างสบายใจ ในตอนนั้นเองที่เป็นจังหวะเหมาะชาวบ้านนับสิบพร้อมจอบและเสียมในมือก็กรูกันเข้าไปที่บ่อช่วยกันลงมือเร่งขุดดินกันอย่างเต็มกำลังก่อนที่แม่ช้างจะรู้ตัว
.
.
ด้วยความปรารถนาดีและสามัคคีของชาวบ้าน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถช่วยลูกช้างกลับขึ้นมาจากบ่อได้สำเร็จ แม่ช้างและลูกช้างปลอดภัยดีทั้งคู่
.
.
แม่ช้างและลูกช้างมีสภาพเหนื่อยล้าแต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ไม่ยอมหยุดพักอยู่ในวงล้อมของชาวบ้านผู้ช่วยเหลือ ช้างป่าสองแม่ลูกตัดสินใจเดินกลับเข้าป่าไปทันทีที่ได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง ทั้งคู่ไม่ต้องการเสียเวลาและทิ้งระยะห่างจากโขลงไปมากกว่านี้ ภารกิจของช้างป่าสองแม่ลูกยังไม่สิ้นสุดและต้องสู้กันอีกหนึ่งอึกใจ
.
อย่างไรก็ตามการได้เห็นช้างป่าสองแม่ลูกกลับมาเดินเคียงข้างกันอีกครั้งอย่างมีความสุขก็เป็นสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดแล้วล่ะ ซึ่งมันจะกลายเป็นภาพความประทับใจที่พวกเขาไม่มีวันลืมแน่ ๆ การร่วมตัดสินใจทำในสิ่งที่มีมนุษยธรรมไม่ได้ทำให้ช้างหรือมนุษย์ต้องเจ็บปวดหรือพบกับความสูญเสีย แต่หากว่ากลับทำให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของเพื่อนสัตว์ตัวยักษ์ได้พบกับความสุข ส่วนชาวบ้านก็ได้เห็นคุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบหนทางการเอาชนะความหวาดกลัวด้วยสติปัญญา
.
ไม่เป็นไรแล้วลูกรักของแม่ เราจะกลับบ้านกันนะ
.
กลับบ้านกันลูก ขอบคุณนะมนุษย์ใจดี
.
ดีใจด้วย! ขอให้พบโขลงและมีชีวิตสงบสุขในป่าบ้างหลังใหญ่นะครับ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
