สองสามีภรรยามึนตึบ! แมวอ้วนปริศนาทำเนียนย่องเข้าบ้านขอนอนด้วยทุกคืน

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

“จอห์น” (John) และ “อเล็กซ์ แซนเดอร์” (Alex Sanders) สองสามีภรรยาจากเมืองฮาวน์ทอร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย มักจะเปิดประตูบริเวณชานบ้านทิ้งเอาไว้เสมอในช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้ลมธรรมชาติพัดผ่านบานประตูเข้าตัวบ้าน ซึ่งนั่นช่วยทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายนอนหลับสนิท จอห์นและอเล็กซ์ทำแบบนี้เป็นประจำในทุกๆ วัน ซึ่งทุกอย่างก็ดูเรียบร้อยดีไม่เคยมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยใดๆ จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้พบกับน้องแมวเหมียวรูปร่างอวบขนสีส้มปริศนาหน้ามึนๆ บุกเข้าบ้าน โชคดีที่น้องเหมียวไม่ได้มาพร้อมกับอาวุธอันตรายหวังทำร้ายแต่กลับมีบางอย่างที่น่าเป็นห่วง น้องแมวตัวดังกล่าวทำตัวแปลกๆ เดินชิลทอดน่องเข้ามาทักทายสองสามีภรรยาด้วยอาการนิ่งสงบ ทำตัวเนียนราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้มานาน แน่นอนสองสามีภรรยามึนตึ๊บ! "นี่มันอะไรกันเนี่ย ตกลงเราเคยมีน้องแมวอยู่ในบ้านมาก่อนแล้วใช่มั๊ย? " จอห์นและอเล็กซ์ก็คงกำลังคิดแบบนั้นเมื่อได้เห็นน้องแมวปริศนาปรากฏตัวในบ้านกลางดึก

John Sanders

.

“น้องแมวเดินเข้ามาในบ้านของเรา และเริ่มเดินสำรวจไปรอบๆ ราวกับว่าที่นี่คือบ้านของเขาโดยไม่มีความเขินอายหรือเกรงใจอะไรใดๆ พวกเราเลย”

จอห์นกล่าว

.

ขณะที่จอห์นและอเล็กซ์กำลังมึนๆ ทบทวนกับตัวเองอยู่ว่า "เอ...เราเลี้ยงน้องแมวด้วยเหรอ" น้องเหมียวก็เริ่มเดินสำรวจไปรอบๆ ท่าทางดูสนุกเชียวล่ะ สองสามีภรรยาจึงเข้าไปทักทายน้องแมวเพื่อทำความรู้จักอย่างเป็นมิตร โชคดีที่น้องแมวปริศนาเป็นมิตรซึ่งหลังจากที่ทักทาย ลองสัมผัสตัวเขาดูจอห์นก็แน่ใจว่าน้องแมวปริศนาไม่ได้เมากัญชาแมวด้วย
.
เมื่อดูท่าทางน้องแมวแล้วไม่ดุและไม่น่าจะเป็นนกต่อของพวกโจรร้าย...จอห์นจึงเดินเข้าไปอุ้มเขาขึ้นมากอดเอาไว้ด้วยความเอ็นดู ในตอนนั้นเองที่ทำให้จอห์นได้สังเกตเห็นป้ายเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ตรงปลอกคอน้องแมว ซึ่งบนป้ายบอกว่าน้องแมวมีชื่อว่า “ทิกเกอร์” (Tigger) พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับถึงผู้ปกครองของเขาด้วย เมื่อเห็นดังนั้นจอห์นจึงรีบโทรไปแจ้งให้ผู้ปกครองของทิกเกอร์ทราบเพื่อทำให้พวกเขาสบายใจว่า ทิกเกอร์ไม่ได้หายไปไหนแต่กำลังเที่ยวเตร่ปีนเข้าในบ้านของเขาเพื่อมาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อยู่ และไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะตอนนี้เขากำลังนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาของเขาด้วยอาการพอใจสุดๆ

John Sanders

.

ทันทีที่เจ้านายของทิกเกอร์ได้ทราบเรื่องก็เร่ง ขอโทษจอห์นและอเล็กซ์ที่น้องแมวของเขาบุกเข้าไปรบกวน พร้อมกับบอกว่าทิกเกอร์ชอบออกไปเดินเที่ยวนอกบ้านอยู่เป็นประจำ เขาจึงต้องติดป้ายชื่อที่มีหมายเลขโทรศัพท์ส่ววนตัวห้อยเอาไว้ที่ปลอกคอของทิกเกอร์
.
ไม่นานนัก...ผู้ปกครองของทิกเกอร์ก็มารับทิกเกอร์กลับบ้าน แต่ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จอห์นและอเล็กซ์ได้พบกับทิกเกอร์น่ะ

.

“วันต่อมาทิกเกอร์ได้กลับมาที่บ้านของเราอีกครั้งในเวลาเดิม ผมค่อนข้างรู้สึกมึนงงเล็กน้อยว่า เขาติดใจอะไรที่นี่ แต่เรารู้ว่าเขาเป็นเด็กดีจึงไม่ได้รู้สึกรำคาญหรือพยายามที่จะไล่ให้เขากลับบ้าน เราปล่อยให้เขาเดินสำรวจบ้านอย่างสบายใจ”

จอห์นกล่าว

.

นับจากวันนั้นเป็นต้นมาทิกเกอร์ก็มักจะแวะมาเยี่ยมจอห์นและอเล็กซ์สองสามีภรรยาเพื่อนใหม่ของเขาทุกๆ วัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ในช่วงกลางคืนจะพิเศษกว่าหน่อยเพราะทิกเกอร์จะเข้าไปนอนบนเตียงกับจอห์นและอเล็กซ์ในห้องนอนด้วย! ผู้ปกครองของทิกเกอร์ยอมรับว่าน้องแมวของเขาค่อนข้างเอาแต่ใจ อาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทิกเกอร์เลือกครอบครัวของจอห์นและอเล็กซ์ให้เป็นเสมือนครอบครัวที่ 2 ของเขา

John Sanders

.

“ตารางกิจกรรมของทิกเกอร์มีดังนี้ เขาจะมาที่บ้านของเราตอนประมาณ เที่ยง - บ่ายสอง และอีกครั้งตอน สี่โมงเย็น - หกโมงเย็น พอถึงช่วงเวลาประมาณ 3-5 ทุ่ม เขาก็จะกลับมาหาเราอีกครั้งและเข้าไปนอนกับเราบนเตียงอย่างสบายอกสบายใจ พอรุ่งเช้าเขาก็จะกลับบ้าน เขาจะทำแบบนี้เหมือนเดิมทุกๆ วัน การมานอนกับเรามันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปเสียแล้ว แต่ก็มีบางวันนะที่เขาไม่ได้แวะมาทักทายเราเลย ผมคิดว่าเขาอาจจะแวะไปที่บ้านหลังอื่นน่ะ ”

จอห์นกล่าว

.

ในตอนแรกจอห์นและอเล็กซ์ก็เกรงว่าผู้ปกครองของทิกเกอร์จะรู้สึกเป็นห่วงน้องแมวของเขาและกลัวว่าการที่ทิกเกอร์ต้องออกมาเดินนอกบ้านลำพังจะทำให้เข้าได้รับอันตรายได้ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามฝึกให้ทิกเกอร์กลับไปนอนที่บ้านของเขาเองในช่วงกลางคืน แต่ดูเหมือนว่าทิกเกอร์จะเอาแต่ใจกว่าที่จอห์นและอเล็กซ์คิดเอาไว้มาก ทิกเกอร์จะไม่ยอมทำอะไรก็ตามที่เขาไม่ต้องการทำ จนในที่สุดจอห์นและอเล็กซ์ก็ต้องยอมแพ้ต่อความดื้อรั้นของทิกเกอร์

.

จอห์นและอเล็กซ์ยอมให้ทิกเกอร์เข้ามานอนด้วยทุกๆ คืนบนเตียงเดียวกับพวกเขา บางวันที่ทิกเกอร์มาไม่ตรงเวลาและพวกเขาก็ไม่ได้เปิดประตูทิ้งเอาไว้ จอห์นและอเล็กซ์ก็จะนอนรออยู่บนเตียงเงียบๆ เพื่อฟังเสียงเคาะประตูของทิกเกอร์ ถ้าทิกเกอร์มาถึงเขาก็จะเคาะประตูเรียก... และในตอนนั้นแหละที่จอห์นและอเล็กซ์จะต้องลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้งแล้วเดินตรงไปเปิดประตูให้ทิกเกอร์เข้ามา ก่อนจะพาเขาไปนอนด้วยกันบนเตียง

John Sanders

.

“คุณพ่อของทิกเกอร์บอกกับเราว่า ทิกเกอร์ชอบทำตามใจตัวเองและเป็นเรื่องยากที่จะห้ามไม่ให้เขาทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่เขารัก และการที่ทิกเกอร์ชอบเดินมานอนกับเราบ่อยๆ นั่นก็อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขารักก็ได้ คุณพ่อของเขาขอบคุณที่พวกเราดูแลทิกเกอร์เป็นอย่างดี เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เมื่อทราบว่าทิกเกอร์เข้ามานอนกับพวกเรา มากกว่าที่จะไปนอนอยู่ข้างถนน”

จอห์นกล่าว

.

John Sanders

.

จอห์นและอเล็กซ์ไม่สามารถหาเหตุผลใดๆ มาอธิบายได้เลยว่าทำไมทิกเกอร์น้องแมวเหมียวเอาแต่ใจตัวนี้ถึงได้ชอบและติดใจการที่จะได้ใช้เวลาที่มีร่วมกับพวกเขา แต่จอห์นและอเล็กซ์บอกว่าการที่มีทิกเกอร์เข้ามานอนด้วยทุกคืนแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเขามีความสุขขึ้นมากเลยน่ะ ตอนนี้พวกเขาหลงรักทิกเกอร์เข้าอย่างจังและมองว่าทิกเกอร์เป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัวไปซะแล้วในตอนนี้ "เขาเป็นหลานรัก"

John Sanders

ในที่สุดภารกิจยึดบ้านของทิกเกอร์ก็สำเร็จ! ต่อไปก็ฮุบมรดก 5555 หยอกเล่น น่า...

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.