แร็กคูนพิการวิ่งปร๋อได้อย่างที่ฝัน หลังเด็ก ๆ รวมพลังช่วยกันสร้างวีลแชร์ให้

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

ช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2563 ที่เมืองเกลนเดล รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีน้องหมาของสาวพลเมืองดีรายหนึ่งได้คาบลูกแร็กคูนกลับมาให้นายรักถึงที่บ้าน ลูกแร็กคูนตัวเล็กและยังเด็กมาก ๆ ด้วยตกใจสาวพลเมืองดีจึงพยายามตามหาพ่อแม่แร็กคูนผู้โชคร้ายที่อาจจะยังคงอยู่ในบริเวณนั้น แต่ทว่าหลังจากเดินตามหาและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอกลับไม่พบ... เพื่อให้ลูกแร็กคูนรอดชีวิตสาวพลเมืองดีจึงเร่งติดต่อไปขอความช่วยเหลือจาก “แมรี่ คีย์” (Mary Key) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำโนลินเพื่อให้รับลูกแร็กคูนตัวน้อยไปดูแล...

.

แมรี่หลงรักลูกแร็กคูนตัวน้อยตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า เธอยินดีรับลูกแร็กคูนตัวน้อยไปดูแลต่อพร้อมกับตั้งชื่อให้กับเขาว่า “บูน” (Boone)

.

nolinriverwildlife

.

ด้วยพอมีประสบการณ์ในการดูแลลูกแร็กคูนแรกเกิดอยู่บ้าง นั่นจึงทำให้บูนได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจนสามารถรอดชีวิตผ่านช่วงเวลาวิกฤติมาได้ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแร็กคูนจะแข็งแรงดีแมรี่จึงยังคงดูแลบูนเรื่อยมา กระทั่งลูกแร็กคูนตัวน้อยค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนกลายเป็นแร็กคูนวัยหนุ่มที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ทว่าโชคไม่เข้าข้างบูนนักเมื่อจู่ ๆ ร่างกายของเขาก็แสดงอาการผิดปกติบางอย่างให้แมรี่ได้สังเกตเห็น...

nolinriverwildlife

.

“บูนได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ว่า เขาป่วยเป็นโรคหายากชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า Cerebral Hypoplasia โรคดังกล่าวจะส่งผลทำให้เขาไม่สามารถเดินได้ อย่างที่เล่าบูนเข้ามาอยู่ในความดูแลของฉันตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นทารกตัวน้อยและเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเริ่มหัดเดิน ฉันก็สังเกตเห็นปัญหาเกี่ยวกับการเดินของเขา”

แมรี่กล่าว

.

สมองในส่วนการควบคุมการทรงตัวของบูนผิดปกติ! ส่งผลทำให้บูนไม่สามารถเดินได้เหมือนกับแร็กคูนตัวอื่น ๆ เขามักจะเซล้มลงทุกครั้งเมื่อเริ่มก้าวเท้าเดิน บูนไม่สามารถควบคุมแขนขาของเขาได้ ขณะที่แมรี่ก็ได้พยายามคิดหาวิธีช่วยบูนสัตว์ตัวน้อยที่เปรียบเสมือนลูกบุญธรรมของเธอให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข แมรี่เริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดนั่นคือการหาวีลแชร์ที่มีขนาดพอเหมาะมาให้กับบูนได้ใช้ เธอหวังว่ามันจะช่วยพยุงร่างกายของและพาบูนออกไปวิ่งเล่นได้ด้วยตัวเอง แต่ทว่าหลังจากที่ได้ลองค้าหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เธอก็พบว่าวีลแชร์สำหรับบูนกลับมีราคาแพงเกินกว่าจะมีกำลังซื้อ... 

nolinriverwildlife

.

nolinriverwildlife

.

ดังนั้นแมรี่จึงเปลี่ยนวิธีเลือกที่จะติดต่อไปที่โรงเรียนมัธยม Central Hardin ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน เธอหวังว่าเด็กนักเรียนอาจจะช่วยออกแบบวีลแชร์แบบพิเศษให้กับบูนได้!

.

เมื่อฝ่ายบริหารของโรงเรียนทราบเรื่องก็ตอบรับให้การสนับสนุน พวกเขายินดีอย่างยิ่งที่จะให้นักเรียนได้มีส่วนช่วยเหลือแร็กคูนพิการ เพราะนั่นถือเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนวิชาวิศวกรรม การแก้ปัญหาในครั้งนี้จะช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ว่าความรู้ทางวิศวกรรมที่พวกเขามีสามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือหรือสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง...

.

หลังจากที่ได้รับการอนุญาตและสนับสนุนอย่างเป็นทางการ แมรี่ก็ได้พาบูนไปแนะนำตัวให้กับเด็กนักเรียนได้รู้จัก ด้วยความน่ารักของบูนก็ทำให้เด็กนักเรียนต่างตกหลุมรักเขาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน พวกเขาให้ความสนใจบูนมากและมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยทำให้บูนมีชีวิตที่ดีขึ้น 

.

ในระหว่างการพัฒนาวีลแชร์ให้กับบูน แมรี่จะต้องพาบูนไปที่โรงเรียนมัธยม Central Hardin เป็นประจำแทบทุกวันตลอดระยะเวลา 2-3 เดือน จนในที่สุดผลงานของเด็กนักเรียนก็ถูกสร้างขึ้นตามภาพที่ถูกออกแบบเอาไว้ พวกเขาได้สร้างต้นแบบวีลแชร์ขึ้นได้สำเร็จ เห็นได้ชัดว่าความฝันของแมรี่และเด็กนักเรียนทุกคนที่อยากจะได้เห็นบูนวิ่งเล่นได้เหมือนแร็กคูนตัวอื่น ๆ ใกล้เป็นความจริงเข้าทุกทีแล้ว

.

nolinriverwildlife

.

“รัสส์ ไพค์” (Russ Pike) อาจารย์ที่ปรึกษาของโครงการกล่าวว่าเขาและเด็กนักเรียนอีกหลายคนรู้สึกดีใจ ปลื้มและอิ่มเอมใจกันมากจนมีน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่ได้เห็นสีหน้าและแววตาที่มีความหวังเปี่ยมความสุขของบูนขณะที่ได้ลองเริ่มใช้ต้นแบบวีลแชร์ที่พวกเขาร่วมกันพัฒนาและลงแรงช่วยกันสร้างขึ้น

nolinriverwildlife

.

“บูนเป็นแร็กคูนที่น่าทึ่งจริง ๆ ในตอนที่เขาลองใช้วีลแชร์เป็นครั้งแรกคุณจะได้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากเขาดูตื่นเต้นและรับรู้ว่าชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว บูนเป็นแร็กคูนที่น่ารักและอ่อนหวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในตอนนี้เขาสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้วนะ”

รัสส์กล่าว

.

nolinriverwildlife

.

nolinriverwildlife

.

โดยปกติแล้วเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีภารกิจมุ่งเน้นช่วยเหลือสัตว์ป่าก่อนที่จะส่งคืนพวกเขากลับคืนสู่ธรรมชาติตามเดิม แต่ทว่าความพิการของบูนเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตในธรรมชาติและต้องได้รับการดูแลจากมนุษย์อย่างใกล้ชิด นั่นจึงทำให้บูนจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากับแมรี่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย แต่ชีวิตในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะไม่เหงาเกินแล้วในตอนนี้ เพราะบูนสามารถวิ่งออกไปเดินสำรวจรอบ ๆ สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้อย่างอิสระด้วยวีลแชร์คันเก่งจากเด็กนักเรียนชั้นมัธยมที่ร่วมแรงช่วยสร้างให้!

nolinriverwildlife

.

nolinriverwildlife

.

หลังจากที่บูนได้รับวีลแชร์ที่สมบูรณ์แบบและฝึกปรับตัวจนสามารถออกเดิน วิ่งเล่นได้อย่างมีความสุข การเดินทางของเขาก็นำพาไปพบกับเพื่อนใหม่อย่าง “เบนตัน” (Benton) น้องหมาสายพันธุ์เกรทไพรีนีสตัวโตนิสัยดีและอ่อนโยนที่อาศัยอยู่ภายในสำนักงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทั้งสองทำความรู้จักและสนิทสนมกันเร็วมาก ห่วงใยกันราวกับเป็นคนในครอบครัว

.

nolinriverwildlife

.

“บูนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเบนตัน พวกเขารักกันมากเบ็นตันจะนั่งอยู่ข้าง ๆ บูนตลอดทั้งวัน เขาจะคอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน ถึงแม้บางเวลาที่เบนตันไม่ได้นั่งอยู่ข้าง ๆ บูน แต่สายตาของเขาก็จะยังคงคอยเฝ้ามองบูนอยู่เสมอ”

แมรี่กล่าว

.

nolinriverwildlife

.

แมรี่รู้สึกขอบคุณเด็กนักเรียนและคุณครูของพวกเขาจากใจที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อมอบความช่วยเหลือให้กับบูน จนทำให้ชีวิตแสนอาภัพของเขากลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ตอนนี้บูนและเบนตันเพื่อนของเขากำลังวิ่งเล่นสนุกด้วยกัน ชีวิตบูนเปลี่ยนไปมากจริง ๆ

.

nolinriverwildlife

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.