เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Welfare League of Arlington ในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งจากหญิงชาวเมืองเจ้าของบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในสวนส่วนตัวใกล้เขตป่าว่า “พบลูกหมาจิ้งจอกตัวน้อยกำลังนั่งร้องไห้งอแงหาแม่ในสวนหลังบ้านของเธอตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา” เมื่อได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ก็จัดทีมลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือสัตว์ตัวน้อยในเวลาต่อมา...
.
เมื่อ “บอลเลน่า” (Ballena) และ “เอลเปอร์ส” (Elpers) สองเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบภารกิจช่วยเหลือในครั้งนี้จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ฯ ได้เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าวก็ได้พบกับลูกหมาจิ้งจอกตัวน้อยขนฟู ดวงตาใสแป๋วหน้าตาน่ารักดูไร้เดียงสาสุด ๆ กำลังนั่งอยู่บนพื้นดิน แต่ทว่าท่าทางและแววตาของเขาที่มองจ้องเจ้าหน้าที่กลับดูหวาดกลัวและอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าใกล้ลูกจิ้งจอกตัวน้อยก็ยิ่งส่งเสียงร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือดุร้ายออกมา อย่างไรก็ตามน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเจ้าหน้าที่ก็ทำให้ลูกจิ้งจอกตัวน้อยยอมเงียบเสียงลงก่อนจะปล่อยให้สัมผัสตัวอย่างว่าง่าย
.
ด้วยท่าทางที่ดูไร้เดียงสาของลูกจิ้งจอกตัวน้อยทำให้สองเจ้าหน้าที่วางใจรีบเข้าไปอุ้มเขาขึ้นมาไว้ในตะกร้าที่เตรียมมาด้วยทันทีที่มีโอกาส ซึ่งพวกเธอก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าตัวน้อยเป็นอย่างดี นั่นอาจเป็นเพราะเขาหมดแรงและเริ่มอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังทั้งหมดร้องเรียกหาแม่จิ้งจอกมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา หรืออาจจะเป็นเพราะความหวังดีจากเจ้าหน้าที่ใจดีทั้งสองคนก็เป็นไปได้
.
บอลเลน่าและเอลเปอร์สไม่ได้พาลูกจิ้งจอกตัวน้อยกลับไปดูแลต่อที่ศูนย์ฯ เนื่องจากพวกเธอตระหนักดีว่า การที่ลูกจิ้งจอกตัวน้อยได้กลับไปอยู่ในความดูแลของแม่จิ้งจอกตามธรรมชาติย่อมเป็นสิ่งที่ดีและสมควรมากที่สุด สิ่งที่พวกเธอทำได้ในตอนนั้นคือต้องช่วยให้ลูกจิ้งจอกไม่วิ่งซุกซนเตลิดออกไปนอกสวน พยายามจำกัดพื้นที่และปกป้องลูกจิ้งจอกจากสัตว์นักล่าตัวอื่น ๆ ด้วยการป้อนนมและน้ำให้กับลูกจิ้งจอกตัวน้อยได้อิ่มท้องเพราะนอกจากอาการตกใจและหวาดกลัวแล้ว ความหิวก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกจิ้งจอกร้องงอแงไม่หยุดซึ่งนั่นเป็นเรื่องเลวร้ายทำให้เขาตกเป็นเป้าของสัตว์นักล่าที่หิวโหย ทันทีที่ลูกจิ้งจอกกินอิ่มและสงบลงเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ยกตะกร้าไม้สานไปวางไว้ในมุมสงบใกล้กอไม้ภายในสวน
.
“เมื่อเขาอยู่ในตะกร้าแล้ว เขาก็จะไม่สามารถเดินไปไหนได้ตามใจชอบ เราเชื่อว่าแม่ของเขาน่าจะยังคงอยู่ใกล้ ๆ ในบริเวณนั้นและอีกไม่นานเธอจะต้องกลับมารับลูกกลับบ้านแน่นอน”
บอลเลน่ากล่าว
.
บอลเลน่าและเอลเปอร์สขอความร่วมมือจากเจ้าของบ้านให้ช่วยจับตาดูลูกจิ้งจอกตัวน้อยอย่างใกล้ชิดและแนะนำให้เธอระมัดระวังไม่ควรเดินเข้าไปใกล้บริเวณที่ตะกร้าไม้สานวางอยู่ หรือ ทำกิจกรรมอื่นใดที่เป็นการรบกวนลูกหมาจิ้งจอกหากไม่จำเป็นในระหว่างที่เขากำลังรอให้แม่จิ้งจอกกลับมารับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ได้ขอตัวกลับศูนย์ฯ เพื่อรอฟังข่าวดี
.
“เจ้าของบ้านคอยจับตาดูจิ้งจอกตัวน้อยอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวันและในเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็แจ้งข่าวดีกับเราว่า แม่จิ้งจอกมารับลูกของเธอกลับบ้านไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา”
บอลเลน่ากล่าว
.
บอลเลน่าและเอลเปอร์สรวมถึงเจ้าของบ้านต่างรู้สึกดีใจมากที่แผนทั้งหมดบรรลุเป้าหมายสามารถส่งลูกจิ้งจอกตัวน้อยวัยไร้เดียงสากลับคืนสู่อ้อมอกแม่จิ้งจอกได้สำเร็จ เห็นได้ชัดว่านี้คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่ายและนี่ก็เป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยม บางครั้งการช่วยเหลือสัตว์ก็ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์เพียงอย่างเดียวแต่ทว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเพื่อนสัตว์ได้เช่นกัน...
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
จิ้งจอกแดง (Red fox) มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับน้องหมาทั่วไป แต่มีขนาดเล็กกว่า ขนตามลำตัว มีสีเทาแดงหรือสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม สีขนบริเวณปลายหูและขามีสีดำ สีขนอาจมีเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ กล่าวคือ สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงที่มีอากาศมีความชื้นสูง และอาจจะมีสีขนที่แตกต่างหากหลายออกไป เช่น สีเงิน, สีขาวล้วน
.
จิ้งจอกแดงมีความยาวลำตัวและหัว 49-65 เซนติเมตร ความยาวหาง 20-40 เซนติเมตร มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง จึงทำให้มีชนิดย่อย มากมายถึง 45 ชนิด พบทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง, ปากีสถาน ภาคเหนือของอินเดีย, เนปาล, ภูฏาน, ภาคเหนือของพม่า, จีน, ภาคเหนือของลาวและเวียดนาม
.
จิ้งจอกแดงสามารถผสมพันธุ์ได้เกือบตลอดทั้งปี ใช้เวลาตั้งท้อง 49-55 วัน โดยที่ตัวพ่อและแม่จะช่วยกันเลี้ยงดูลูกในรังช่วง 3 เดือนแรก เมื่อลูกมีอายุครบปีแล้ว ก็จะแยกตัวออกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง และจากการศึกษานานกว่า 40 ปี ของนักวิจัยพบว่า จิ้งจอกแดงสามารถส่งเสียงร้องได้หลากหลายมากถึง 40 เสียง สำหรับการสื่อสารกันเอง, การหาคู่ หรือการสื่อสารกันเฉพาะในฝูงหรือครอบครัว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.