เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Independent ประเทศอังกฤษได้รายงานว่า “อลัน โฮวลี่ฮาน” (Alan Houlihan) และ “มุยเรียน” (Muireann) ลูกสาววัย 5 ขวบของเขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าผู้มาเยือนเกาะวาเลนเทีย ประเทศไอร์แลนด์
.
ในแว๊บแรกที่มองเห็น... อลันเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าผู้มาเยือนคือแมวน้ำตัวโต! แต่หลังจากที่ขยี้ตาและยืนเพ่งมองอยู่นานเขาก็สังเกตเห็นรายละเอียดของสิ่งมีชีวิตตัวดังกล่าวชัดขึ้น เขาเปลี่ยนความคิดเมื่อได้เห็นงาสีขาวที่ยาวออกมาจากปากของสิ่งมีชีวิตแปลกหน้า แน่นอนแมวน้ำไม่มีงาสีขาว อลันรู้ทันทีว่าผู้มาเยือนคือ “วอลรัสอาร์กติก” ซึ่งนั่นยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเขาหนักเข้าไปอีกเพราะตามปกติแล้ววอลรัสอาร์กติกจะไม่สามารถพบได้ในบนเกาะวาเลนเทีย ดังนั้นการได้เห็นวอลรัสอาร์กติกตัวเป็น ๆ ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าจึงทำให้อลันและลูกสาวของเขารู้สึกตื่นเต้นมากจนต้องหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้ เพราะหากเอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังโดยปราศจากหลักฐานคงยากจะเชื่อ!
.
“เขากระโดดขึ้นไปนั่งบนก้อนหิน เขามีขนาดใหญ่มาก น่าจะเท่ากับหรือใกล้เคียงวัวตัวหนึ่งเลยล่ะ”
อลันกล่าวกับสำนักข่าว The Independent
.
![](https://www.dogsclip.co/img/upload/02Articles/InarticleImg/20210317-DC6051ce68b003b/2.jpg)
.
อลันจะรู้จักและเคยได้มีโอกาสได้เห็นวอลรัสอาร์กติกตัวเป็น ๆ มาบ้างแล้วก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังพอทราบมาบ้างแล้วว่าส่วนใหญ่พวกเขาจะอาศัยอยู่ในน่านน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำอย่างในบริเวณขั้วโลกเหนือด้วย นั่นจึงทำให้เขารู้สึกสับสนและมึนงงว่าวอลรัสอาร์กติกตัวที่อยู่ตรงหน้าเดินทางข้ามหาสุมทรกว้างใหญ่ไกลกว่า 4.3 พันกิโลเมตรมาโผล่บนเกาะวาเลนเทียได้อย่างไร เขาเกรงว่าจะมีข้อมูลบางอย่างที่พลาดไป อย่างไรก็ตามไม่นานนักข้อสงสัยของอลันก็ถูกคลี่คลาย
.
“เคลวิน แฟรนเนอร์รี่” (Kevin Flannery) ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Dingle Oceanworld Aquarium ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว The Independent ว่าวอลรัสอาร์กติกตัวดังกล่าวอาจจะเผลอหลับบนแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกมาจากแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ ก่อนที่กระแสน้ำจะพัดพาแผ่นน้ำแข็งที่เขานอนอยู่ลอยมาไกลจนกระทั่งถึงบริเวณน่านน้ำไอร์แลนด์ นอกจากนั้นแล้วเคลวินยังสันนิษฐานว่า วอลรัสอาร์กติกตัวดังกล่าวอาจจะยังเด็กมากซึ่งสามารถสังเกตได้จากความยาวของงา แน่นอนว่าอายุที่น้อยทำให้เขามีประสบการณ์ไม่มากพอจึงขาดความระมัดระวังในการเลือกหาที่นอนเหมาะ ๆ บนแผ่นน้ำแข็งที่ปลอดภัย
.
เคลวินยังบอกอีกว่า การที่ได้พบวอลรัสอาร์กติกในประเทศไอร์แอลนด์นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ ประสบการณ์พบเจอของอลันอาจจะนับได้ว่าเป็นการพบวอลรัสอาร์กติกครั้งแรกในไอร์แลนด์ก็เป็นไปได้หากประเมินจากสิ่งที่เคลวินทราบในตอนนี้
.
“เขาคงจะเหนื่อยและหิวมาก ๆ แน่”
เคลวินกล่าว
.
นอกจากนั้นเคลวินยังขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นไม่ควรเข้าไปรบกวนวอลรัสอาร์กติกด้วย เนื่องจากเขากำลังต้องการการพักผ่อน และหาอาหารกินเติมพลังก่อนจะออกเดินทางไกลเพื่อกลับบ้านที่กรีนแลนด์อีกครั้ง
.
“ถ้าร่างกายเขาฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว ผมหวังว่าเขาจะสามารถว่ายน้ำกลับบ้านด้วยตัวเองอีกครั้ง”
เคลวินกล่าว
.
.
อลันให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เขาได้แวะเข้าไปตรวจสอบวอลรัสอาร์กติกขี้เซาซ้ำอีกครั้งในจุดที่เคยพบ แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับไม่พบวอลรัสอาร์กติกอายุน้อยเสียแล้ว เป็นไปได้มากว่าวอลรัสอาร์กติกตัวดังกล่าวอาจจะออกเดินทางกลับบ้านของเขาไปแล้ว
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
วอลรัส (walrus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวในวงศ์ Odobenidae และสกุล Odobenus อาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือ รูปร่างคล้ายสิงโตทะเล แต่ตัวใหญ่กว่ามากและมีเขี้ยวยาว วอลรัสเพศผู้โตเต็มวัยอาจมีน้ำหนักตัวได้มากถึง 2,000 กิโลกรัม และมีอายุยืนถึง 20-30 ปี
.
วอลรัสส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำตื้นแถบขั้วโลกเหนือ โดยปกติแล้ววอลรัสมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่นอนแผ่หราอยู่บนก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร นั่นเป็นเพราะเวลาหาอาหาร วอลรัสจะดิ่งลงไปหาหอยที่ก้นมหาสมุทรกิน พออิ่มก็กลับขึ้นไปนอนพักผ่อนบนก้อนน้ำแข็งต่อ วอลรัสจะขึ้นบกเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น
![](https://www.dogsclip.co/img/upload/02Articles/InarticleImg/20210317-DC6051ce68b003b/3.jpg)
.
วอลรัสเป็นสัตว์สังคมมักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ บางฝูงอาจมีสมาชิกนับพันตัวเลยทีเดียว เขี้ยวยาวของพวกเขาใช้สำหรับเจาะแผ่นน้ำแข็งเพื่อจะได้โผล่ขึ้นมาหายใจขณะดำอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง นอกจากนั้นยังใช้เกาะแผ่นน้ำแข็งเพื่อลากลำตัวขนาดมหึมาไปตามธารน้ำแข็งด้วย ความสามารถพิเศษของวอลรัสคือการปรับอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายไม่ให้ลดต่ำจนเกินไป พวกเขาเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งสามารถเอาตัวรอดในสภาพอากาศสุดโหดที่ขั้วโลกได้
![](https://www.dogsclip.co/img/upload/02Articles/InarticleImg/20210317-DC6051ce68b003b/4.jpg)
.
วอลรัสมีความสำคัญต่อชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตอาร์กติกมาก แต่ทว่าการล่าวอลรัสในช่วงศตวรรษที่ 19-20 ส่งผลทำให้จำนวนวอลรัสลดลงมากด้วยเช่นกัน
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.