เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา สองแม่ลูกที่กำลังป่วยเดินมาถึงบริเวณหน้าประตูคลินิกเวชกรรมรักษาโรคทั่วไป “ดร.เอสเอ็ม” (Dr. S.M.) ที่ตั้งอยู่ในเมืองพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งดูแลโดย "ดร.อาเหม็ด" ฟังดูแล้วก็เหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ตามคลินิกทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แตกต่างและน่าประหลาดใจกว่ามาก! เนื่องจากผู้ป่วยสองแม่ลูกที่กล่าวถึงพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ทว่าเป็น “ลิงแสมสองแม่ลูก” ที่ดูเหมือนว่ากำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจาก ดร.อาเหม็ด
.
รายงานจากสำนักข่าวอินเดียไทม์ส ประเทศอินเดีย ระบุว่า ในวันนั้น ดร.อาเหม็ดได้สังเกตเห็นแม่ลิงที่มีอาการหวาดระแวงและเซื่องซึมกำลังอุ้มลูกน้อยของเธอนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าคลินิกของเขา ก่อนจะเดินเข้าไปยืนมองใกล้ ๆ และได้พบว่าแม่ลิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัว ส่วนลูกน้อยของเธอก็ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา ด้วยเกิดสงสาร ดร.อาเหม็ด จึงเข้าไปผูกมิตรและพยายามสื่อสารเพื่อชักชวนให้ลิงแสมสองแม่ลูกเดินเข้ามาภายในคลินิก
ดร.อาเหม็ด : ซักประวัติหน่อยครับคุณแม่ มีประกันมั้ยจ๊ะ
แม่ลิง : ไม่มีจ่ะ ประกันไม่รับลิง
.
แม้มีความประสงค์อยากช่วยแต่ ดร.อาเหม็ด ก็ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าลิงแสมสองแม่ลูกจะเป็นมิตรและเต็มใจยอมให้ช่วย เขาจึงใช้เวลาพิสูจน์อย่างใจเย็น ไม่นานหลังจากนั้นแม่ลิงก็แสดงทีท่ายินดีพร้อมเป็นมิตรยอมเดินตาม ดร.อาเหม็ด เข้าไปภายในคลินิกด้วยความเต็มใจ จากนั้นก็โชว์ความแสนรู้อุ้มลูกน้อยกระโดดขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เพื่อรอให้ ดร.อาเหม็ด เริ่มตรวจร่างกายอย่างรู้งานจนน่าแปลกใจ สองแม่ลูกไม่มีท่าทีดุร้ายหรือก้าวร้าวกับ ดร.อาเหม็ด เลย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นไปได้ว่าทั้งสองรับรู้ว่าชายแปลกหน้าเป็นมนุษย์ใจดีที่สามารถช่วยรักษาบาดแผลที่สร้างความเจ็บปวดให้หายเป็นปกติดีได้
แม่ลิง : เบา ๆ นะคะ
ดร.อาเหม็ด : โหแผลใหญ่เชียว
.
“ดร.อาเหม็ดทำความสะอาดบาดแผลให้ลิงแสมสองแม่ลูก ก่อนจะช่วยทายาสมานแผลและฉีดยาป้องกันบาดทะยักให้ด้วยในวันนั้น”
สำนักข่าวอินเดียไทม์ส รายงาน
.
ดร.อาเหม็ด : เอาล่ะ อาการหนักมาก คงต้องเย็บสัก 20 เข็มรอบหัว!
.
แม่ลิง : อุต๊ะ
ดร.อาเหม็ด : ล้อเล่นน่า แค่ทายาก็หายบ๋อแบร๋แล้ว
.
หลังจากที่ได้รับการรักษาลิงแสมสองแม่ลูกยังคงมีอาการอ่อนเพลียไม่พร้อมเดินทางกลับบ้าน ดร.อาเหม็ด จึงอนุญาตให้ทั้งสองขึ้นไปนอนพักเอาแรงบนเตียงคนไข้ในคลินิก ก่อนจะกลายเป็นภาพความน่ารักและแปลกตาที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นในคลินิกเวชกรรมรักษาโรคทั่วไปสำหรับมนุษย์ ซึ่งนั่นก็ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจำนวนมากให้หยุดมองและบันทึกภาพ ก่อนจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยที่บริเวณหน้าคลินิก ดร.เอสเอ็ม อย่างไรก็ตาม ดร.อาเหม็ดก็ไม่ได้ห้ามผู้คนเหล่านั้น แต่เพียงขอความร่วมมือไม่เข้าไปรบกวนลิงแสมสองแม่ลูกที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่
ไม่เป็นไรแล้วนะลูก เราอยู่กับมนุษย์ใจดี
.
.
รับชมคลิปวิดีโอช่วงเวลาที่ลิงแสมสองแม่ลูกเข้ารับการรักษากับ ดร.อาเหม็ด
.
ลิงแสมสองแม่ลูกผู้น่าสงสารปลอดภัยในคลินิก ดร.เอสเอ็ม พวกเขาได้มีเวลางีบหลับจนเต็มอิ่มและมีมุมสงบ ๆ สำหรับปลอบโยนกันและกันในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงลิงแสมสองแม่ลูกก็กลับมายิ้มหวานและมีเรี่ยวแรงสำหรับการออกเดินทางกลับบ้านได้อีกครั้ง พวกเขาจากไปพร้อมกับมิตรภาพแสนหวานและความสุขที่ ดร.อาเหม็ด หยิบยื่นให้ แน่นอนมันจะเป็นความทรงจำที่พวกเขาไม่มีวันลืม...
.
เรื่องราวที่น่าประทับใจเริ่มต้นจากสัญชาตญาณและความรักของผู้เป็น "แม่" แม่ลิงแสมพยายามที่จะปกป้องลูกน้อยจึงยอมเสี่ยงออกจากป่า เดินมุ่งหน้าไปที่คลินิกด้วยศรัทธาในเมตตาของมนุษย์ใจดีอย่างเต็มเปี่ยม และหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือที่นั่น ซึ่งก็เป็นความโชคดีที่โชคชะตานำพาให้ทั้งสองไปพบกับ ดร.อาเหม็ด ผู้มีหัวใจ "แพทย์" อย่างแท้จริง เขาไม่ยอมละเลยและยื่นมือช่วยเพื่อนสัตว์ตัวน้อยสองแม่ลูกผู้ยากไร้ที่กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างไม่ลังเลใจ แม้รู้ดีว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทนสำหรับการรักษาก็ตาม...
.
“ผมไม่ได้สนใจเลยว่าพวกเขาเป็นลิงป่า ผมรู้ว่าผมเป็นหมอและหน้าที่คืออะไร ดังนั้นหากมีใครมาขอให้ผมช่วยรักษา ผมก็จะไม่ปฎิเสธและจะทำมันด้วยหัวใจ, มันเป็นจิตวิญญาณของผม”
ดร.อาเหม็ดกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
