ในเช้าวันหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา “มาเรีย คาสซาโน” (Maria Cassano) ได้สังเกตเห็นแม่แมวจรจัดขนฟูเดินผ่านมาที่สวนหลังบ้านคุณพ่อในเมืองลองไอแลนด์ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับลูกแมวตัวน้อยที่ทั้งน่ารักและน่าเอ็นดู... มาเรียอดรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงชีวิตที่เร่ร่อนของพวกเขาไม่ได้ แต่ละมื้อคงต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อเลี้ยงปากท้องให้ผ่านไปในแต่ละวัน ความอดอยากคงจะทำให้ร่างกายของแม่แมวไม่สามารถผลิตน้ำนมเพื่อเลี้ยงลูกน้อยได้เต็มที่และเพียงพอ...
.
มาเรียต้องการแบ่งปันอาหารให้กับแม่ลูกแมวเหมียวบ้าง แต่ทว่าก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดปัญหาใหญ่เมื่อที่บ้านของคุณพ่อมีกฎเคร่งครัดจะไม่ให้อาหารแก่สัตว์จรจัดที่ผ่านมา เพราะเขาเป็นคนรักความสะอาดมากไม่ต้องการให้บริเวณบ้านสกปรกและเป็นแหล่งนัดชุมนุมของเหล่าสัตว์จรจัด
.
แต่ทว่าหลังจากที่มาเรียได้พยายามโน้มน้าวด้วยเหตุผลสารพัดเพื่อขอร้องให้คุณพ่อของเธอยกเว้นสำหรับแม่แมวตัวนี้อยู่นาน คุณพ่อของเธอก็เริ่มใจอ่อนจนยอมเปิดใจยกเว้นให้และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลืออีกแรงด้วย
.
ความอ่อนโยนและมีเมตตาของมาเรียทำให้หัวใจของคุณพ่อผู้เคร่งครัดและรักความสะอาดอย่างที่สุดเปลี่ยนไป แน่นอนว่าการได้เห็นลูกรักรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คิดช่วยเหลือ แบ่งปันและลงมือทำในสิ่งที่ดำรงไว้ซึ่งมนุษยธรรมในหัวใจย่อมทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่พลอยยินดีพร้อมให้การสนับสนุน รวมถึงได้หันกลับมาทบทวนข้อผิดพลาดและปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ด้วย เห็นได้ชัดว่าความรักทำให้การเปลี่ยนแปลงที่ยากยิ่งง่ายขึ้น
.
ไม่นานนักเพื่อนบ้านของมาเรียก็ได้รับอุปการะลูกแมวตัวน้อยไปดูแล แต่ทว่าแม่แมวยังคงไร้บ้านใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในละแวกบ้านของคุณพ่อมาเรียตามเดิม อย่างไรก็ตามมาเรียและคุณพ่อของเธอก็ยังคงแบ่งปันน้ำและอาหารให้กับแม่แมวได้ประทังชีวิตเรื่อยมา... หลังจากที่เริ่มคุ้นเคยมาเรียก็ได้ตั้งชื่อให้กับแม่แมวว่า “มาม่า” (Mama)
.
กระทั่งฤดูหนาวใกล้เข้ามามาเรียและคุณพ่อก็เริ่มกังวลใจอีกครั้ง เพราะเกรงว่ามาม่าอาจจะทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นข้างนอกนั่นไม่ไหว
.
ด้วยเป็นห่วงคุณพ่อของมาเรียจึงได้ตัดสินใจลงมือสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้กับมาม่าไว้ที่สวนหลังบ้านเพื่อให้เธอเข้าไปหลบลมหนาวในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง...
.
“คุณพ่อของฉันไม่ชอบให้มีสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์จรจัดอยู่ในเขตบริเวณบ้านสักเท่าไหร่นัก แต่เขาก็เป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อฉันเริ่มเป็นกังวลว่ามาม่าอาจจะไม่รอดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไปได้ คุณพ่อของฉันจึงลงมือสร้างบ้านหลังเล็กๆ ที่เคลือบด้วยวัสดุกันน้ำ ตั้งทิ้งเอาไว้ที่สวนหลังบ้านสำหรับมาม่า เผื่อว่าเธอจะแวะเข้ามานอน”
มาเรียกล่าว
.
.
บ้านหลังเล็กถูกสร้างมาเพื่อมาม่าโดยเฉพาะ... และทันทีที่มาม่าได้พบกับบ้านหลังน้อยก็รู้สึกชอบมาก เธอไม่รีรอรีบมุดเข้าไปสำรวจ ก่อนจะแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วก็ล้มตัวลงนอนหลับปุ๋ยไปทันที เมื่อฤดูหนาวมาถึงบ้านหลังเล็กก็ถูกมาม่าจับจองยึดเป็นบ้านส่วนตัว เธอมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต้องทนหนาวอยู่ด้านนอกบ้านอีกต่อไปแล้ว
.
และด้วยไม่มีครอบครัวคอยดูแลทำให้มาม่าพลาดท่าตั้งท้องและคลอดลูกครอกที่สอง!
.
มาม่ามีนิสัยหวงตัวและเกรี้ยวกราดเสมอเมื่อรู้ตัวว่ามีใครบางคนกำลังพยายามจะเข้าใกล้ นั่นทำให้มาเรียและคุณพ่อของเธอไม่สามารถเข้าไปดูแลครอบครัวแมวเหมียวได้เต็มที่ ด้วยเป็นห่วงพวกเขาจึงร่วมมือหาวิธีเพื่อจะได้ใกล้ชิดติดตามความเป็นอยู่ของครอบครัวแมวเหมียว ซึ่งคุณพ่อของมาเรียก็มีไอเดียเจ๋งๆ เขาหาโอกาสเหมาะแอบย่องเข้าไปติดกล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังเล็กๆ ของมาม่า หลังจากนั้นพวกเขาก็สามารถติดตามชีวิตของมาม่าและลูกน้อยได้แทบตลอดเวลาผ่านสัญญาณภาพที่ถูกส่งมา
.
ภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยภาพที่น่ารักทำให้หัวใจของมาเรียและคุณพ่อพองโตมีความสุขสุดๆ มาม่าและลูกน้อยของเธอนอนหลับปุ๋ยอยู่ภายในบ้านหลังเล็กอย่างมีความสุข มันเป็นภาพครอบครัวที่น่ารักพลอยทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย แม่ลูกแมวเหมียวได้นอนหลับสนิทในบ้านที่ปลอดภัยจากฝีมือของพวกเขา
.
.
ก่อนหน้านี้มาเรียพยายามที่จะพามาม่าและลูกน้อยของเธอไปฉีดวัคซีนที่ศูนย์พักพิงสัตว์ใกล้บ้านอยู่หลายครั้ง แต่ทว่าสองแม่ลูกกลับไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้หรือสัมผัสตัวได้เลย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มาเรียก็ทำสำเร็จ! สองแม่ลูกยอมเปิดใจอนุญาตให้เธอสัมผัสตัวถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ก็ตามที แน่นอนมาเรียไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เธอรีบจับสองแม่ลูกเอาไว้ก่อนจะเร่งพาไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยกำจัดเห็บหมัดและฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้กับแม่ลูกแมวเหมียว
.
“เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงสัตว์บอกว่าแม่แมวสามารถกลับบ้านได้ แต่ว่าลูกแมวอาจจะยังเด็กเกินไปที่จะสามารถอยู่รอดผ่านช่วงฤดูหนาวนี้ไปได้ แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ยืนยันที่จะพาทั้งสองกลับบ้านเพราะฉันคิดว่าฉันดูแลพวกเขาได้”
มาเรียกล่าว
.
มาเรียตัดสินใจรับอุปการะลูกแมวตัวน้อย ส่วนมาม่านั้นดูเหมือนว่าเธอจะชอบชีวิตอิสระมากกว่า มาเรียจึงยอมให้มาม่าอาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านหลังเล็กในสวนหลังบ้าน มาม่ามีเพื่อนสนิทเป็นน้องแมวสีดำสองตัวชื่อว่า “อิงค์กี้” (Inky) และ “ฟิงกี้” (Finky) พวกเขามีสถานะมีเจ้าของและอยู่ในความดูแลของเพื่อนบ้าน ทั้งสามเป็นแก๊งเหมียวประจำหมู่บ้าน เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะมารวมตัวกันก่อนจะออกไปเดินเที่ยวเตร่ทั่วหมู่บ้าน หลังจากที่สนุกกันพอแล้วพวกเขาก็จะพากันเดินกลับ ซึ่งมันจะเป็นแบบนี้เป็นประจำแทบทุกวัน
.
มาเรียพยายามอยู่หลายครั้งเพื่อจะพามาม่าเข้ามาดูแลในบ้าน แต่ทว่าก็ดูสิ้นหวังเพราะมาม่าค่อนข้างเกรี้ยวกราดและคาดเดาอารมณ์ได้ยาก อีกทั้งหวงเนื้อหวงตัวเป็นที่สุด เธอจะไม่ยอมให้ใครก็ตามสัมผัสตัวได้ง่ายๆ แม้จะเป็นคนคุ้นเคยที่คลุกคลีอยู่ด้วยกันมานานแล้วก็ตาม แต่มาเรียก็ยังคงยินดีให้มาม่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กในสวนหลังบ้านต่อไป
.
“มาม่าไม่เข้ามาในบ้านและไม่ยอมให้เราสัมผัสตัว แต่เธอจำเราได้และอาศัยอยู่ร่วมกับเราที่สวนหลังบ้าน บางครั้งเธอก็จะกระโดดขึ้นมาเคาะที่หน้าต่างเมื่อรู้สึกหิวด้วย”
มาเรียกล่าว
.
“ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเรามีบ้านหลังเล็กสำหรับน้องแมวจรจัดเพิ่มขึ้นอีกสองถึงสามหลัง เพื่อให้แขกขนฟูของเราได้อาศัยอยู่อย่างอบอุ่นตลอดคืนด้วย”
มาเรียกล่าวเสริม
.
.
วันนี้คุณพ่อที่เคยไม่ชอบสัตว์จรจัดได้เปลี่ยนไปมาก เขากลายเป็นช่างจำเป็นสร้างบ้านให้กับเหล่าแมวไร้บ้านให้ได้เข้ามานอนหลบหนาวในเขตรั้วบ้านซะอย่างงั้น เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของวิลล่าเอื้ออาทรสำหรับสัตว์จรไปแล้วก็ว่าได้! แน่นอนวันนี้คุณพ่อของมาเรียได้ค้นพบแล้วว่าสิ่งที่ทำให้หัวใจพองโตและมีความสุขได้มากคือการได้แบ่งปัน ช่วยเหลือชีวิตที่ยากไร้ให้มีความสุขขึ้นได้บ้าง นอกจากนั้นแล้วการได้เห็นลูกสาวมีความสุข ได้ลงมือทำในสิ่งที่งดงามร่วมกันก็ทำให้คุณพ่ออย่างเขาอิ่มเอมใจเป็นที่สุดเลยล่ะ
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.