“แมทธิว บี” (Matthew B) และ “แอช” (Ashes) ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักที่ผูกพันกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว แมทธิวมีอาชีพขับรถบรรทุกดังนั้นเวลาในชีวิตส่วนใหญ่ของเขาก็จะอยู่บนรถ เพื่อให้ได้ดูแลและมีเวลาอยู่กับแอชมากขึ้นแมทธิวจึงจำเป็นจะต้องพาแอชขึ้นรถและติดตามเขาไปด้วยในทุกๆ ที่ การเดินทางของแมทธิวมีความสุขขึ้นมากเมื่อมีแอชมาอยู่ข้างๆ พวกเขากลายเป็นคู่หูที่ลงตัว ทั้งคู่ต่างมีความสุขและมอบความสุขให้แก่กันและกันได้อย่างไม่รู้จบ...
.
แต่แล้วเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2562 ที่ผ่านมา หลังจากที่แมทธิวต้องออกเดินทางขับรถบรรทุกไปส่งของบางอย่างที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมๆ กับแอชน้องแมวคู่หู การเดินทางราบรื่นและไม่เหงา พวกเขามีกันและกันบนเส้นทางที่ยาวไกล...
.
หลังจากใช้เวลาเดินทางอยู่นานในที่สุดพวกเขาก็ถึงปลายทาง ของถูกส่งถึงผู้รับอย่างปลอดภัย ทันทีที่ภารกิจเสร็จสิ้นลงแมทธิวก็เลี้ยวรถมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างไม่รีรอ... เส้นทางที่ยาวไกลทำให้แมทธิวรู้สึกอ่อนล้าระหว่างทางเขาจึงแวะพักเอาแรงในจุดพักรถ แอชดูตื่นเต้นเมื่อเครื่องยนต์ดับลง เขารู้ว่าอีกไม่กี่นาทีแมทธิวจะต้องมาอุ้มเขาลงจากรถไปเดินเล่น...
.
ในขณะที่แมทธิวกำลังพาแอชเดินเล่น ผ่อนคลายอิริยาบถอย่างสบายใจอยู่นั้น ก็เกิดเสียงประหลาดดังขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว... แอชตกใจกลัวเสียงประหลาดนั้นสุดขีดเข้าใจว่าอันตรายกำลังจะมาถึงตัว จึงเร่งกระโดดแล้ววิ่งหนีเตลิดเข้าไปในป่าที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น
.
ส่วนแมทธิวก็แค่สะดุ้งเสียงดังนั้นเพียงเล็กน้อย แต่ทว่าความรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงสุดๆ ก็ตามมาหลังจากที่ได้เห็นแอชวิ่งเตลิดหนีไป แมทธิวตัดสินใจวิ่งตามแอชทันที แต่ทว่าแอชวิ่งเร็วมากเขาจึงตามไม่ทัน แมทธิวพยายามเดินหาพรางร้องเรียกชื่อแอชซ้ำๆ แต่ทว่าความกลัวทำให้แอชไม่กล้าก้าวเท้าออกมาจากที่ซ่อน แมทธิวไม่พบร่องรอยของแอชเลย เขารู้สึกเสียใจมากและไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเขา แมทธิวยังไม่ตัดใจยังคงนั่งรออยู่ที่จุดพักรถและเดินเข้าไปเรียกหาแอชบริเวณป่าอีกหลายครั้งนานหลายชั่วโมง หวังว่าแอชจะกลับออกมาจากที่ซ่อนแต่ก็ไม่เป็นผล
.
ด้วยหน้าที่และภาระงานในวันพรุ่งนี้ที่ยังคงต้องรับผิดชอบ แมทธิวจึงต้องจำใจออกเดินทางจากจุดพักรถโดยเบาะข้างๆ ปราศจากแอชคู่หูผู้ร่วมเดินทางเช่นทุกครั้ง วันนั้นการเดินทางเต็มไปด้วยความกังวลใจนานาประการ ความเงียบเหงากำลังคุกคามหัวใจของเขา แต่ทว่าความรับผิดชอบต่อหน้าที่ก็สำคัญเช่นกัน...
.
อย่างไรก็ตามแมทธิวก็ไม่ลดความพยายามที่จะตามหาแอช เขาไม่เคยลืมแอช ทุกครั้งที่มีโอกาสขับผ่านไปที่เมืองสปริงฟิลด์ แมทธิวจะใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการควานหาตัวแอช เขาพยายามสอบถามเบาะแสของแอชกับผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น แต่ทุกครั้งเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง ไม่มีเบาะแสหรือวี่แววเกี่ยวกับแอชเลย
.
แมทธิวรู้สึกแย่มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องเผชิญกับความเหงา โดดเดี่ยวและผิดหวังเมื่อความพยายามของเขาสูญเปล่า... แมทธิวโทษตัวเองซ้ำๆ ทุกครั้งที่หันมองเบาะข้างๆ แล้วไม่เห็นแอชน้องแมวเหมียวคู่หูสุดรักของเขาอย่างเคย แมทธิวสวดภาวนาขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าทุกวันเพื่อขอให้เขาได้รับโอกาสได้เจอกับแอชอีกครั้ง
.
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา สองสาวพลเมืองดีผู้ไม่ประสงค์ออกนามกำลังเดินทางไปเที่ยวรัฐนิวยอร์ก ระหว่างทางขณะขับผ่านเมืองสปริงฟิลด์ทั้งสองได้จอดพักในจุดพักรถที่เดียวกับที่แอชได้หายตัวไปด้วย สองสาวเดินเล่นและพักผ่อนนานสักพักก่อนจะเดินกลับขึ้นรถ ในเวลานั้นเองสายตาของทั้งสองก็ได้พบกับน้องแมวเหมียวน่ารักตัวหนึ่งที่กำลังเดินออกมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ เขาคือแอช สีหน้าท่าทางที่ดูแปลกๆ ของแอชทำให้สองสาวคิดไปว่า เขากำลังพยายามจะขอความช่วยเหลือ...
.
สองสาวพลเมืองดีค่อนข้างตกใจเมื่อได้พบน้องแมวปริศนาปรากฎตัวขึ้นในสภาพที่กำลังสั่นหนาวน่าสงสาร อีกทั้งเนื้อตัวก็ดูมอมแมมคล้ายผ่านชีวิตที่ยากลำบากมานานสักพัก สองสาวไม่ละเลยเดินเข้าไปพยายามผูกมิตรด้วย โชคดีที่แอชรับรู้ได้ถึงความหวังดีจึงเปิดใจให้กับพวกเธอเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อแน่ใจแล้วทั้งสองจึงรีบอุ้มแอชขึ้นมากอดเอาไว้แนบอกเพื่อให้ร่างกายของเขาอบอุ่นขึ้น ก่อนจะพยายามมองไปรอบๆ เพื่อตามหาผู้ปกครองของเขา แต่ทว่าพวกเธอกลับไม่พบใครเลยในบริเวณนั้น สองสาวจึงสันนิษฐานว่าน้องแมวน่าจะมีสถานะไร้บ้านจึงตัดสินใจพาเขาขึ้นรถออกเดินทางไปพร้อมๆ กัน...
.
ตลอดการเดินทางแอชทำตัวเป็นเด็กดีมากเขาไม่ยุ่ง วุ่นวาย หรือ สร้างความรำคาญให้กับสองสาวเลย เขานั่งนิ่งอยู่เงียบๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
.
ทันทีที่สองสาวพลเมืองดีถึงรัฐนิวยอร์ก ก็ได้รีบติดต่อองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ Lollypop Farm เพื่อขอความช่วยเหลือให้มารับแอชน้องแมวเหมียวที่เพิ่งช่วยเอาไว้ไปดูแลและประกาศตามหาผู้ปกครองต่อไป ไม่นานนักเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ก็เดินทางมารับแอช เจ้าหน้าที่ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณสองสาวพลเมืองดีที่ไม่ละเลยชีวิตน้องแมวตัวน้อยเมตตาเข้าช่วยจนกระทั่งมาอยู่ในความดูแลขององค์กรฯ ด้วย
.
หลังจากที่แอชถูกนำตัวมาที่องค์กร เขาก็ได้อาบน้ำอุ่นๆ ชำระร่างกายฟอกแชมพูหอมๆ จนกลับมาหล่อเหลาดังเดิม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาแอชไปพบกับสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเช็คว่ายังคงมีสุขภาพดีอยู่หรือไม่ ซึ่งผลตรวจค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจสำหรับน้องแมวที่เคยมีสถานะไร้บ้าน แอชยังคงมีร่างกายที่แข็งแรงดีมีเพียงแค่น้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
.
เจ้าหน้าที่ได้สแกนหาไมโครชิพบนตัวของแอชด้วย โชคดีที่พวกเขาพบไมโครชิพฝังอยู่ทุกอย่างจึงง่ายขึ้นมาก ฐานข้อมูลระบุชื่อของแอชและผู้ปกครอง พร้อมกับรายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์สำหรับการติดต่อกลับถึงผู้ปกครองของแอชด้วย เจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจเมื่อพบว่าบ้านที่แอชจากมานั้นอยู่ห่างจากองค์กรฯ มากถึง 2,300 กิโลเมตร...
.
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปหาแมทธิวผู้ปกครองของแอชเพื่อแจ้งข่าวดี ทันทีที่แมทธิวทราบข่าวการพบตัวของแอช เขาก็ร้องไห้โฮด้วยความดีใจสุดๆ เขาเคยหมดหวังและคิดว่าแอชคงจะตายจากไปแล้ว ชั่วชีวิตนี้คงจะไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันอีก แต่ทว่าเหมือนดั่งปาฏิหาริย์แอชปรากฎตัวขึ้นและกำลังจะกลับมาสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้งจริงๆ
.
ด้วยระยะทางจากบ้านของแมทธิวถึงรัฐเท็กซัสนั้นไกลมาก ต้องใช้เวลานานและเงินจำนวนมากในการเดินทางไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม แต่แมทธิวไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหากจะได้เพื่อนสุดรักกลับสู่อ้อมกอดอีกครั้ง เขาตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับบริษัทเพื่อของานส่งของที่มีผู้รับอยู่ในรัฐนิวยอร์กพร้อมกับแจ้งเหตุผลหวังพาน้องแมวเหมียวของเขากลับบ้าน โชคดีที่บริษัทเข้าใจ ยินดีและมอบโอกาสให้กับเขา แน่นอนว่าแมทธิวดีใจมากเมื่อทุกคนเข้าใจและพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เมื่อทุกอย่างพร้อมเขาก็ออกเดินทางทันที...
.
หลังจากนั้นอีก 10 วันต่อมา แมทธิวมาถึงที่รัฐนิวยอร์ก เขาไม่รอช้าหลังเสร็จงานก็รีบเร่งมุ่งหน้าไปยังองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ทันที วินาทีแรกที่ทั้งสองได้พบหน้ากันต่างแสดงอาการดีใจอย่างที่สุด แมทธิวรีบวิ่งเข้าไปกอดแอชเพื่อนรักเอาไว้แน่นก่อนที่น้ำตาแห่งความปีติยินดีจะเอ่อไหลออกมา แอชก็ดีใจไม่แพ้กันเอาหน้าถูและมุดเข้าไปในอ้อมกอดของแมทธิว... ก่อนจะทำท่าทางที่ดูสุขุมตามปกติวิสัยของน้องแมว...
.
แมทธิวสาบานกับตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้แอชหายตัวไปอีก สำหรับการได้กลับมาพบกันในครั้งนี้มันเป็นเหมือนปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!
.
แมทธิวไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณกับเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ทุกๆ คนที่คอยช่วยเหลือและให้การดูแลแอชระหว่างที่อยู่ในองค์กรฯ นอกจากนั้นเขายังกล่าวขอบคุณสองสาวพลเมืองดีที่ได้ช่วยเหลือแอชเอาไว้ด้วย
.
แมทธิวฝากไปถึงผู้ปกครองของเหล่าสัตว์เลี้ยงทุกๆ คนด้วยว่า การฝังไมโครชิพให้กับสัตว์เลี้ยงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากว่าวันใดสัตว์เลี้ยงของคุณหายตัวไปหรือถูกลักพาตัวไปไมโครชิพอันเล็กๆ นี่แหละที่จะทำให้คุณได้กลับมาพบหน้าสัตว์เลี้ยงที่รักได้อีกครั้ง...
.
หลังจากนั้นแมทธิวก็เดินทางกลับบ้านพร้อมๆ กับแอช การเดินทางที่ยาวไกลหลังจากนี้จะไม่เหงาอีกต่อไปแล้วพวกเขากลับมามีกันและกันได้อีกครั้ง เชื่อว่าหลังจากนี้พวกเขาจะไม่มีทางแยกจากกันอีกแน่นอน....
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Boredpanda, Lollypop Farm, the Humane Society of Greater Rochester
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
