เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา “เดวี่ ลาเซน”(Devi Larsen) สาวผู้หลงรักน้องแมวเหมียวจากเมืองเอดมันตัน รัฐแอลเบอร์ ประเทศแคนาดา ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ ที่ทำให้เธออึ้งไปพักใหญ่เลย เมื่อจู่ๆ เธอก็ได้พบกับน้องแมวฝาแฝดที่ดูเหมือนกับน้องแมวที่เธอเลี้ยงเอาไว้จนแยกไม่ออกปรากฎตัวภายในสวนหลังบ้าน
.
ก่อนหน้านี้ เดวี่ได้รับอุปการะน้องแมวตัวหนึ่งเอาไว้ เธอตั้งชื่อให้กับเขาว่า “โลกิ”(Loki) โลกิเป็นน้องแมวที่น่ารักเขามีความสุขที่จะได้อยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่นกับคุณแม่ที่พร้อมเอาใจใส่ดูแลเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทุกๆ วันเดวี่จะปล่อยให้โลกิเดินออกไปที่สวนหลังบ้านเพื่อไปทำธุระส่วนตัว และปล่อยให้เขาได้เดินเล่นพักผ่อน ก่อนที่ออกไปตามเขาให้กลับเข้าบ้าน
โลกิ และ เดวี่ คุณแม่ของเขา
.
แต่วันนั้นหลังจากที่เธอได้ปล่อยให้โลกิออกไปทำธุระในสวนได้เพียงแค่ไม่นานนัก เธอก็ได้ยินเสียงของน้องแมว 2 ตัวกำลังทะเลาะกันและดูเหมือนพวกเขาจะรำมวยกันหนักเลยด้วย มีเสียงเหมียวๆ ร้องกันระงมเลย เดวี่รู้สึกประหลาดใจมากก่อนจะรีบเดินออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อที่บ้านของเธอมีเพียงแค่โลกิแล้วเขาทะเลาะอยู่กับใคร
โลกิ
.
ทันทีที่เดวี่ก้าวเท้าออกพ้นประตูหลังบ้าน เธอก็ได้เห็นภาพที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจจนอึ้งไปพักใหญ่เลยล่ะ เธอเห็น “โลกิ 2 ตัวกำลังทะเลาะกัน” ใช่ครับอ่านไม่ผิด! มีน้องแมวอีกตัวที่ดูเหมือนกับโลกิไม่มีผิดเพี้ยนเลย เหมือนกันราวกับร่างโคลนนิ่งยังไงอย่างงั้นเลย ตอนนั้นเดวี่สับสนเหมือนโดนตีหัว "อะไรกันนี่มันคือการบรรจบของโลกคู่ขนานหรือยังไง" ถึงแม้เดวี่จะเลี้ยงโลกิมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นลูกแมวตัวเล็กๆ เธอกลับแยกไม่ออกเลยว่าตัวไหนคือโลกิตัวจริง! ถ้าพวกเขาเป็นคนเดวี่ก็คงจะบอกให้โลกิยกมือขึ้น แต่นี้ไม่ใช่พวกเขาเป็นแมวเหมียว!
โลกิ 1 : เราของจริง นายมันของปลอม ทำหมอไหน บอกมาซิ โด่ววววว
โลกิ 2 : นายแหละของก๊อปเกรดเอ เรามันของแท้ แน่ะ! ว่าล่ะยังทำอ้วนเหมือนเราอีก
โลกิ 1 : ยังจะเถียง นี่อ้วนจริง ที่เห็นพองๆ อะไขมันล้วนๆ ปลอมยังไง?
.
โลกิทั้งสองกำลังตกใจและทะเลาะกันอย่างเมามันส์ ทำเสียงขู่กันดังฟ่อๆ หง่าวๆ ด้วยความไม่พอใจอย่างที่สุด พวกเขากำลังแย่งกันเป็นตัวจริง ต่างฝ่ายก็ต้องการมีใบหน้าที่ยูนิคหนึ่งเดียวในโลกหล้า! ทั้งสองไม่แฮปปี้แสดงสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกถึงความเกลียดชังกันและกันอย่างเห็นได้ชัด ในตอนนั้นเดวี่พยายามจะเข้าไปห้ามปรามแต่ก็กลายเป็นเรื่องลำบาก เมื่อเธอแยกไม่ได้เลยว่าตัวไหนคือโลกิตัวจริง หากพลาดท่าอุ้มน้องแมวร่างโคลนนิ่งแล้วล่ะก็ คงได้ยันต์ห้าแถวพร้อมกับได้สดับรับชมการฟ้อนเล็บของเขาแหงๆ
.
เดวี่ไม่มีเวลาตัดสินใจนานเท่าไหร่นัก เพราะน้องแมวทั้งสองยังคงทะเลาะกันไม่เลิกและมีท่าทีจะก่อตัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับวัยรุ่นเลือดร้อน เธอจึงตัดสินใจดึงสายยางเปิดวาล์วน้ำจนสุดแล้วฉีดเข้าไปในวงปะทะของน้องแมวทั้ง 2 เพื่อให้พวกเขาสงบลง
.
จากนั้นจึงตัดสินใจอุ้มน้องแมวตัวหนึ่งเข้าไปในบ้าน แต่ทว่านั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด!!!!! เมื่อพบว่าสิ่งที่เธอเลือกผิดมหันต์!!!! เพราะเขาไม่ใช่โลกิน่ะสิครับ... พอนึกภาพเหตุการณ์หลังจากนี้ออกใช่ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น! เมื่อน้องแมวถูกคนแปลกหน้าที่ไม่ไว้ใจเอาซะเลยอุ้ม ใช่จ้า! เธอได้รับยันต์ห้าแถวแบบไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นักมาครอบครอง พร้อมกับได้สลับรับชมการแสดงฟ้อนเล็บอีกหลายกระบวนท่า แถมจูบแดรกคูลาอีกหนึ่งทีตามระเบียบ!
.
แหม...คุณแม่เดวี่ โลกิคงกำลังน้อยใจแย่ที่เห็นแม่อุ้มใครก็ไม่รู้เข้าบ้านเฉย โลกิคงทำหน้าเหวอ...อิหยังว่ะ! จำกันบ่ได๋เลยเหรอก๋า... ส่วนคุณแม่เดวี่เองก็คงประทับใจในความผิดพลาดนี้มิรู้ลืม...
ยันต์ห้าแถวและจูบแดรกคูลาจากน้องแมวร่างโคลนนิ่งของโลกิ
.
เมื่อรู้ว่าน้องแมวเหมียวที่อุ้มอยู่ไม่ใช่โลกิ เดวี่จึงรีบวางเขาลงบนพื้นแต่โดยดีปล่อยให้เขาเดินกลับออกไปที่ทางประตู จากนั้นก็รีบเข้าไปอุ้มน้องแมวโลกิตัวจริงกลับเข้ามาในบ้านทันที ก่อนจะเดินออกมาดูน้องแมวปริศนาร่างโคลนนิ่งของโลกิอีกครั้ง ซึ่งเธอพบว่าน้องแมวตัวนั้นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อวิ่งหนีฝันร้ายที่เพิ่งเจอไปไกลแล้ว
.
โชคดีที่โลกิตัวจริงไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แต่คนที่ได้รับบาดเจ็บกลับเป็นเดวี่ซะงั้น หลังจากสถานการณ์ได้คลี่คลายลงเธอได้ไปพบแพทย์เพื่อฉีดเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักทันที
แม่ครับนี่ผมเอง อุ๊ย! สักยันต์มาเหยอ... แดงเชียว!
.
ถึงอย่างนั้นแล้ว เดวี่ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงน้องแมวร่างโคลนนิ่งของโลกิอยู่ ด้วยเกรงว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปะทะกับโลกิ จนกระทั่งตอนนี้เดวี่ก็ไม่รู้ว่าน้องแมวตัวดังกล่าวมีสถานะจรจัดหรือมีเจ้าของกันแน่ ซึ่งถ้าโชคร้ายน้องแมวมีสถานะจรจัดไม่มีใครช่วยดูแลเขาคงต้องทนกับพิษบาดแผลที่เกิดขึ้นลำพัง ซึ่งนั้นทำให้เดวี่รู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อยเลย
.
เดวี่จึงตามหาน้องแมวร่างโคลนนิ่งของโลกิในบริเวณสวนหลังบ้านของเธออีกครั้งทั้งในพุ่มไม้ ตามซอกหลืบ หากเขายังอยู่เธอจะได้ช่วยเขาได้ แต่เดวี่กลับไม่พบน้องแมวร่างโคลนนิ่งตัวนั้น อย่างไรก็ตามเดวี่ยังมีความหวังว่าเขาอาจจะย้อนกลับมาที่สวนหลังบ้านของเธออีก จึงหาภาชนะมาใส่น้ำและอาหารวางทิ้งไว้ในสวนด้วย
ยังไงแม่จะจำเขาได้รึยัง... งอนเด้อ!
.
เวลาผ่านไปนานหลายวันกระทั่งวันนี้ น้องแมวตัวดังกล่าวก็ไม่เคยย้อนกลับมาปรากฎตัวให้เดวี่เห็นอีกเลย ซึ่งนั่นก็สันนิษฐานได้ว่าน้องแมวอาจจะมีเจ้าของและเขาอาจจะแค่แอบหนีออกมาเที่ยวเตร่นอกบ้านเมื่อมีโอกาสในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ทว่ากลับมาเจอฝันร้ายเจอใครบางคนที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ! จนทำให้มีเรื่องทะเลาะกัน ซ้ำหญิงแปลกหน้าก็พยายามจะอุ้มเขาเข้าไปในบ้านอีก มันเป็นฝันร้ายที่ทำให้ช่วงเวลาหนีเที่ยวของเขาไม่สนุก ไม่น่าจดจำซักเท่าไหร่นัก
.
ภายหลังเดวี่ได้นำเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นโพสต์เผยแพร่ลงบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย เวลาผ่านไปไม่นานนักเรื่องราวของเธอก็กลายเป็นที่สนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์ มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากดไลก์ กดแชร์และร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากด้วย ซึ่งมีหลายความคิดเห็นที่น่าสนใจ เช่น
.
“ให้ตายสิน้องแมวตัวนั้นดูเหมือนกับโลกิไม่มีผิด หรือว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกันนะ”
.
“มันเหมือนว่าเขากำลังต่อสู้อยู่กับตัวเองเลย หรือว่านั่นจะเป็นร่างโคลนนิ่งของเขาในอีกจักรวาลหนึ่งนะ”
.
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่ฉันขำกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตลกนะ คุณเล่าเรื่องราวได้น่าประทับใจมาก”
.
ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่รู้ว่าน้องแมวปริศนาร่างโคลนนิ่งของโลกิมีชื่อว่าอะไร หรือมาจากไหนกันแน่ แต่เดวี่ก็ยังคงพยายามจะตามหาตัวน้องแมวตัวนั้นต่อไป ซึ่งเธอหวังว่าจะได้พบหน้าน้องแมวตัวนั้นอีกครั้งในเร็ววันนี้
หยองเลยเรา... อย่าออกมาทะเลาะกับเราอีกนะ!
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
