"ชีวิต" ไม่ว่าจะเป็นของคนหรือสัตว์ พวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วเลือกเกิดไม่ได้ หลายชีวิตโชคร้ายเกิดมาพบกับจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เช่น "สการ์เล็ต ทิปตัน" (Scarlette Tipton) นักสู้ตัวน้อยผู้กล้าหาญที่เตะก้นโรคมะเร็งร้ายจนวิ่งหนีเตลิดถึงแม้เธอจะมีอายุได้เพียงแค่ 2 ขวบก็ตาม ที่สำคัญมะเร็งที่เธอเคยเผชิญหน้าไม่ใช่มะเร็งร้ายที่หลายเคยรู้จักทว่ามันเป็นมะเร็งชนิดที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งความรุนแรงของมันทำให้สการ์เล็ตต้องสูญเสียแขนซ้ายของเธอไปและกลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่แข็งแกร่งในวันนี้

.
แน่นอนว่าสำหรับครอบครัวทิปตันแล้ว พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้เห็นสการ์เล็ตเด็กสาวตัวน้อยที่อ่อนโยนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความสุขกับชีวิตเช่นเด็กคนอื่น ๆ พวกเขามีความหวังเสมอว่าจะเจอวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้สการ์เล็ตรับรู้ว่ามีคนที่เหมือนและเข้าใจเธอได้จริง ๆ
.
สการ์เล็ตเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่อ่อนโยนและรักสัตว์โดยเฉพาะกับน้องแมวดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ของเธอจึงพยายามมองหาน้องแมวที่เหมาะสมกับลูกสาวเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวและเพื่อนของสการ์เล็ต ซึ่งการรับอุปการะน้องแมวที่ต้องการบ้านในศูนย์พักพิงสัตว์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามการตามหาน้องแมวที่พอดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณพ่อคุณแม่ของสการ์เล็ตต้องแวะเข้าไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์นานหลายเดือน 
.
“เราต้องการให้ลูกแมวตัวน้อยเติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับตัวตนบางอย่างที่เหมือนกับสการ์เล็ต” 
ไซม่อน ทิปตัน (Simone Tipton) คุณแม่ของสการ์เล็ตกล่าว
.

.
แล้ววันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังตามหาน้องแมวที่มีบางอย่างพิเศษสำหรับลูกสาวอยู่ก็มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น พวกเขาได้เห็นลูกแมวตัวน้อยวัย 3 เดือน เพศเมีย ที่เพิ่งถูกตัดขาหน้าข้างหนึ่งเนื่องจากอาการป่วย ขณะที่นั่งชมรายการโทรทัศน์จากช่องสำนักข่าวท้องถิ่น แน่นอนว่านี่ต้องเป็นเรื่องพรหมลิขิตแน่ ๆ ครอบครัวทิปตันจึงไม่รอช้าเร่งติดต่อไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ San Jacinto Animal Campus เพื่อยื่นคำร้องแสดงความประสงค์ที่จะรับอุปการะน้องแมวที่มีความพิเศษและตามหามานานทันที
.
คำร้องได้รับการพิจารณาและเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ San Jacinto Animal Campus ได้มอบสิทธิ์การเลี้ยงดูน้องแมวพิการให้กับครอบครัวของหนูน้อยสการ์เล็ต ไม่กี่วันหลังจากนั้นสการ์เล็ตก็ได้พบกับลูกแมว 3 ขา แน่นอนเธอตื่นเต้นมากและหลังจากที่ได้ใช้เวลาด้วยกันก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีมากเลยทีเดียว ครอบครัวได้ตั้งชื่อให้กับน้องแมวตัวน้อยว่า "ด็อค" (Doc)

.
"สการ์เล็ตต์ตื่นเต้นมากหลังจากที่ได้เจอกับด็อค เธอชอบด็อคและสังเกตเห็นรอยแผลบริเวณข้างลำตัวของด็อคด้วย ด็อคส่งเสียงร้องเหมียว ๆ ขณะที่มือของสการ์เล็ตสัมผัสถึงตัว ฉันได้บอกให้สการ์เล็ตรู้ว่าด็อคมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกับเธอด้วย ซึ่งเธอก็เข้าใจและรีบดึงมือกลับมาไว้แนบลำตัวก่อนที่จะพยักหน้าเพื่อจะบอกว่าเธอเข้าใจแล้ว”
ไซม่อน ทิปตัน คุณแม่ของสการ์เล็ตกล่าว
.
ทุกคนในบ้านรักและเอ็นดูด็อคมาก แต่ทว่าสำหรับด็อคแล้วพี่สาวอย่างสการ์เล็ตคือเพื่อนคนพิเศษสำหรับเธอ ทั้งคู่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะนอน กินและวิ่งเล่น บ้านที่เคยเงียบเหงาก็ดูมีสีสันและความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกเล็กน้อย 

.
"ด็อคสามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในบ้านของพวกเราได้เป็นอย่างดี เธอกระโดดและเล่นสนุกได้ในทุกกิจกรรม ถึงแม้จะมีข้อจำกัดบ้างก็ตาม ที่สำคัญเธออ้อนเก่งและชอบนั่งหรือนอนอยู่บนตักของใครสักคนในบ้านมาก ๆ เธอไว้ใจและกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว" 
ไซม่อน ทิปตัน คุณแม่ของสการ์เล็ตกล่าว
.

.
หลังจากที่ด็อคย้ายเข้ามาในบ้านหลังใหม่ได้ไม่นานนัก เธอก็ได้ทำให้สการ์เล็ตมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้น ทั้งสองมีบางอย่างที่ขาดหายไปแต่พรหมลิขิตทำให้ทั้งสองกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกันได้อย่างพอดี
 

.

.
"วันนี้เคยเป็นวันที่พวกเราแทบทรุดลงกับพื้นพร้อม ๆ กับหัวใจที่แตกสลาย แต่ตอนนี้วันนี้กลายเป็นวันที่เราเฉลิมฉลองกัน เพราะครอบครัวของเราได้อยู่กันพร้อมหน้ามีความสุขและครื้นเครง เมื่อ 5 ปีที่แล้วการผ่าตัดของสการ์ตเล็ดได้เริ่มขึ้นเพื่อทำให้เธอรอดจากมะเร็งร้าย มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด เรามีเพียงคำมั่นสัญญาจากแพทย์เท่านั้น ไม่มีอะไรรับประกันความปลอดภัยของเธอ เราได้แต่เฝ้าภาวนาและอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า ขณะที่ผู้คนจิตใจดีทั่วโลกนับพันร่วมช่วยเราอธิษฐาน ซึ่งนั่นทำให้พระเยซูได้ยินและช่วยดูแลสการ์เล็ต 
.
เราไม่เคยท้อถึงแม้ว่าจะต้องลำบากขับรถข้ามรัฐทุกวันตลอดหนึ่งเดือน พวกเรานั่งดู  Frozen ซ้ำ ๆ ด้วยกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยทำให้จิตใจของเราสงบลงได้ อาการของเธอไม่คงที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแต่เราก็ผ่านมันมาได้
.
ชีวิตของเราคงไม่เหมือนเดิมหากไม่มีลูกสาวตัวน้อยคนนี้ เรารู้สึกขอบคุณแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน เพื่อน ครอบครัวและคนแปลกหน้ามากมายที่เข้ามาปลอบโยนให้กำลังใจและช่วยสวดมนต์ให้กับเรา รวมถึงการบริจาคเงิน มันทำให้เราได้อยู่บ้านเพื่อดูแลลูกสาวของเราอย่างเต็มที่และนั่นทำให้พวกเราได้มีวันนี้ เป็น 5 ปีที่ยอดเยี่ยมและ 5 ปีที่พวกเราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น "
.

.
ข้อความที่ครอบครัวทิปตันโพสต์ระลึกถึงอดีตวันที่สการ์เล็ตต้องเข้าไปนอนในห้องผ่าตัดอีกครั้งเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 บนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Smiles For Scarlette" แต่ทุกอย่างในวันนี้ได้แสดงให้ได้เห็นแล้วว่าบนเส้นทางชีวิตของสการ์เล็ตไม่มีความโศกเศร้าจากโรคมะเร็งร้ายแล้วและเธอถูกเติมเต็มด้วยความรักจนมีความสุขได้เช่นกับเด็กคนอื่น ๆ  แล้ว สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับครอบครัวทิปตันคือการที่พวกเขายังคงมีกันและกัน ได้เห็นหน้าและโอบกอดกันไว้แน่น ๆ ทุกวันแบบนี้ นี้แหละคือความโชคดีที่สุด!

.
วันนี้ปี 2021 สการ์เล็ตมีอายุ 7 ขวบแล้ว เธอเติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับด็อค พี่ชายและน้องสาวที่น่ารักสมาชิกใหม่อีกหนึ่งคน พวกเขากลายเป็นแก๊งพี่น้องวัยใสที่มีแต่กิจกรรมสนุก ๆ ทำร่วมกันแทบทั้งวัน นอกจากนั้นครอบครัวทิปตันยังได้รับน้องหมาเยอร์มันเชพเพิร์ดที่น่ารักเพิ่มอีก 2 ตัวเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ด้วย แน่นอนว่าตอนนี้ด็อคได้เลื่อนตำแหน่งกลายเป็นหัวหน้าแก๊งของเหล่าสี่ขาในบ้านจากความอาวุโส อย่างไรก็ตามด็อคยังคงช่างอ้อนและชอบให้ใคร ๆ กอดเธอเหมือนเดิม

.

ภาพปัจจุบันของด็อค 
.
การเริ่มต้นด้วยความโชคร้ายไม่ได้หมายความว่าบนเส้นทางที่เหลืออยู่จะสิ้นหวังและไม่มีความโชคดีที่สุดรออยู่นะครับ หากต้องการติดตามชีวิตของสการ์เล็ตและด็อคน้องแมวช่างอ้อนเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ตรงนี้เลย >>> Facebook / Smiles For Scarlette  <<<
.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.