การเอาชีวิตรอดเพียงลำพังโดยปราศจากการดูแลนั้นดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและท้าทายสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มักจะคุ้นชินกับการได้อยู่อาศัยในบ้านกับมนุษย์ที่คอยเอาใจใส่ จัดหาอาหารและเบาะอุ่น ๆ ให้นอน การเป็นนักล่าอย่างสัตว์ป่าจึงเป็นอะไรที่ไกลตัว แต่ทว่าดูเหมือนจะไม่ใช่กับเจ้าแมวเหมียวยักษ์ตัวนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีบ้านและต้องเร่ร่อนช่วยเหลือตัวเองเพื่อเอาตัวรอดมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าเขากลับมีชีวิตที่สุขสบายกินดีอยู่ดีจนตัวอ้วนใหญ่และมีน้ำหนักตัวมากถึง 10 กิโลกรัมเลยทีเดียว
.
คำถามที่หลายคนสงสัยคือเขาสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างไร แถมยังตัวอ้วนได้ขนาดนี้โดยไม่มีใครให้อาหารหรือดูแลเขาเลย
.
“เขาแอบย่องเข้าไปในโรงรถในบ้านของผู้หญิงคนหนึ่งแบบเงียบ ๆ แผนการของเขานั้นเหนือชั้นเป้าหมายคืออาหารเม็ดของน้องหมาที่เก็บไว้ที่นั่น”
บาร์บาร่า บัคนอน (Barbara Baugnon) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ Oregon Humane Society (OHS) กล่าว
.
"บาร์บาร่า" เชื่อว่าตลอดระยะเวลานานกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา "โกไลแอธ" (Goliath) อาศัยอยู่ข้างถนนเพียงลำพังมาโดยตลอด เมื่อถึงมื้ออาหารหรือช่วงเวลาที่เขาหิวก็จะแอบย่องเข้าไปหาอาหารตามบ้านของผู้คนในละแวก แน่นอนว่าแผนการของเขาใช้ได้ผลและถือได้ว่าเกินความคาดหมายของใครหลาย ๆ คน หลักฐานสำหรับข้อกล่าวหานี้น่ะเหรอ? ไม่ต้องมีก็ได้ลองดูน้ำหนักและขนาดตัวของเขาสิ คงเป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนเลยล่ะว่าแผนของเขาประสบความสำเร็จมากแค่ไหน
.
โกไลแอธ ย่องเข้าไปบ้านผู้คนทุกครั้งที่หิว ซึ่งเป็นไปได้ว่านอกจากอาหาร 3 มื้อแล้วเขาคงจะมีมื้อดึกต่อด้วยแน่ ๆ ในทุกคืน
.
เจ้าแมวเหมียวตัวอ้วนแสนฉลาดจอมวางแผน มีทักษะการย่องเบาที่เป็นเลิศ ออกปฏิบัติการหาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด แต่ทว่างานของเขาไม่ค่อยสุจริตสักเท่าไหร่ สุดท้ายโกไลแอธก็ถูกจับได้ ขณะที่แอบย่องเข้าไปในโรงรถของบ้านหลังหนึ่งเพื่อกินอาหารเม็ดน้องหมาอย่างเคย แต่ทว่าอาหารเม็ดสูตรใหม่ที่เจอถูกใจโกไลแอธมากเป็นพิเศษจึงกินเยอะกว่าทุกมื้อ เขากินจนพุงกาง จากพุงที่โตอยู่แล้วก็โตขึ้นไปอีก
.
เมื่ออิ่มหนำจนพอใจแล้วลำดับต่อไปโกไลแอธจะต้องรีบหนีแล้ว เขาจึงเดินย้อนกลับไปทางเดิมที่บริเวณช่องประตูทางออก โอ๊ะโอ!...งานเข้าแล้ว โกไลแอธลอดช่องประตูทางเดิมออกไปไม่ได้ซะงั้น พุงโต ๆ ของเขาติดแหง็กอยู่ที่ช่องประตู โกไลแอธติดอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเขาพยายามแขม่วพุงแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งเจ้าของบ้านมาพบเข้าเสียก่อน พวกเขาใจดีและติดต่อไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ OHS ให้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าเหมียวพุงโตหัวขโมยผู้น่าสงสารโกไลแอธด้วย
.
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ OHS ได้เข้าช่วยเหลือและพากลับมาที่ศูนย์พวกเขาได้ตั้งชื่อให้เจ้าแมวเหมียวว่า "โกไลแอธ" และในคืนเดียวกันนั้นเรื่องราวของเขาก็ได้รับการเผยแพร่โดยสำนักข่าวท้องถิ่น วีรกรรมของโกไลแอธกลายเป็นที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งเมืองเพียงชั่วข้ามคืน ผู้คนรู้สึกขำและตลกกับพฤติกรรมกินจุของโกไลแอธที่เป็นเหตุให้เขาถูกจับได้ ด้วยความน่ารักของเขาก็ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โกไลแอธกลายเป็นเจ้าแมวเหมียวที่มีชื่อเสียงไปแล้วในตอนนี้
.
“ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้มีโอกาสดูแลแมวเหมียวตัวอ้วนขนาดนี้ เขาเป็นเด็กดีมากเลยนะ ชอบให้ผู้คนสนใจ หลังจากที่มาอยู่กับเราได้ไม่นานมันค่อนข้างชัดเจนมากว่าเขาชอบการกินมากกว่ากิจกรรมอื่นใด”
บาร์บาร่ากล่าว
.
.
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทุกคนที่นี่ต่างรู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าโกไลแอธกันได้มากมายขนาดนี้ คนในพอร์ตแลนด์รักแมวอ้วนแบบเขาในตอนนี้”
บาร์บาร่ากล่าว
.
.
ไม่นานหลังจากที่โกไลแอธกำลังเป็นที่สนใจจากผู้คนในเมือง ความจริงและเรื่องราวส่วนตัวของเขาก็ถูกเปิดเผยอีกครั้งว่า แท้จริงแล้วโกไลแอธมีเจ้าของและเขาก็เพิ่งจะมีสถานะไร้บ้าน...
.
"เจฟฟรีย์ เดวิด เอิร์นเนส" (Geoffrey David Earnest) เจ้านายของโกไลแอธเห็นเจ้าเหมียวตัวอ้วนผ่านทางโทรทัศน์ ทันทีที่เห็นเขาก็จำได้ทันทีว่านั้นคือน้องแมวเหมียวที่เขาเคยเลี้ยงเอาไว้ก่อนหน้านี้ ในวันถัดมาหลังจากทราบเรื่องทั้งหมดและแน่ใจดีแล้วเขาจึงเดินทางมายัง OHS พร้อมกับหลักฐานภาพถ่ายว่าเจ้าโกไลแอธเป็นน้องแมวเหมียวของเขาจริง ๆ และเขาก็รู้สึกดีใจมากด้วยที่ได้พบหน้ากับสัตว์เลี้ยงที่เขารักอีกครั้ง
.
“เมื่อเราได้คุยกับเจ้านายของเขา ทำให้เราทราบว่าแท้จริงแล้วเขาชื่อ เฮอร์คิวลีส ”
บาร์บาร่ากล่าว
.
เจฟฟรีย์เจ้านายของ เฮอร์คิวลิส หรือ โกไลแอธ เล่าถึงสาเหตุที่เจ้าแมวเหมียวหายตัวออกจากบ้านไปให้กับเจ้าหน้าที่ของ OHS ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 6 เดือนก่อน ตนมีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศแคนาดาเพื่อทำการปลูกถ่ายปอดจึงได้ฝากแมวตัวอ้วนของเขาเอาไว้กับพี่เลี้ยงคนหนึ่งที่อยู่ในเมือง แต่แล้วไม่นานนักหลังจากที่ได้เข้าไปอยู่กับพี่เลี้ยง เฮอร์คิวลีสจอมซนก็แอบย่องหนีไปเดินเล่นนอกบ้านตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย
.
“เหตุผลที่เจ้านายของเฮอร์คิวลีสสามารถก้าวผ่านโรคร้ายมาได้นั่นก็เพราะ มีเฮอร์คิวลิสเป็นกำลังใจที่ดีให้มีความหวังเพื่อได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและพบหน้ากันอีกได้ครั้ง”
บาร์บาร่ากล่าว
.
แม้ว่าเฮอร์คิวลีสจะอยู่ที่ OHS เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น แต่เขาและเจฟฟรีย์ก็ยังแวะเวียนมาที่ OHS อยู่เรื่อย ๆ เพื่อทักทายคนที่เคยช่วย เจ้าหน้าที่ยังได้ให้ปรึกษากับเจฟฟรีย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายสำหรับเฮอร์คิวลิสด้วย ทั้งหมดนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี
.
ทั้งคู่ได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันได้อีกครั้งในปี 2550 อย่างที่ตั้งใจ แต่ทว่ามันเป็นเสมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับทั้งคู่....
.
หลังจากที่พวกเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งพร้อม ๆ กับรอยยิ้มและความสุขก้อนโต โชคชะตาก็เล่นตลกกับพวกเขา... มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและสะเทือนใจที่สุดเมื่อเฮอร์คิวลิสได้เสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุในปี 2556 การสูญเสียสร้างความเสียใจให้กับเจฟฟรีย์และครอบครัวของเขามากในตอนนั้น เจฟฟรีย์ต้องเผชิญกับอาการป่วยโดยปราศจากกำลังใจที่ดีจากเฮอร์คิวลิส มันเป็นเรื่องยากมากเมื่อกำลังใจสำคัญได้หายไปหลังจากที่ได้เติมเต็มชีวิตของกันและกันมาตลอดช่วงระยะเวลา 6 ปีความรักและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยิ่งใกล้ชิดและแนบแน่น ความเศร้า ความเสียใจและสิ้นหวังมันเป็นเรื่องยากที่เจฟฟรีย์จะรับมือได้ในตอนนั้น
.
เจฟฟรีย์ยังคงต้องต่อสู่กับอาการป่วยอย่างที่เคยได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ OHS ฟัง ซึ่งหลังจากที่ต่อสู้อย่างอดทนเขาก็ได้เสียชีวิตลงในปี 2557 หลังจากที่เฮอร์คิวลิสจากไปเพียงไม่กี่เดือน ( ตามข้อมูลบนหน้าเว็ปไซต์โรงเรียน "Mt. Hood Community College" ที่เจฟฟรีย์เคยเรียนเมื่อครั้งอดีต )
.
ครอบครัวของพวกเขาสูญเสียเป็นครั้งที่สองและแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่สร้างความทุกข์ใจให้กับพวกเขามากวันนี้ทั้งคู่คงได้อยู่ด้วยกันอีกฟากฝั่งหนึ่ง....อย่างมีความสุขแล้วนะ ผู้คนในเมืองและผู้ที่คอยติดตามเรื่องราวดังกล่าว ต่างก็รู้สึกเศร้าและเสียใจกับการจากไปเช่นกัน เหลือทิ้งไว้เพียงแค่เรื่องราวที่น่ารักเป็นความทรงจำที่ยังคงสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนได้เสมอ ด็อกคลิปขอบันทึกเรื่องราวความรัก ความผูกพันของทั้งคู่และวีรกรรมที่น่ารักของเฮอร์คิวลิสเอาไว้เพื่อให้ผู้คนตระหนักว่า สัตว์เลี้ยงสำหรับบางคนแล้วพวกเขาเป็นเสมือนส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตและเป็นกำลังใจที่มีค่ามาก "เวลา" เป็นสิ่งสำคัญหมั่นเติมเต็มให้กับคนสำคัญที่เรารักให้มาก ๆ รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่รักของเราด้วยนะ ไม่มีใครรู้ว่าวันสุดท้ายจะมาถึงเมื่อไหร่ วันพรุ่งนี้ยังจะได้มีโอกาสพบหน้าคนที่รักและปรารถนาดีกับเราอีกครั้งมั้ย จะได้โอบกอดบอกรักและขอโทษกันอีกหรือเปล่า ดังนั้นใช้เวลาที่มีสร้างความทรงจำดี ๆ ให้กันและกันดีกว่านะครับ
สู่สุคติ...เจฟฟรีย์และเฮอร์คิวลิส
.
รับชมคลิป
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.