“วิลโลว์” (Willow) ลูกหมาตัวน้อยสายพันธุ์ นีอาโพลีตัน มาสทีฟ หรือ อิตาเลียน มาสทีฟ เพศผู้ อายุเพียงแค่ 4 สัปดาห์ จากฟาร์มเพาะพันธุ์น้องหมาแห่งหนึ่งในเมืองนอร์โค รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา วิลโลว์เกิดมาพร้อมกับความโชคร้าย เขาป่วยเป็นโรค สวิมเมอร์ ซินโดรม (Swimmer’s Syndrome) ซึ่งสาเหตุเกิดจากการผสมพันธุ์ในรุ่นพ่อแม่ที่มีสายเลือดใกล้เคียงกันมากเกินไป และผลจากโรคทำให้วิลโลว์ไม่สามารถลุกขึ้นยืนทรงตัวด้วยขาทั้งสี่ของเขาได้ นั่นจึงทำให้วิลโลว์ต้องใช้ชีวิตในทุกๆ วันด้วยท่านอนราบไปกับพื้นขณะที่ขาทั้งสี่ก็ไม่สามารถควบคุม จึงกางออกข้างๆ ลำตัวทำให้ดูคล้ายกับเต่า แต่ทว่าชีวิตของเขาลำบากกว่าเต่ามากเพราะแม้แต่จะออกแรงคลานเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้ขยับไปข้างหน้าเขาก็ไม่สามารถทำได้
.
และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าของฟาร์มเพาะพันธุ์มองวิลโลว์ด้วยสายตาที่ผิดหวัง... เพราะไม่มีใครต้องการซื้อลูกหมาพิการ วิลโลว์ไม่สร้างผลกำไร ซ้ำร้ายยังจะเป็นภาระเพิ่มให้กิจการ แน่นอนเจ้าของฟาร์มต้องการตัดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลวิลลโลว์ออกจึงวางแผนโยนวิลโลว์ทิ้งในที่ลับตาให้จบๆ ไป
.
แต่โชคดีที่เขาเปลี่ยนใจและนำเรื่องราวของวิลโลว์โพสต์มาเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียหวังขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่พร้อมจะรับอุปการะวิลโลว์แทน พร้อมกับได้ระบุถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากว่าไม่มีใครรับเลี้ยงวิลโวล์ในระยะเวลาอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ว่า เขาคงต้องขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์เพื่อทำให้วิลไลว์นอนหลับจากไปอย่างสงบ...
.
หลังจากที่เรื่องราวของวิลโลว์ได้ถูกเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมากก็ได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่ทว่าก็ยังไม่มีใครเสนอตัวพร้อมยื่นมือเข้ามาอาสารับเลี้ยงวิลโลว์เลย ยกเว้น “เจนนิเฟอร์ วิลเลียมส์” (Jenifer Williams) ประธานขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ 2nd Chances Rescue ที่ตั้งอยู่ในเมืองนอร์โค รัฐแคลิฟอร์เนีย ทันทีที่เธอได้อ่านเรื่องราวของวิลโลว์ก็เร่งหาทางติดต่อกลับไปหาเจ้าของฟาร์มเพาะพันธุ์เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับอุปการะวิลโลว์ในทันทีเพราะเกรงจะไม่ทันเวลา เมื่อแน่ใจว่าวิลโลว์ยังมีชีวิตอยู่เจนนิเฟอร์ก็เร่งขับรถไปรับเขาด้วยตัวเองก่อนที่เจ้าของฟาร์มเพาะพันธุ์จะเปลี่ยนใจการุณยฆาตเขาไปเสียก่อน
.
.
“วิลโลว์เดินไม่ได้เลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีชามข้าววางอยู่ใกล้ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นเดินไปกินได้ เพราะเขาขยับตัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย”
เจ้าของฟาร์มกล่าวกับเจนนิเฟอร์
.
เจนนิเฟอร์พาวิลโลว์ออกมาจากฟาร์มอย่างไม่ลังเลใจถึงแม้ว่าเธอจะเห็นสภาพที่น่าเวทนาและสิ้นหวังเช่นนั้น ในหัวของเธอตอนนั้นคิดเพียงว่าหากวิลโลว์ได้ไปอยู่ในความดูแลของเธอ เขาจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากกว่านี้แน่ๆ
.
เป็นความโชคดีของวิลโลว์เมื่อเจนนิเฟอร์รู้จักกับ “ดร.จีนา กูลด์” (Dr. Gena gools) สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะสามารถมอบโอกาสให้วิลโลว์กลับมาเดินได้อีกครั้ง!
.
ทันทีดร.จีนาได้เห็นวิลโลว์ ด้วยประสบการณ์การรักษาที่สั่งสมมาทำให้เธอสามารถประเมินได้ว่า อาการป่วยของวิลโลว์ค่อนข้างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ดร.จีนาไม่ปฏิเสธ เธอรับวิลโลว์เป็นคนไข้และพาเขาเข้าสู่กระบวนการรักษาในทันที
.
หนึ่งในขั้นตอนของการรักษาของ ดร.จีนา คือ การกระตุ้นให้วิลโลว์พยายามลุกขึ้นยืนด้วยการใช้สายรัดชนิดพิเศษพันรอบอกวิลโลว์เอาไว้ เพื่อช่วยบังคับให้เขาลุกขึ้นเดิน ทั้งนี้สายรัดยังจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายของเขาปรับตัวจนเคยชินกับการใช้ชีวิตนอนราบอยู่บนพื้นแบบนี้ไปตลอดชีวิตด้วย นอกจากนั้นแล้วดร.จีนา ยังเลือกใช้ไฟฟ้าอ่อนๆ กระตุ้นกระดูกสันหลังของวิลโลว์ด้วย ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 2 วันก็ได้เกิดเรื่องที่น่าทึ่งสุดๆ วิลโลว์เริ่มมีอาการดีขึ้นราวกับปาฏิหาริย์! กล้ามเนื้อขาตอบสนองเริ่มขยับ วิลโลว์พยายามจะลุกขึ้น
.
วิลโลว์มีหัวใจที่แข็งแกร่งพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ได้มีโอกาสวิ่งเล่นสนุกเหมือนกับลูกหมาตัวอื่นๆ และด้วยการทุ่มเทช่วยเหลือของมนุษย์ใจดีหลายคน ก็ทำให้วิลโลว์สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเองและเริ่มยกเท้าเดินก้าวแรกได้อย่างน่าทึ่ง แน่นอนไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของวิลโลว์ที่กำลังพองโตถูกเติมเต็มด้วยกำลังใจมากมาย แต่ทว่าเป็นเจนนิเฟอร์และ ดร.จีนา ด้วย พวกเธอดีใจที่ได้นำพาชีวิตของลูกหมาตัวน้อยที่สิ้นหวัง สู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีได้อีกครั้งราวกับว่าเป็นการเกิดใหม่
.
ดร.จีนา ยังคงรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดโดยใช้สายรัดอกและขากระตุ้นให้วิลโลว์ลุกขึ้นเดินอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นกระตุ้นการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและประสาทให้มากขึ้น ดร.จีนา ได้ให้วิลโลว์เริ่มว่ายน้ำในสระด้วย ซึ่งนั่นจะช่วยลดการบาดเจ็บอันเนื่องมาจากการทรงตัวที่ยังทำได้ไม่ดีพอด้วย
.
ดร.จีนาและเจนนิเฟอร์คอยช่วยเหลือเฝ้ามองพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของวิลโลว์อย่างมีหวัง ชีวิตของเขาเดินทางมาไกลมาก!
.
“วิลโลว์มาไกลมาก สภาพในวันแรกที่ได้พบเขาฉันยอมรับเลยว่าแทบไม่มีหวังที่จะทำให้เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ในวันนี้เขาทำให้ฉันได้เห็นแล้วว่าเขาทำได้! เขาน่าทึ่งมาก สามารถพัฒนาและเติบโตขึ้นได้ทุกๆ วันเช่นน้องหมาที่ร่างกายปกติในวัยเดียวกันเลยล่ะ”
ดร.จีนากล่าว
.
ด้วยหัวใจที่เมตตาของมนุษย์ใจดีที่เห็นคุณค่ายอมเปิดใจหยิบยื่นน้ำใจโอกาสและยอมทุ่มเทให้ลูกหมาอายุเพียงแค่ 4 สัปดาห์ในสภาพพิการ ที่ไม่มีใครต้องการและกำลังจะจบชีวิตลงด้วยวิธีการการุณยฆาตเพราะกำลังจะกลายเป็นภาระที่ไม่มีวันสิ้นสุดให้กับผู้ดูแลวันนั้น จึงทำให้มีเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่น่าทึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ปกครองที่ต้องดูแลน้องหมาป่วย และจิตอาสาช่วยเหลือน้องหมาป่วยหลายๆ คนในวันนี้
.
รูปด้านล่างคือวิลโลว์ในปี 2563 ปัจจุบัน วันนี้เขามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอวบอั๋นกับน้ำหนักตัว 36 กิโลกรัม จ้ำม้ำน่ากอดเหลือเกิน วันนี้เขามีอายุ 4 ปี 8 เดือนแล้วนะ วิลโลว์กลายเป็นหนุ่มหล่อเฟี้ยวฟ้าวมะพร้ามแก้วผู้ร่าเริง มีชีวิตที่ปกติสุขเช่นเดียวกับน้องหมาปกติทั่วไป ได้วิ่งเล่นสนุกอย่างที่เขาเคยฝัน ถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้แน่ๆ ว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเขาน่าเวทนาแค่ไหนแต่ไม่สำคัญแล้วล่ะ วันนี้วิลโลว์มีบ้านที่อบอุ่นมีผู้ปกครองที่แสนดีอย่างเจนนิเฟอร์คอยดูแล มอบความรักให้ไม่ขาด ที่บ้านหลังนี้วิลโวล์จะมีคุณค่า สำคัญเสมอและมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป...
.
“ไม่มีอะไรเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้รับน้องหมาที่ไม่มีใครต้องการ มาดูแล เปลี่ยนให้เขากลายเป็นน้องหมาที่ทุกคนต้องการได้แล้วล่ะ สำหรับฉัน สิ่งนั้นคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘การช่วยเหลือ’ ”
เจนนิเฟอร์นางฟ้าของวิลโลว์กล่าว
.
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
