สาวใจดีรวบรวมเงินบริจาคช่วยประกันตัวน้องหมาที่ถูกจับ หลังพบชายแปลกหน้าร่ำไห้อยู่หน้ากรงน้องหมาที่หน่วยควบคุมสัตว์

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

“บัส” (Buzz) น้องหมาสายพันธุ์อเมริกันพิตบูลเทอเรียร์ผสม เพศผู้ อายุ 2 ปี โชคร้ายถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จับตัวไปขังไว้ ด้วยสาเหตุว่าเขาออกมาเดินเล่นนอกบ้านเพียงลำพังโดยที่ไม่สวมปลอกคอสัญลักษณ์สำคัญที่จะสามารถระบุให้ทราบว่าเขาเป็นน้องหมาที่มีเจ้าของ อีกทั้งบัสยังเป็นน้องหมาในกลุ่มสายพันธุ์ที่ดุทำให้ยิ่งถูกจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษด้วย เมื่อบัสไม่อยู่ในการควบคุมดูแลของผู้เป็นนายเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องจับกุม แต่นับว่าบัสยังพอจะมีโชคดีอยู่บ้าง เมื่อ “เดฟ โทมัส” (Dave Thomas) ผู้เป็นเจ้านาย สามารถช่วยเขาออกมาได้ ด้วยความช่วยเหลือจาก “มาเรีย ซานเชส” (Maria Sanches) หญิงสาวแปลกหน้าที่เดินผ่านมาพบเข้า ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

เดฟ โทมัส

.

มาเรียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว KABC ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เธอบังเอิญไปพบกับเดฟที่กำลังนั่งเศร้าอยู่บริเวณด้านหน้ากรงที่ขังบัสเอาไว้ภายในหน่วยงานควบคุมสัตว์ท้องถิ่น ของเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพที่มาเรียเห็นคือ เดฟผู้ปกครองของบัสกำลังยื่นมือเข้าไปภายในกรงเพื่อลูบหัวน้องหมาของเขาพร้อมกับน้ำตาที่อาบสองแก้ม ด้วยความสงสารและสงสัยมาเรียจึงเดินเข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้เธอได้ทราบเรื่องราวดังที่กล่าวไปข้างต้น เดฟบอกกับมาเรียว่าเขาอยากช่วยบัสออกมาแต่ปัญหาใหญ่ก็คือ...ต้องใช้เงินจำนวนมากถึง 400 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อประกันตัวบัส ซึ่งเงินจำนวนที่มากนี้เขาไม่มีปัญญาที่จะหามาไถ่ต้วน้องหมาของเขาได้แน่ๆ เพราะเขาเองก็กำลังตกงานอยู่ด้วย เขามีก็เงินติดตัวอยู่ทั้งหมดเพียงแค่ 6 ดอลลาร์เท่านั้น เมื่อมาเรียได้รับฟังเรื่องราวและความทุกข์ใจของเดฟก็รู้สึกเข้าใจและยิ่งสงสารทั้งคู่มากกว่าเดิม มาเรียไม่สามารถเดินจากไปได้ จึงเอ่ยปากมอบความช่วยเหลือให้กับทั้งคู่...

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

มาเรียได้ถ่ายภาพของทั้งคู่เอาไว้ ก่อนที่จะนำเรื่องราวที่น่าเศร้านี้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ เพื่อขอรับเงินบริจาคสำหรับการช่วยประกันตัวบัสให้สามารถกลับออกมาจากหน่วยงานควบคุมสัตว์แห่งนั้น ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปบนโลกออนไลน์ได้ไม่นานนักผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น... หลายคนแสดงความเป็นห่วงและเข้าใจเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากขณะที่ในกระเป๋าไม่มีเงิน ผู้คนเหล่านั้นร่วมเสนอตัวขอเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือเดฟและบัสให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ไม่นานนักมาเรียก็สามารถรวบรวมเงินบริจาคได้จนครบตามเป้าคือยอด 400 ดอลลาร์สหรัฐ มาเรียปิดรับบริจาคทันทีก่อนจะรีบนำเงินทั้งหมดไปมอบให้กับเดฟสำหรับค่าประกันตัวบัส

.

แต่ทว่าเรื่องกลับไม่ได้ง่ายแบบนั้น... เพราะเมื่อมาเรียนำเงินทั้งหมดกลับไปที่หน่วยงานควบคุมสัตว์ เธอกลับพบว่าเดฟไม่อยู่แล้ว และเธอเองก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย มาเรียพยายามสอบถามผู้คนในละแวกนั้นเกี่ยวกับเดฟแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เลย มาเรียจึงต้องนำเงิน 400 ดอลลาร์กลับมาที่บ้านของเธออีกครั้ง...

.

กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 วัน มาเรียก็ตั้งใจกลับไปที่หน่วยงานควบคุมสัตว์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอโชคดีที่ได้พบกับเดฟอีก เธอดีใจมากและแจ้งข่าวดีให้กับเขาทราบ...พร้อมกับมอบเงินจำนวน 400 ดอลลาร์สหรัฐให้กับเดฟเพื่อให้เขานำเงินจำนวนนี้ไปประกันตัวบัสออกมา เดฟทำได้เพียงแค่กล่าวคำขอบคุณมากมายด้วยความจริงใจที่แสดงออกมาพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม เขาขอบคุณมาเรียและคนใจดีทุกๆ คนที่บริจาคเงินช่วยเหลือบัสน้องหมาของเขา เดฟเอ่ยสัญญาว่าจะไม่ประมาทปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก เขาจะรอบคอบให้มากขึ้นสวมปลอกคอให้กับบัสและไม่ปล่อยให้บัสออกไปเดินเล่นตามลำพังอีก เดฟไม่ต้องการเสียบัสน้องหมาสุดที่รักของเขาไป...

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

หลังจากเดฟส่งมอบเงิน 400 ดอลลาร์สหรัฐให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานควบคุมสัตว์แล้ว บัสและเจ้านายก็ได้กลับมาสู่อ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง ทั้งคู่กอดกันอย่างมีความสุข เดฟน้ำตาไหลอีกครั้งแต่ทว่าเป็นน้ำตาแห่งความดีใจปีติที่เขายังสามารถรักษาคนที่เขารักไว้ได้ บัสกระโดดกอดเจ้านายของเขาด้วยความคิดถึงหลังต้องอยู่ภายในกรงขังนานเกือบสัปดาห์ ส่วนมาเรียเองก็ดีใจกับทั้งคู่เช่นกัน

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

Maria Sanchez presents the pups of SBC Shelter

.

หลังจากนั้นมาเรียยังช่วยหางานให้กับเดฟด้วย เพื่อให้เขามีรายได้นำมาใช้จ่ายในการดูแลน้องหมาบัสที่เขารัก

.

จากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้กับบรรดาเจ้านายของน้องหมาในประเทศสหรัฐได้เป็นอย่างดีเลยว่า ไม่ควรจะปล่อยน้องหมาให้ออกไปเที่ยวนอกบ้านเพียงลำพังโดยเฉพาะน้องหมาสายพันธุ์ดุ เพราะน้องหมาอาจจะถูกหน่วยงานควบคุมสัตว์จับตัวไปเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษตามมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งน้องหมาทุกตัวอาจจะไม่พบกับโชคดีอย่างกรณีของบัสก็เป็นไปได้นะ...
.
กฎระเบียบในประเทศสหรัฐแต่ละรัฐก็จะแตกต่างกันออกไปสำหรับการควบคุมสัตว์เลี้ยง การจะปล่อยให้น้องหมาออกไปเดินเล่นตามลำพังเป็นเรื่องที่เสี่ยงจะถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ อีกทิ้งเจ้าของอาจจะมีโทษตามมาด้วย ยิ่งกับน้องหมาสายพันธุ์ดุ ไม่มีปลอกคอและไม่มีการฝังไมโครชิป ยิ่งเป็นอันตราย น้องหมาที่ถูกขังไว้ภายในหน่วยควบคุมสัตว์จะมีระยะเวลาไม่มากนักสำหรับโอกาสที่จะได้กลับบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ แน่ใจว่าไร้คนดูแลและไม่มีใครต้องการน้องหมาแล้ว  น้องหมาเหล่านั้นก็จะถูกกำจัดทิ้งโดยวิธีต่างๆ เอาไว้วันหลังด็อกคลิปจะมาเล่าให้ฟังนะครับ 
.
ถึงแม้ว่าในประเทศไทยจะยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการควบคุมน้องหมาเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่สาธารณะชัดเจนลงรายละเอียดมากนัก แต่ผู้เลี้ยงก็สามารถนำแนวคิดดีๆ มาปรับใช้ได้เพื่อสร้างระเบียบความปลอดภัยให้กับคนในสังคม สร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับสังคมผู้เลี้ยงสัตว์ที่ดีอย่างสร้างสรรค์ได้นะครับ  การสวมปลอกคอให้น้องหมาจะช่วยให้น้องหมามีโอกาสได้กลับบ้านมากขึ้น และการดูแลน้องหมาให้อยู่ในพื้นที่บ้าน หรือบริเวณที่ผู้เลี้ยงสามารถดูแลและควบคุมได้ก็ช่วยทำให้น้องหมาไม่สามารถออกไปสร้างความวุ่นวายให้กับคนในสังคมได้...  อีกทั้งยังเป็นข้อดีทำให้น้องหมาปลอดภัยจากอุบัติเหตุจากรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนนและคนใจร้ายที่ไม่รักสัตว์ได้ด้วยนะครับ

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.