“กาบัง” (Kabang) เป็นน้องหมาสายพันธุ์ผสม เพศเมีย เกิดเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ในประเทศฟิลิปปินส์และกลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตสองเด็กหญิงจากการถูกรถจักรยานยนต์ชนเมื่อปี พ.ศ. 2554 ไว้ได้อย่างปลอดภัย
.

กาบังและครอบครัวของเธอ

.

ในวันเกิดเหตุเด็กหญิงวัย 11 ขวบและ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกและหลานสาวของ “รูดี้ บังกัล” (Rudy Bunggal) นายรักของกาบัง กำลังเดินจูงมือกันข้ามถนนโดยมีกาบังเดินตามอยู่ข้าง ๆ เพียงช่วงเสี้ยววินาทีวันแสนธรรมดาของพวกเธอก็กลายเป็นวันฝันร้ายอย่างที่คาดไม่ถึงและลืมไม่ลง เมื่อจู่ ๆ มีรถจักรยานยนต์ปริศนาคันหนึ่งขี่มาด้วยความเร็วสูงพุ่งตรงเข้ามา... เด็กหญิงทั้งสองคนกำลังจะถูกรถชน แต่ในเวลานั้นเองที่กาบังสังเกตเห็นก่อนที่เรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้นและเธอก็ตัดสินใจเสียสละทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ! กาบังกระโจนเข้าขวางรถจักรยานยนต์ปรินศนาคันดังกล่าวเพื่อปกป้องครอบครัวที่เธอรัก นั่นทำให้รถจักรยานยนต์ชนกาบังเข้าอย่างจัง การปะทะอย่างรุนแรงทำให้จมูกของกาบังหักและฉีกออก ก่อนจะหลุดเข้าไปติดอยู่ในซี่ล้อรถจักรยานยนต์คู่กรณี กาบังร้องลั่นสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด เธอตกใจและหวาดกลัวสุดขีดรีบวิ่งหนีพาร่างกายที่บอบช้ำแสนสาหัสออกจากจุดเกิดเหตุไปอย่างไม่คิดชีวิตขณะกำลังชุลมุน

.

 

.

 

ทันทีที่ทราบเรื่องอุบัติเหตุรูดี้ก็รีบวิ่งปรี่ไปที่เกิดเหตุ เขาดีใจมากที่เห็นลูกและหลานสาวปลอดภัยดี แต่เมื่อทราบว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะความเสียสละของกาบัง รูดี้ก็ถึงกับอึ้ง! เขาทั้งรู้สึกภูมิใจและเศร้าในคราวเดียวกัน รูดี้ไม่รอช้าเร่งออกตามหากาบังเพื่อพาเธอไปรักษา แต่น่าเศร้าที่การค้นหากลับต้องพบกับความผิดหวังไม่มีใครพบเธอ อย่างไรก็ตามการค้นหายังคงดำเนินต่อไปอีกหลายวัน กระทั่งรูดี้เริ่มยอมรับสภาพตามความเป็นจริงว่ากาบังคงไม่รอดแล้วเพราะบาดแผลของเธอสาหัสเกินกว่าร่างกายจะทนรับไหวซ้ำยังต้องอยู่ลำพังในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้าน

.

 

แต่รูดี้กลับคิดผิด! หลังจากวันเกิดอุบัติเหตุนาน 2 สัปดาห์ กาบังก็ตัดสินใจเดินแบกร่างกายที่อ่อนแรงและบอบช้ำเจียนตายกลับมาที่บ้านอีกครั้ง จากสภาพกาบังคงต้องการได้เห็นหน้าครอบครัวและใช้ลมหายใจสุดท้ายอยู่กับพวกเขา!

.

เมื่อรูดี้ได้เห็นกาบังปรากฎตัวที่หน้าประตูบ้าน เขาก็รู้สึกดีใจและตกใจสุด ๆ เพราะสภาพร่างกายของกาบังในตอนนั้นย่ำแย่เหลือเกิน รูดี้ไม่รอช้าเร่งพาเธอไปพบสัตวแพทย์ที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที 

.

หลังจากที่ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดสัตวแพทย์ก็ได้แนะนำให้รูดี้การุณยฆาตกาบังเพื่อยุติความเจ็บปวดและปล่อยให้เธอนอนหลับจากไปอย่างสงบ คำแนะนำนั้นทำรูดี้เสียใจ เขาตอบปฎิเสธพร้อมกับยืนยันกับสัตวแพทย์อย่างหนักแน่นว่าจะไม่ยอมทำแบบนั้นแล้วพากาบังกลับบ้าน รูดี้ต้องการช่วยกาบังให้ถึงที่สุดและอยากจะมีโอกาสได้มอบความรักเพื่อตอบแทนกาบังอีกครั้งซึ่งเธอสมควรได้รับ 

.

หลังจากวันนั้นกาบังก็ได้รับการดูแลจากรูดี้และคนในครอบครัวของเธออย่างใกล้ชิดเรื่อยมา ไม่นานสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่ออาการของกาบังค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นได้จนน่าประหลาดใจ แต่การมีชีวิตอยู่ก็ไม่ง่ายสำหรับเธอเลยเนื่องจากความพิการเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามกาบังเข้มแข็งและกล้าหาญยอมรับกับความพิการได้ เธอพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ ด้วยกำลังใจจากครอบครัวกาบังก็ทำสำเร็จ เธอเริ่มส่ายหางได้อีกครั้งถึงแม้จะไร้จมูกและฟันบางส่วนก็ตาม

.

 

.
 

.

ไม่นานนักเรื่องราววีรกรรมของกาบังก็ถูกเผยแพร่และโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยจิตใจที่กล้าหาญและงดงามของกาบังจึงเป็นผลให้การช่วยเหลือจากผู้คนแปลกหน้าใจดีมากมายหลั่งไหลไปหาเธอ กาบังได้รับการอนุเคราะห์ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ในประเทศสหรัฐอเมริกานานถึง 7 เดือน ที่นั่นสัตวแพทย์ได้พยายามคิดหาวิธีศัลยกรรมตกแต่งเพื่อทำให้จมูกและฟันของกาบังที่หายไปกลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกครั้ง แต่น่าเศร้าที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ 

.

อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์ก็ได้ทำการรักษาบาดแผลและศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะในส่วนที่เหลืออยู่ให้สามารถใช้งานได้ดี อยู่ในตำแหน่งที่สวยงามและเหมาะสมมากที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจจะตามมาได้ในอนาคต นอกจากนั้นพวกเขายังช่วยบำบัดจิตใจให้กาบังกลับมากระดิกหางมีความสุขได้เหมือนเดิมอีกครั้งด้วย 

.

 

.
ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่แล้วจู่ ๆ สัตวแพทย์ก็กลับตรวจพบความผิดปกติภายในช่องคลอดของกาบัง ก่อนจะวินิฉัยว่าเธอกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง นั่นทำให้กาบังต้องอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานขึ้นกว่ากำหนดเพื่อรักษามะเร็งร้ายด้วยเคมีบำบัดจนกว่ามะเร็งร้ายจะหายไป กาบังได้รับการดูแลอย่างดีจากคนใจดีที่นั่นและหลายเดือนต่อมาเธอก็หายดี

.

 

.

คณะสัตวแพทย์ผู้รักษาและดูแลกาบังตลอดระยะเวลา 7 เดือน

.

หลังจากการรักษาบาดแผลที่บริเวณจมูกรวมถึงมะเร็งร้ายในช่องคลอดของกาบังเสร็จสิ้น เธอก็ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่ประเทศฟิลิปปินส์อีกครั้ง กาบังมีชีวิตที่มีความสุขอยู่กับครอบครัวที่รักเรื่อยมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2558 รูดี้นายรักของเธอก็จากไปตลอดกาล

.

เมื่อ "ดร.แอนทอน มาริ เอช. ลิม" (Anton Mari H. Lim) สัตวแพทย์ชาวฟิลิปปินส์ผู้รับหน้าที่ดูแลกาบังขณะเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทราบข่าวเศร้าการจากไปของรูดี้ เขาจึงได้ขอรับอุปการะกาบังต่อและเขาก็ได้รับข่าวดีเมื่อครอบครัวบังกัลเต็มใจให้กาบังย้ายบ้านไปอยู่กับคนที่รักและเมตตาเธอมาตลอด  ในบ้านหลังใหม่กาบังได้รับการดูแลและความรักความอบอุ่นอย่างมากมายจนกระทั่ง...

.

 

กาบังและรูดี้นายรักผู้จากไป

.

 

กาบังกลับมาถึงบ้านหลังจากที่บินลัดฟ้าไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกานาน 7 เดือน

.

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ดร.แอนทอน ได้โพสต์อัปเดตลงบนหน้ากระดานข่าวเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า

.

“ด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ผมขอประกาศว่าน้องหมาฮีโร่ของเราได้จากโลกนี้ไปแล้ว 'กาบัง' (กุมภาพันธ์ 2551 - 17 พฤษภาคม 2564) ผมพบว่าเธอนอนนิ่งอยู่ใกล้ ๆ กับเบาะนอนของเธอ ผมเห็นเธอมีชีวิตครั้งสุดท้ายตอนเวลาประมาณ 15.00 น. ตอนที่ผมไปให้อาหารและเปลี่ยนน้ำถ้วยให้กับเธอ ผมกลับไปดูเธออีกครั้งตอน 19.00 น. และพบว่าเธอจากไปแล้ว เธอน่าจะจากไปก่อนหน้านั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผมรู้ว่าเธอเพิ่งจะออกไปเล่นที่สวนกับน้องหมาตัวอื่น ๆ มาเหมือนอย่างที่เคยทำ เพราะผมสังเกตเห็นที่เท้าของเธอเปื้อนดิน
.
ขอบคุณกาบังสำหรับ 5 ปีแห่งความรัก ความซื่อสัตย์และความสุขที่ไม่มีเงื่อนไขที่เธอนำมาสู่ครอบครัวของเรา ขอบคุณสำหรับบทเรียนชีวิตและแรงบันดาลใจที่เธอให้กับโลกใบนี้ เราจะคิดถึงเธอ หวังว่าจะได้พบเธออีกครั้ง หลับให้สบายนะกาบัง ”
.

.

วันที่ ดร.แอนทอนรับกาบังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

.

 

ด้วยวีรกรรมการเสียสละและภักดีของกาบัง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ได้ถูกกล่าวถึงและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนเรื่อยมา นั่นทำให้คนรักสัตว์ชาวฟิลิปปินส์ได้ช่วยกันระดมทุนจัดสร้างรูปปั้นของกาบังขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมที่เธอเคยทำด้วย 

.

 

ดร.แอนทอนกับรูปปั้นของกาบัง

.

.
กาบังน้องหมาตัวน้อยแต่ทว่าหัวใจของเธอกลับยิ่งใหญ่เกินตัว เธอยอมเสียสละเพื่อปกป้องครอบครัวที่รักได้อย่างไม่ลังเลใจ นี่เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ว่า "น้องหมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ " ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องหมาจึงได้รับความรักจากมนุษย์ใจดีได้มากมายแบบนี้ แต่ทว่าก็น่าเศร้านะครับที่ความจริงแล้วยังมีน้องหมาอีกหลายตัวถูกมนุษย์ใจร้ายทารุณกรรมอยู่ หวังว่าเรื่องราวของกาบังจะช่วยทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจและหันมารักหรือเมตตาน้องหมาได้มากขึ้นนะครับ

.
 แด่...กาบัง
.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.