“ซอลลี่ แอน ฟิชเชอร์” (Sally Ann Fisher) สาวใจดีจากเมืองมาร์ลบะระ ประเทศอังกฤษ ได้รับอุปการะ “แคป” (Cap) น้องหมาสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ สุดที่รักของคุณปู่ “อลัน ลีค” (Alan Leek) วัย 93 ปี เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว คุณปู่รักแคปมากแต่ด้วยปัญหาสุขภาพที่เผชิญอยู่ทำให้คุณปู่จำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักคนชรา แต่ทว่าน่าเศร้าเพราะที่นั่นคุณปู่ไม่สามารถพาแคปเข้าไปอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้นคุณปู่จึงต้องจำใจต้องประกาศหาบ้านหลังใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายให้กับแคปน้องหมาที่รักและเป็นห่วงมากที่สุด ซอลลี่จึงได้พบกับแคปก่อนที่เธอจะตัดสินใจเป็นผู้อุปการะเขาเอาไว้
.
ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ซอลลี่ยังคงได้ติดต่อกับคุณปู่อลันอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาด เธอคอยส่งรูปน่ารักๆ ของแคปไปให้คุณปู่ได้ดูหวังว่าจะช่วยทำให้หายคิดถึงและสบายใจได้ว่าน้องหมาที่เขารักยังมีความสุขดี กระทั่งเมื่อช่วงที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซอลลี่ก็อดนึกเป็นห่วงคุณปู่อลันไม่ได้เลย เธอกลัวและกังวลใจว่าคุณปู่จะเหงาเพราะต้องถูกกักตัวไม่สามารถออกไปพบปะเพื่อนๆ ได้อย่างเคยเป็นเวลานาน ในตอนนั้นเองที่ซอลลี่ได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
.
“คุณปู่อลันเป็นอดีตชาวไร่ที่ค่อนข้างกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านพักคนชราท่ามกลางเหตุการณ์แบบนี้ คงทำให้เขารู้สึกเหงาอยู่ไม่น้อยเลย ฉันเป็นห่วงคุณปู่จึงอยากจะทำให้เขามีความสุขขึ้นบ้าง”
ซอลลี่กล่าว
.
ซอลลี่ตัดสินใจขับรถยนต์ส่วนตัวออกเดินทางเป็นระยะทางไกลกว่า 500 กิโลเมตรพร้อมกับแคปจากบ้านของเธอในเมืองมาร์ลบะระไปยังบ้านพักคนชราในเมืองเคนดัลที่คุณปู่อลันอาศัยอยู่ เพื่อมอบความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณปู่ได้คลายเหงาลงบ้าง ซึ่งนั่นก็ทำให้แคปน้องหมาที่เธอรักได้หายคิดถึงเมื่อได้มีช่วงเวลาพิเศษอยู่ใกล้ๆ นายรักคนเก่าที่รักไม่เคยเปลี่ยน ซอลลี่เป็นคนใจกว้างและเห็นอกเห็นผู้อื่นเสมอโดยเฉพาะกับคนรักสัตว์ด้วยกัน เธอเข้าใจดีว่าคุณปู่คงจะต้องการได้อยู่ใกล้ๆ กับน้องหมาสุดรักในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้
.
หลังจากการเดินทางไกล... ใช้เวลานานอยู่หลายชั่วโมงในที่สุดซอลลี่ก็มาถึงบ้านพักคนชราที่คุณปู่อลันอาศัยอยู่ สิ่งแรกที่เธอทำคือรีบพาแคปเดินไปหาคุณปู่ทันที แคปทั้งดีใจและมีความสุขมาก เขากระโดดโลดเต้นและวิ่งไปรอบๆ เมื่อได้พบหน้าคุณปู่อีกครั้ง เป็นเวลานานแล้วที่ต้องแยกจากกันแต่ทว่าน้องหมาที่น่ารักก็ยังคงไม่เคยลืมนายรักคนเก่าเลย ส่วนคุณปู่เองก็ดีใจมากเช่นกัน แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงนักจึงทำได้แค่มองตามและโน้มตัวจากรถเข็นเพื่อสัมผัสแคปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทว่าแววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความสุข
.
แคปช่างอ้อนเขาเกยคางไว้บนตักและจ้องมองใบหน้าคุณปู่ด้วยความคิดถึงและโหยหา เพียงครู่เดียวเท่านั้นความไร้เดียงสาและภักดีที่ไม่เคยจางหายของแคปก็ทำให้คุณปู่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เสียน้ำตาจนได้
.
“ตอนที่คุณปู่ได้พบหน้าแคปน้องหมาที่รักอีกครั้ง เขาดูมีความสุขมากๆ ฉันเองเมื่อได้เห็นภาพแห่งความสุขของพวกเขาก็ทำให้ฉันยิ่งมีความสุขมาก มันคุ้มค่ามากกับการที่ต้องขับรถเพื่อเดินทางไกลใช้เวลาเกือบทั้งวันไปที่นั่น แม้ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 5 ปีแล้วแต่แคปก็ยังจำคุณปู่ได้แม่น นั่นก็เพราะพวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกันมาก ซึ่งไม่ว่าจะนานแค่ไหนความสัมพันธ์นั้นก็จะไม่มีวันจางหายไป”
ซอลลี่กล่าว
.
.
ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านพักคนชราแคปไม่ยอมห่างจากคุณปู่อลันเลย เขาเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆ รถเข็นของคุณปู่ ส่วนคุณปู่ก็พยายามเอื้อมมือไปลูกหัวแคปแทบจะไม่ปล่อยเลยเช่นกันขณะที่กำลังนั่งพูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบอยู่กับซอลลี่
.
“แคปเข้าไปนั่งข้างๆ คุณปู่ ส่วนคุณปู่เองก็เอื้อมมือไปลูบแคปอยู่ตลอดเวลาเลย ฉันคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ มันคุ้มค่ามากจริงๆ นะ”
ซอลลี่กล่าวเสริมด้วยอาการปีติ
.
.
หลังจากนั้นซอลลี่ก็ได้ปล่อยให้แคปได้อยู่กับคุณปู่ตามลำพังประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งคู่จะกล่าวคำร่ำลาคุณปู่และเดินทางกลับบ้าน แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ไม่นานนัก แต่มันกลับเทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่คุณปู่ได้รับตลอดระยะเวลาที่แคปอยู่ข้างๆ เขาที่นั่น
.
“ตอนที่เรากำลังจะกลับ คุณปู่ถูกเข็นกลับเข้าไปในบ้านพักคนชรา คุณปู่หันมาโบกมือให้กับพวกเราก่อนที่เขาจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาคงคิดถึงแคปมากจริงๆ ช่วงเวลานั้นมันบีบหัวใจฉันเหลือเกิน”
ซอลลี่กล่าว
.
ซอลลี่เผยว่าภรรยาของคุณปู่ได้จากไปด้วยความแก่ชราเมื่อหลายปีก่อน และคุณปู่เองก็ไม่มีลูกหรือหลานเลยสักคนเดียว นั่นจึงทำให้ไม่มีใครคอยดูแลเขาหรือแม้กระทั่งแวะมาเยี่ยม คุณปู่เหลือเพียงแค่แคปเท่านั้นที่เป็นคนในครอบครัวในตอนนี้...
.
“มันทำให้ฉันแทบหัวใจสลายเลยนะ เมื่อกลับมานั่งคิดว่า ชายที่เคยทำงานอยู่ในไร่มาทั้งชีวิต กลับต้องมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ภายในตึกที่เงียบเหงา มันคงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับเขาที่ต้องเลือกตัดสินใจย้ายเขามาอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งนี้ แต่ฉันก็หวังว่าการที่เขาได้เจอกับแคปจะทำให้เขามีความสุขขึ้นได้บ้าง”
ซอลลี่กล่าวด้วยความเห็นอกเห็นใจ
.
.
“วันที่คุณปู่อลันมีความสุขก็คือวันที่เขาได้คุยกับใครสักคน ฉันหวังว่าคุณจะหาเวลาโทรไปหาคนที่คุณรักบ้างนะและมอบช่วงเวลาที่มีความสุขให้กับพวกเขาบ้างเช่นกัน”
ซอลลี่กล่าวเสริม
.
ภายหลังคุณปู่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Metro ประเทศอังกฤษว่า มันเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษมากที่ได้เจอกับแคปอีกครั้ง มันทำให้เขาคิดถึงสมัยที่ยังเป็นหนุ่มๆ การมาเยี่ยมของพวกเขาทำให้คุณปู่มีความสุข และคุณปู่ก็จะรอวันที่ทั้งคู่จะกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง...
.
มันยากที่จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า... สำหรับบางคนแล้วน้องหมาไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่พวกเขาเป็นเสมือนคนในครอบครัวซึ่งซอลลี่เข้าใจดี เธอน่ารัก ใจกว้างและมีน้ำใจมากจริงๆ นี่อาจจะเป็นเพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่มีคนมาเยี่ยมคุณปู่ ซึ่งมันเป็นเหมือนกำลังใจที่ดีที่สุดและอาจจะเป็นกำลังใจเดียวที่เหลืออยู่ เพื่อช่วยให้คุณปู่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวรับรู้ว่ายังมีใครบางคนที่รักเขาอยู่เสมอ
.
แคปอาจจะกำลังเตือนให้มนุษย์อย่างเราๆ หันกลับมาใส่ใจกันและกันให้มากขึ้นก็ได้นะครับ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.