หลังจากที่กองทัพรัสเซียประกาศถอนกำลังออกจากประเทศยูเครนและยินยอมเข้าสู่การเจรจาเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นั่นทำให้กองกำลังทหารยูเครนเริ่มเดินทางเข้าพื้นที่ที่เคยถูกทหารรัสเซียบุกยึดได้อีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือเมืองบูกาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเคียฟเมืองหลวงของประเทศยูเครน หลังจากการสำรวจพื้นที่เมืองบูกากองกำลังทหารยูเครนได้พบกับภาพความจริงที่น่าเศร้าและหดหู่ใจ เมื่อพลเรือนและสัตว์เลี้ยงจำนวนมากต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามที่โหดร้ายกลายเป็นซากศพเกลื่อนเมือง
.
.
ท่ามกลางความหดหู่และการสูญเสียที่แสนเจ็บปวด องค์กรพิทักษ์สัตว์ UAnimals ของประเทศยูเครนได้เผยแพร่เรื่องราวน่าประทับใจที่พอจะช่วยเยียวยาหัวใจชาวยูเครนได้บ้างบนหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจองค์กร โดยมีใจความสำคัญระบุว่า...
.
ขณะที่ “อเล็กซี่ ไซโดเรนโคฟ” (Alexei Sidorenkov) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรุงเคียฟกำลังปฎิบัติภารกิจเดินลาดตระเวนรอบเมืองบูกาและเข้าตรวจสอบซากรถยนต์ที่ถูกระเบิดบริเวณข้างถนนก็ได้พบว่า รถยนต์หลายคันเสียหายแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติที่ต้องสงสัย มีเพียงรถคันเดียวเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่อเล็กซี่ได้พบกับผู้รอดชีวิตและเธอคือน้องหมาสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ที่อยู่ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม นัยน์ตาเศร้า มีท่าทีหวาดกลัวและกำลังพยายามนอนขดตัวซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้าตำแหน่งผู้โดยสารด้านหน้าข้างคนขับ
.
.
.
“ในห้องโดยสารผมพบไซบีเรียนฮัสกี้ตัวหนึ่งในสภาพเนื้อตัวมอมแมมกำลังขดตัวนอนอยู่ เธอรอดชีวิตจากการถูกระเบิดได้อย่างปาฏิหาริย์ น้องหมาดูหวาดกลัว เหนื่อยและอ่อนล้ามาก เธอกำลังนอนอยู่บนเศษกระจกรถยนต์ที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ”
เจ้าหน้าที่อเล็กซี่กล่าว
.
.
เจ้าหน้าที่อเล็กซี่ไม่ละเลยเข้าไปทักทายน้องหมาด้วยความเป็นห่วงและสงสาร โชคดีที่น้องหมาเป็นมิตรมากไม่มีท่าทีดุร้ายแม้เพิ่งจะผ่านสงครามที่เลวร้ายมาก็ตาม เจ้าหน้าที่อเล็กซี่ตัดสินใจยื่นมือช่วย พาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์และเขาก็ได้รับความร่วมมือจากน้องหมาอย่างดี
.
หลังจากที่ตรวจร่างกายอย่างละเอียดสัตวแพทย์ได้แจ้งว่า น้องหมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอื่นใดที่น่ากังวลใจมีเพียงอาการอ่อนเพลียจากภาวะขาดสารอาหารและน้ำเป็นเวลานานเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก เธอรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์และไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
.
.
สัตวแพทย์ช่วยสแกนหาไมโครชิปบนตัวน้องหมาแต่ทว่าไม่พบ เธอจึงตกอยู่ในสถานะไร้บ้าน ด้วยสงสารและถูกชะตาเจ้าหน้าที่อเล็กซี่จึงไม่อาจจะละเลยทอดทิ้งเธอไว้ในเมืองร้างได้จึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปปรึกษาภรรยา ก่อนทั้งสองจะตัดสินใจร่วมกันว่าจะรับอุปการะน้องหมาเอาไว้ พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้กับเธอว่า “บูกา” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเมืองที่ได้พบกับเธอ
.
.
ไม่มีใครรู้ว่านัยน์ตาเศร้าของบูกาเกิดจากการสูญเสียที่หนักหนา หรือ การดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากระเบิดและอาวุธสงครามมาแล้วกี่ครั้ง แต่ในตอนนี้ฝันร้ายของบูกาได้สิ้นสุดลงแล้ว! เมื่อเธอถูกอุปการะและย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเจ้าหน้าที่อเล็กซี่ในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัว สิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นความโชคดีอย่างที่สุดของสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่กำลังเผชิญกับความหวาดกลัว โดดเดี่ยวและสิ้นหวังจากสงครามที่โหดร้าย
.
อดีตที่เลวร้ายของบูกาจะค่อย ๆ ลบเลือนจางหายไปด้วยความสุขที่เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในครอบครัวที่อบอุ่นและปลอดภัย ความรักจากครอบครัวจะช่วยเยียวยาทำให้หัวใจบูกาเข้มแข็งขึ้น พร้อมส่ายหางมีความสุขและกลายเป็นน้องหมาที่ร่าเริงสดใสได้อีกครั้งแน่นอน
.
หลังจากเรื่องราวการช่วยเหลือบูกาโดยเจ้าหน้าที่อเล็กซี่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างยกย่องให้เขาเป็น "ฮีโร่" ขณะที่ผู้ใช้งานรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นชื่นชมเจ้าหน้าที่อเล็กซี่ว่า...
.
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือและรับอุปการะน้องหมาที่น่าสงสารตัวนี้ไว้ในอ้อมกอด คุณคือผู้ชายที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่มาก ขอให้คุณปลอดภัย”
.
ยิ้มได้แล้วนะเด็กดี
.
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังมีประชาชนจำนวนมาก รวมถึงสัตว์เลี้ยงอีกหลายชีวิตในประเทศยูเครนกำลังได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือจากสงครามที่เกิดขึ้น
.
ด็อกคลิปขอภาวนาให้สงครามที่โหดร้ายนี้จบลงโดยเร็ว และขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
