“พาทรอน” (Patron) น้องหมาสายพันธุ์แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย อายุ 2 ปี ปัจจุบันประจำการเป็น สุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิด หรือ Explosive Detection Dog (EDD) สังกัดหน่วยป้องกันพลเรือนยูเครน ล่าสุด! เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา พาทรอนได้รับความไว้วางใจให้เข้าร่วมปฎิบัติภารกิจตรวจค้นวัตถุระเบิดในพื้นที่สงครามร่วมกับกองทัพเพื่อปกป้องประเทศยูเครน ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและความทุ่มเทอย่างหนักส่งผลให้พาทรอนตรวจพบระเบิดจำนวนหลายสิบลูกสามารถปกป้องพลเรือนและทหารยูเครนเอาไว้ได้หลายร้อยชีวิต ซึ่งวีรกรรมที่กล้าหาญนี้เขาจึงสมควรได้รับการชื่นชมและถูกยกย่องเช่น "ฮีโร่"
.
.
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา หน่วยบริการฉุกเฉินแห่งรัฐ หรือ "SES" ซึ่งเป็นหน่วยงานป้องกันพลเรือนของประเทศยูเครน ได้โพสต์คลิปวิดีโอน้องหมาตัวน้อยที่ดูเป็นมิตรและแสนดีสวมเสื้อกั๊กที่มีตราสัญลักษณ์หน่วยบริการฉุกเฉินแห่งรัฐอยู่ ซึ่งนั่นแสดงชัดว่าน้องหมาตัวน้อยเป็นสมาชิก K-9 และเขาก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ดมกลิ่นตรวจค้นวัตถุระเบิดอยู่ด้วยความขะมักเขม้น ภายหลังคลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นทำให้พาทรอนได้กลายเป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา...
.
.
.
นับตั้งแต่ที่ประเทศรัสเซียเริ่มรุกรานประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา พาทรอนและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล หรือ คู่หูของเขาได้ร่วมมือกันใช้ทักษะพิเศษที่ยอดเยี่ยมจากพรสวรรค์และการฝึกฝนอย่างยาวนานเพื่อตรวจค้นวัตถุระเบิดในพื้นที่สงคราม ล่าสุดมีรายงานว่าด้วยความทุ่มเทและพยายามอย่างหนักทำให้พาทรอนตรวจพบระเบิดมากกว่า 90 ลูกแล้ว ก่อนจะส่งงานต่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปเก็บกู้ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของพาทรอนในภารกิจเสี่ยงอันตรายในครั้งนี้ได้ช่วยพลเรือนและทหารยูเครนเอาไว้หลายร้อยชีวิต
.
.
พาทรอนอุทิศแรงกายแรงใจให้กับการทำงานอย่างหนักตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นแล้วในช่วงเย็นในทุก ๆ วันเขายังต้องรับหน้าที่น้องหมานักบำบัดคอยช่วยบรรเทาความเครียดให้กับพลเรือนและเหล่าทหารที่กำลังเสียขวัญจากสงครามอีกหลายชีวิตด้วย
.
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับความทุ่มเทในการทำงานอย่างหนักและเกินหน้าที่ พาทรอนก็มักจะได้รับชีสแสนอร่อยเป็นรางวัลในอาหารมื้อค่ำเพื่อตอบแทนด้วยเช่นกัน
.
.
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าเหล่าน้องหมาผู้ซื่อสัตย์และแสนดีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในด้านการทหาร โดยเฉพาะน้องหมาดมกลิ่นเพื่อตรวจค้นวัตถุระเบิด หรือ EDD พวกเขามักจะถูกส่งตัวเข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ความขัดแย้งทั่วยุโรป เอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งการทำงานที่เสี่ยงอันตรายของเหล่าน้องหมาก็ได้ช่วยชีวิตพลเรือนและทหารเอาไว้ได้จำนวนไม่น้อยเลย
.
นอกจากในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งแล้ว ในสถานการณ์ปกติเหล่าน้องหมาก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยทำให้การทำงานของผู้พิทักษ์สันติราฎร์ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เนื่องจากพรสวรรค์และทักษะในการดมกลิ่นแยกประเภทสารเคมีที่ยอดเยี่ยมของเหล่าน้องหมาสามารถช่วยค้นหาสารเสพติด เลือด สัตว์ป่า ของผิดกฎหมายและสารต้องห้ามอีกหลายประเภทได้อย่างแม่นยำ
.
“ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนจมูกที่ยอดเยี่ยมของเหล่าน้องหมาได้สำหรับการตรวจค้นวัตถุระเบิดหรือยาเสพติด, เรายังไม่สามารถสร้างเครื่องมือที่จะตรวจจับกลิ่นที่ละเอียดและแม่นยำได้เท่ากับจมูกของเหล่าน้องหมาในตอนนี้”
วิลเลียม โครนิน (William Cronin) ผู้อำนวยการศูนย์ K-9 ของสหรัฐอเมริกาที่ปฏิบัติงานในอัฟกานิสถานและแอฟริกาตะวันตก กล่าว
.
นอกจากจมูกที่ทรงพลังแล้ว ความเฉลียวฉลาดและขนาดตัวที่เล็กมีความปราดเปรียวกว่ายังทำให้เหล่าน้องหมาเข้าถึงพื้นที่แคบ ๆ ได้อย่างคล่องตัว สามารถเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้ไม่ยาก ซึ่งล้วนแล้วเป็นข้อได้เปรียบที่สนับสนุนให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จของภารกิจให้มากขึ้นด้วย
.
.
อย่างไรก็ตามหากโลกใบนี้สมบูรณ์แบบ มนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องให้น้องหมาเข้ามาแบกรับภารกิจที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ เพราะทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยความสงบสุขและสันติภาพไร้ความขัดแย้ง แต่กว่าโลกใบนี้จะไปถึงจุดนั้นได้เหล่าน้องหมาเพื่อนที่แสนดีก็ยังคงต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์สำหรับหน้าที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ต่อไป
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
