เรื่องราวน่ารักระหว่าง “แจ็ค” (Jack) น้องหมาวัยหนุ่มสายพันธุ์เวสต์ไฮแลนด์เทอร์เรีย (เวสตี้) พิการขาหลังมีสองล้อคู่ใจไว้ช่วยพยุงร่างกายให้สามารถวิ่งซนได้ และ “พัมคิน” (Pumpkin) จิ้งจอกแดงวัยสาวมีดวงตามืดบอดสนิททั้งสองข้างที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้สี่ขาต่างสายพันธุ์คอยดูแลกันและกันเรื่อยมา... แจ็คใช้ดวงตาที่สมบูรณ์แบบช่วยพาเพื่อนรักอย่างพัมคิมให้กล้าออกมากระโจนโลดทยานวิ่งผจญภัยฝ่าโลกมืดมิดที่เธอหวาดกลัว ก่อนจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นดินแดนแห่งความสุขและช่วยแต่งแต้มสีสันคืนชีวิตชีวาให้กับเธออีกครั้ง
.
“อันนา ลาปาซ - เมนเดซ” (Ana Lapaz-Mendez) สัตวแพทย์หญิงอายุ 42 ปี ผู้ปกครองของน้องหมาทั้งสองตัวเล่าว่า ก่อนหน้านี้แจ็คและพัมคิมต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ป่วยหนักและเกือบถูกการุณยฆาต แต่สุดท้ายก็รอดชีวิตมาได้เพราะเธอได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเอาไว้... แจ็คป่วยเป็นเนื้องอกที่บริเวณกระดูกสันหลังซึ่งนับวันอาการก็ยิ่งทรุดหนักลงเรื่อย ๆ กระทั่งไม่สามารถใช้ขาหลังทั้งสองได้อย่างน้องหมาปกติทั่ว ๆ ไป แน่นอนนั่นหมายถึงภาระหนักที่กำลังจะตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การดูแลที่ยุ่งยากซึ่งจำเป็นต้องทุ่มเททั้งเวลาและการเอาใจใส่มากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ผู้ปกครองคนก่อนของแจ็คจึงตัดสินใจการุณยฆาตเขาเพื่อจบปัญหายุ่งยากที่จะตามมา
.
ส่วนพัมคิน เธอโชคร้ายมากถูกพบขณะกำลังนอนบาดเจ็บอยู่ข้างถนนหลังจากที่ถูกรถชนเข้าอย่างแรงจนทำให้ขาของเธอหักทั้งสองข้างอาการสาหัส ซ้ำยังตาบอดด้วย โชคยังดีที่มีพลเมืองดีผ่านไปพบเธอเข้าและช่วยพามารักษากับอันนาในเวลาต่อมา
ครั้งแรกที่พัมคินได้พบกับอันนา อาการของเธอสาหัสหลังถูกรถชน
.
อันนาเล่าว่า เธอเพิ่งรับพัมคินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากนั้นสองเดือนถัดมาเธอก็ได้ตัดสินใจรับแจ็คเข้ามาเป็นสมาชิกสี่ขาลำดับที่สาม พัมคินและแจ็คปรับตัวจนเข้ากันได้ดีตั้งแต่ช่วงแรก ๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกวันจนกระทั่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่แยกไม่ออกไปซะแล้ว
.
ทั้งสองเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พัมคิมคอยฟังเสียงล้อยางรถวีลแชร์ของแจ็คและเดินตามเสียงนั้นไปด้วยความเชื่อใจ ส่วนแจ็คก็มักจะหันหลังไปมองพัมคิมเป็นระยะ ๆ ด้วยความเป็นห่วงเสมอเพราะเกรงว่าเธอจะตามไม่ทันและเดินออกนอกเส้นทาง มีบ้างบางครั้งที่แจ็คเดินเพลินจนทิ้งระยะห่างจากพันคิมไปไกล แน่นอนทันทีที่แจ็ครู้ตัวเขาก็จะรีบหยุดแล้วหันหลังกลับไปมองหาพัมคิมและยืนรอจนกว่าเธอจะเดินตามมาทัน
รอหนูด้วย
.
“ในช่วงระยะแรกแจ็คจะเดินช้ามาก ๆ เพื่อรอให้พัมคิมเดินตามทัน พัมคินจะฟังเสียงล้อยางวีลแชร์ของแจ็คและเธอจะเดินตามเสียงนั้นไป ถ้าเสียงล้ออยู่ข้างหลัง เธอก็จะหยุดเดินและพยายามหมุนตัวไปในทิศทางที่ถูกต้องก่อนจะค่อย ๆ เดินตามเสียงของล้อนั้นไปอีกครั้ง ถ้าเป็นตอนกลางคืนพัมคินจะเร่งฝีเท้าเพื่อเดินอยู่ข้าง ๆ แจ็ค เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ เขา ทั้งสองเรียนรู้และพยายามสื่อสารเพื่อช่วยเหลือกัน ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากความผูกพันและความห่วงใยของพวกเขา โดยที่ฉันไม่ได้เข้าไปมีส่วน”
อันนากล่าว
.
.
ขณะที่ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน แจ็คไม่ได้เพียงแค่เป็นเพื่อนที่แสนดีนำทางพัมคิมเท่านั้น ทว่าเขายังพยายามปกป้องเธอจากน้องแมวและน้องหมาแปลกหน้าที่เข้ามาใกล้ด้วย
ตามมาให้ไวแม่สาวน้อย พี่จะซิ่งแล้วน้าาาา
.
“ถ้ามีน้องหมาแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้พัมคินหรือพยายามจะดมกลิ่นเธอ แจ็คก็จะเข้าไปปกป้องเธอ แจ็คตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลพัมคินในฐานะพี่ชายที่ต้องดูแลน้องสาว”
อันนากล่าว
.
.
อันนาบอกว่าแจ็คปฏิบัติต่อพัมคินราวกับว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือจิ้งจอก ส่วนพัมคินเองเธอก็ลืมไปแล้วว่าเธอคือจิ้งจอก ถึงแม้จะรักกันมากแค่ไหนทั้งสองก็ยังมีเรื่องทะเลาะกันบ้างตามประสาพี่น้อง แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะจบลงอย่างรวดเร็ว
.
“มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบเสมอไปหรอกนะ เพราะบางครั้งแจ็คก็รำคาญพัมคินเหมือนกัน แต่พวกเขาก็กลับมาคืนดีกันในเวลาเพียงแค่ไม่นานนัก เพราะแจ็ครู้ดีว่าพัมคินต้องการความช่วยเหลือและเขาเองก็เป็นห่วงน้องสาวพร้อมที่จะดูแลเธอเสมอเช่นกัน”
อันนากล่าว
.
เรารักกันไม่ตั๋วนะเบเบ๋!
.
อันนาบอกว่าเธอยินดีที่จะดูแลน้องหมาทั้งสองตัวไปจนกว่าพวกเขาจะถึงวาระสุดท้าย ถึงแม้ว่าจะต้องเหนื่อยขึ้นกว่าเดิมก็ตามเพราะแจ็คค่อนข้างซน มีพลังล้นเหลือและยังคงวิ่งได้อย่างรวดเร็ว แม้สองขาหลังจะมีวีลแชร์ช่วยประคองอยู่ก็ตาม แต่อย่างไรก็ดีความสัมพันธ์ของแจ็คและพัมคินก็ทำให้เธอมีความสุขมากเช่นกัน
สองล้อเดือดซิ่งทะลุป่า น้องบ่ยั้นบอกเลยยย
.
.
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
หมาจิ้งจอกแดง มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหมาบ้านทั่วไป แต่มีขนาดเล็กกว่า ขนตามลำตัวมีสีเทาแดงหรือสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม สีขนบริเวณปลายหูและขามีสีดำ สีขนอาจมีเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ กล่าวคือ สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงที่มีอากาศมีความชื้นสูง และอาจจะมีสีขนที่แตกต่างหากหลายออกไป เช่น สีเงิน สีขาวล้วนได้ด้วย
.
หมาจิ้งจอกแดง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถอาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ ป่าสนหรือป่าเบญจพรรณ พื้นที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย และพื้นที่เกษตรกรรมก็ได้ กินอาหารได้หลากหลายประเภทตั้งแต่สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น หนู กระต่าย นก แมลง หรือแม้แต่หนอนชนิดต่าง ๆ ก็ได้ทั้งนั้น
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
