ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ในระหว่างที่ “เพ็กกี้” (Peggy) น้องหมาสายพันธุ์สแตฟเฟอร์ดไชร์บูลเทอร์เรียร์ เพศเมีย วัย 1 ขวบได้ออกไปเดินเล่นนอกบ้านในเมืองโคเมร่า รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับ “จูเลียต เวลลส์” (Juliette Wells) วัย 45 ปี ผู้ปกครองของเธอ เพ็กกี้ก็ได้สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติบริเวณข้างทางก่อนจะพยายามพาผู้ปกครองแวะเข้าไปสำรวจ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้พบกับลูกนกสาลิกาตัวน้อยกำลังพยายามกระเสือกกระสนอยู่บนพื้นเพื่อเอาชีวิตรอด
.
.
จูเลียตอธิบายว่าเพ็กกี้ไม่เหมือนกับน้องหมาตัวอื่น ๆ เธอจะมีอาการหวาดกลัวและวิ่งหนีเมื่อได้เจอนกเสมอ แต่สำหรับลูกนกสาลิกาตัวน้อยแล้วเธอกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวและยังดูเป็นห่วงมากเป็นพิเศษซะด้วย จูเลียตกวาดสายตาไปรอบ ๆ บริเวณเพื่อมองหารังและพ่อแม่ของลูกนกสาลิกาตัวน้อยก่อนพบว่ารังและพ่อแม่นกสาลิกาอยู่บนยอดไม้ใกล้ ๆ แต่ทว่าน่าแปลกใจพวกเขากลับไม่ได้สนใจลูกน้อยเลยถึงแม้ว่าเธอและเพ็กกี้จะถอยห่างแอบเฝ้ามองอยู่ไกล ๆ นานสักพักแล้วก็ตาม
.
“ฉันเห็นพ่อแม่ของลูกนกตัวน้อยอยู่บนยอดไม้ใกล้ ๆ ดังนั้นฉันเลยช่วยพาลูกนกไปวางทิ้งเอาไว้ที่บริเวณโคนต้นไม้ หลังจากนั้นก็ถอยห่างและรออยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ทว่าพ่อแม่นกตัวน้อยกลับไม่ยอมลงมาใกล้ลูกนกเลย ฉันสันนิษฐานว่าลูกนกอาจจะเพิ่งพลัดตกจากรัง เธออาจได้รับบาดเจ็บและอ่อนแอ ซึ่งนั่นคงทำให้พ่อแม่นกเลือกที่จะทิ้งเธอซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในธรรมชาติ ”
จูเลียตกล่าว
.
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าลูกนกตัวน้อยน่าจะถูกพ่อแม่ทิ้ง! จูเลียตก็ได้ตัดสินใจพาลูกนกสาลิกาตัวน้อยกลับไปที่บ้าน ก่อนจะติดต่อไปขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าในพื้นที่สำหรับการดูลูกนกสาลิกาตัวน้อยให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
.
.
น่าประทับใจที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าได้มอบคำแนะนำให้กับจูเลียตอย่างละเอียดด้วยความยินดี นั่นทำให้เธอเข้าใจและเริ่มมีความหวังสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ในวันแรกจูเลียตได้จัดเตรียมรังนอนอุ่น ๆ ให้กับลูกนกตัวน้อยและปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนโดยไม่พยายามเข้าไปกวน...
.
ผ่านไปนาน 24 ชั่วโมง ลูกนกตัวน้อยก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จูเลียตได้จัดเตรียมอาหารพร้อมกับน้ำในไซริงค์ป้อนเธอด้วย ลูกนกไม่ปฎิเสธรับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีจึงยอมไว้ใจมนุษย์แปลกหน้ากินน้ำและอาหารอย่างว่าง่าย
.
จูเลียตและ “รีซ” (Reece) คู่ชีวิตวัย 52 ปีของเธอช่วยกันดูแลลูกนกตัวน้อยเป็นอย่างดี ขณะที่มีเพ็กกี้น้องหมาของพวกเขาคอยเป็นผู้ช่วยและกำลังใจหลักอยู่ห่าง ๆ จากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ถัดมาลูกนกตัวน้อยก็ฟื้นตัวเต็มที่
.
“เราหาหนอนที่ยังมีชีวิตให้เธอกิน ใช้ไซริงค์หยดน้ำให้เธอดื่ม เราทำแบบนี้ทุกวันจนกระทั่งหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปร่างกายของเธอก็ฟื้นตัวได้เต็มที่”
จูเลียตกล่าว
.
จูเลียตและรีซไม่เคยขังลูกนกตัวน้อยเอาไว้ในกรง เธอเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ทุกบานเสมอเพื่อให้ลูกนกตัวน้อยสามารถบินกลับออกไปใช้ชีวิตในธรรมชาติอย่างที่เธอต้องการเมื่อรู้สึกพร้อม จูเลียตและรีซสอนให้ลูกนกจับหนอนและกิ่งก่าด้วยตัวเองแต่เธอกลับไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่นัก
.
หลังจากที่ดูแลนานหลายสัปดาห์พฤติกรรมหลายอย่างก็ทำให้เข้าใจได้ว่าลูกนกต้องการอยู่กับจูเลียตและรีซมากกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งชื่อให้กับเธอว่า “มอลลี่” (Molly) สำหรับการต้อนรับสู่สมาชิกใหม่ในบ้านที่อบอุ่นของพวกเขา
.
.
มอลลี่ชอบใช้เวลาทั้งวันอยู่กับเพ็กกี้จนกระทั่งในตอนนี้เธอน่าจะคิดว่าตัวเองเป็นน้องหมาอีกตัวของบ้านหลังนี้ไปซะแล้ว ทั้งสองแทบไม่เคยห่างกันเลยแถมยังชอบนั่งคุยกันด้วยภาษาเฉพาะที่เข้าใจกันเองอยู่บ่อย ๆ
.
.
.
“พวกเธอคุยกันด้วยนะ มันตลกมาก ๆ เลย ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน นกคุยกับน้องหมาและพวกเขาก็เข้าใจกันซะด้วย”
จูเลียตกล่าว
.
.
มอลลี่อยู่กับเพ็กกี้ตลอดทั้งวัน นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนดูเหมือนเพ็กกี้เริ่มคิดว่ามอลลี่เป็นลูกสาวตัวน้อยของเธอไปซะแล้วตอนนี้
.
กระทั่งวันหนึ่งจูเลียตได้พบว่าร่างกายของเพ็กกี้ผลิตน้ำนมขึ้นโดยที่เธอไม่ได้ตั้งท้อง! แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกจูเลียตและรีชก็ไม่ได้นิ่งนอนใจรีบพาเพ็กกี้ไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจร่างกายด้วยเกรงว่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับเพ็กกี้
.
ภายหลังจูเลียตและรีชก็ได้รับคำตอบคลายข้อสงสัยจากคำอธิบายของสัตวแพทย์ว่า เพ็กกี้มีภาวะ "ท้องเทียม" หรือ "ท้องหลอก" ซึ่งเป็นไปตามสรีรวิทยาวงรอบการเป็นสัดของน้องหมาที่จะแตกต่างจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง และสามารถเกิดขึ้นได้กับน้องหมาเพศเมียที่ยังไม่ทำหมันและไม่ได้มีการผสมพันธุ์ในระยะเป็นสัด นอกจากนี้การที่เพ็กกี้เชื่อว่ามอลลี่เป็นลูกของเธออย่างสนิทใจแล้วก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเธอถูกกระตุ้นให้ผลิตน้ำนมและแสดงอาการว่าท้องมากขึ้นด้วย
.
.
“มอลลี่เองก็ชอบที่จะกินน้ำนมที่ไหลออกมาจากหัวนมของเพ็กกี้ซะด้วย เราต้องสวมเสื้อที่มิดชิดปิดหัวนมของเพ็กกี้เอาไว้เพื่อไม่ให้มอลลี่ใช้ปากของเธอจิกที่หัวนมของเพ็กกี้ ใช่แล้ว! มันค่อนข้างบ้ามากเลยทีเดียวสำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เรากำลังเล่าให้ฟัง แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นว่ามอลลี่และเพ็กกี้ผูกพันกันมากแค่ไหน”
จูเลียตกล่าว
.
.
.
จูเลียตและรีซกล่าวว่าพวกเขายินดีที่จะเลี้ยงดูมอลลี่ไปตลอดชีวิตของเธอและหากวันใดที่มอลลี่ต้องการออกไปมีชีวิตของตัวเองในธรรมชาติ พวกเขาก็ยินดีกับเธอด้วยเช่นกัน
.
.
“เรารู้สึกประทับใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก มันเป็นเหมือนกับการเติมความสุขเข้ามาในชีวิตของพวกเรานะ และพวกเขาก็ดูมีความสุขมากเช่นกัน”
จูเลียตกล่าว
.
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะท้องเทียม!
น้องหมาเพศเมียที่ยังไม่ทำหมันและไม่มีการผสมพันธุ์ในช่วงเป็นสัดสามารถประสบปัญหากับภาวะท้องเทียมได้ ซึ่งจะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ในทุกรอบของการเป็นสัด อาการมากหรือน้อยแตกต่างกันออกไปแต่ละตัว
.
อาการที่สามารถสังเกตเห็นได้เมื่อน้องหมามีภาวะท้องเทียม เช่น เต้านมเต่งมีน้ำนมไหล เริ่มเตรียมสร้างรังสำหรับคลอดในที่ลับตา นอนกกและหวงตุ๊กตาเป็นพิเศษ อาจมีอาการเบ่งคล้ายคลอดลูก เก็บตัวหรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวหวงเบาะมากขึ้น
.
ปกติแล้วภาวะท้องเทียมจะหายได้เองภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการรุนแรงเต้านมเต่งจนคัด อาจต้องช่วยน้องหมาบีบไล่น้ำนมออกซึ่งต้องคำนึงถึงความสะอาดด้วย อย่างไรก็ตามควรอยู่ในความดูแลหรือคำแนะของสัตวแพทย์ การบีบไล่น้ำนมบ่อยครั้งเกินไปไม่เป็นผลดีกับน้องหมาเพราะจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายน้องหมาหลั่งน้ำนมออกมาเพิ่มขึ้นอีก
.
ควรรักษาความสะอาดบริเวณเต้านมน้องหมา ไม่ใช้มือที่สกปรกสัมผัสและไม่ปล่อยให้น้องหมาเลียบ่อย ๆ เพราะนั่นอาจจะทำให้เต้านมน้องหมาเกิดอัดเสบติดเชื้อได้
.
สวมปลอกคอกันเลียหรือเสื้อที่ถ่ายเทได้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาเลียบริเวณเต้านม
.
หากไม่ต้องการให้น้องหมามีภาวะท้องเทียมอีกต้องทำหมันและควรทำช่วงก่อนที่น้องหมาจะมีอาการท้องเทียม
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
