เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อน้องหมาตัวน้อยไร้ทางสู้ถูกหมีดำตัวโตเข้าจู่โจม แต่แทนที่ผู้เป็นนายจะวิ่งหนีเอาตัวรอดไปด้วยความหวาดกลัว เขากลับใช้สัญชาตญาณ ความกล้าหาญและความบ้าระห่ำปกป้องชีวิตสี่ขาสุดรัก
.
ช่วงเวลาเกิดเหตุ “ทิม สตราดลิง” (Tim Stradling) บาทหลวงวัย 56 ปี กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้านของเขาและปล่อยให้ “เพย์ตัน แมนนิ่ง” (Peyton Manning) น้องหมาขนฟูสีขาวตัวน้อยวัย 9 ขวบ เล่นสนุกอยู่ที่บริเวณสนามหญ้าหลังบ้านเพียงลำพัง ระหว่างนั้นทิมก็ได้ยินเสียงเห่าอย่างบ้าคลั่งของเพย์ตันดังนั้นขึ้น นั่นทำให้ทิมรับรู้ได้ในทันทีว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น
เพย์ตัน แมนนิ่ง
.
ทิมรีบวิ่งหน้าตาตื่นออกจากบ้านตามเสียงของเพย์ตันไป และคิดในใจว่าคงจะมีสัตว์ตัวน้อยที่กำลังเดินหลงทางเข้ามาที่สวนหลังบ้านของเขาอีกแน่ ๆ แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วสัตว์แปลกหน้าที่ย่องเข้ามากลับเป็นสัตว์นักล่าตัวโตอย่าง "หมีดำ" และเขากำลังตั้งท่าจะตะบบเหยื่อตัวน้อยอันโอชะอย่างเพย์ตันก่อนจะลากเข้าไปสวาปามในป่า
.
ทันทีที่ได้เห็นภาพน่าหวาดกลัวตรงหน้าเมื่อเพย์ตันอยู่ในปากของหมีดำตัวโต ทิมก็เริ่มตะโกนร้องจนสุดเสียงเพื่อเบนความสนใจและหวังให้หมีดำตกใจแล้วถอยร่นไป แต่ยังไม่เป็นผลเขาจึงออกท่าทางที่ดูน่าเกรงขามหวังข่มขวัญเจ้าหมีตัวโตอย่างไม่ยำเกรง ในหัวของทิมตอนนั้นคิดเพียงว่าจะไม่ยอมเสียเพย์ตันให้กลายเป็นเหยื่อของเจ้าหมีดำตัวโตเป็นอันขาด เพย์ตันจะต้องปลอดภัยและเขาจะพยายามทุกทางเพื่อปกป้องเพื่อนรักสี่ขาของเขาให้ได้
.
หมีดำหยุดชะงักไปครู่หนึ่งพร้อมกับท่าทีที่ดูเปลี่ยนไป เขาฉงนและเกิดลังเลใจก่อนจะหันหน้าไปปะทะสายตากับทิม แต่ทิมกลับไม่ได้หวั่นกลัวตัดสินใจทำท่าวิ่งเข้าจู่โจมเจ้าหมีดำตัวโตพร้อมกับตะโกนสลับกับกรีดร้องดังสุดเสียงอีกครั้ง ซึ่งมันได้ผล! หมีดำตกใจกับท่าทางและเสียงคำรามของทิมจึงรีบอ้าปากยอมปล่อยเพย์ตันลงบนพื้นแล้วเดินถอยหลังไปหลายเมตรอย่างสงวนท่าที ทิมได้โอกาสรีบเข้าไปอุ้มเพย์ตันเอาไว้ ก่อนจะยืนนิ่งดูท่าทีของเจ้าหมีดำตัวโต
.
ไม่กี่วินาทีต่อมาเหตุการณ์ระทึกขวัญที่แทบทำให้ทิมหัวใจหยุดเต้นก็เกิดขึ้น! เจ้าหมีดำตัวโตไม่ยอมแพ้และคิดสู้ วิ่งกระโจนเข้าหาทิมสุดตัวแต่โชคดีที่ระยะห่างมากพอทำให้ทิมตั้งตัวทันแล้วหันหลังเร่งฝีเท้าหนี ทิมกอดเพย์ตันไว้แน่นสับขาวิ่งหนีสุดชีวิตเพื่อกลับเข้าบ้านแต่สติที่แตกกระเจิงก็ดันทำให้เขาพลาดท่าสะดุดล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น แน่นอนเจ้าหมีดำตัวโตที่วิ่งไล่กวดมาติด ๆ ตามทัน ก่อนกระโจนเข้าไปประชิดตัวทิมอีกครั้ง เขายืนประจันหน้าร้องคำรามสุดเสียงเพื่อข่มขวัญให้ทิมรู้ยำเกรงยอมรับกับความพ่ายแพ้และประกาศตนว่าเป็นนักล่าที่เหนือกว่า ส่วนทิมในตอนนั้นหัวใจของเขาฝ่อและขวัญเสียยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น โชคดีอย่างที่สุดเมื่อเจ้าหมีดำตัวโตเพียงแค่ขู่ไม่ได้คิดจะทำร้ายทิมหรือพยายามเข้ามาชิงเพย์ตันไป ก่อนจะค่อย ๆ เดินถอยหลังกลับไป
.
“เมื่อเจ้าหมีพุ่งตัวเข้ามาหา ผมก็รีบวิ่งหนีกลับเข้าบ้านทันที แต่วิ่งมาได้เพียงแค่ 3 ก้าวเท่านั้น ผมก็สะดุดล้มลงซะก่อน ในใจผมตอนนั้นคิดว่าคงไม่รอดแน่ ๆ แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมีเพียงแค่ต้องการขู่ผม เขาไม่ได้ทำร้ายผมเลย ขอบคุณพระเจ้า”
ทิมกล่าว
.
หลังจากเจ้าหมีวิ่งกลับเข้าป่าไปแล้ว ทิมก็พยายามตั้งสติพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงจากอาการขวัญเสียลุกขึ้นยืนแล้วเร่งพาเพย์ตันที่เนื้อตัวกำลังชุ่มเลือดเนื่องจากมีบาดแผลถูกกัดที่บริเวณหัว ลำคอและขาหลายจุดไปพบสัตวแพทย์ทันที
.
ระหว่างที่ทิมกำลังขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลสัตว์ เขาก็ได้ร้องเพลงให้เพย์ตันฟังด้วย ทิมหวังว่าเสียงของเขาจะช่วยปลอบใจทำให้เพย์ตันได้สติ รู้สึกผ่อนคลายลงและอุ่นใจรับรู้ได้ถึงความปลอดภัยได้บ้าง
.
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสัตวแพทย์ก็เร่งพาเพย์ตันเข้าห้องฉุกเฉินทันทีเพื่อทำการรักษา แต่น่าเศร้าที่บาดแผลที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินเยียวยาทำให้สัตวแพทย์ตัดสินใจตัดขาและผ่าดวงตาที่ฉีกขาดข้างหนึ่งออกเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้
.
.
ส่วนทิมได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นความโชคร้าย แม้แต่การใช้ชีวิตอยู่ภายในบริเวณบ้านก็ไม่วายเกิดเรื่องร้าย ๆ ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ อย่างไรแล้วการรอดชีวิตจากคมเขี้ยวและกรงเล็บหมีดำตัวโตของทั้งสองนับว่าเป็นปาฎิหาริย์และเรื่องโชคดีในความโชคร้าย หากเจ้าหมีดำตัวโตคิดจะเอาชีวิตพวกเขาคงไม่รอด
.
เรื่องราววีรกรรมที่เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญของทิมกำลังจะบอกเล่าและส่งข้อความถึงผู้คนในวงกว้างได้รู้ว่า " ในฐานะนายรัก เขายินดีและเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องน้องหมาเพื่อนแท้ที่แสนดีที่เขารักได้เสมอ" อย่างที่ทราบดีเหล่าน้องหมาเป็นเพื่อนแท้ ภักดีและซื่อสัตย์ต่อนายรักจนลมหายใจสุดท้าย ดังนั้นพวกเขาก็สมควรได้รับรักแท้และการดูแลเอาใจใส่อย่าสุดกำลังจากนายรักด้วยเช่นกัน
.
ปัจจุบันเพย์ตันกำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์โดยมีสัตวแพทย์คอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด อาการของเขากำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอีกไม่นานเกินรอเขาก็จะกลับมาแข็งแรงและวิ่งเล่นได้อีกครั้ง แน่นอนว่าหลังจากนี้เพย์ตันจะยังคงได้รับการดูแลอย่างดีจากทิมนายรักเหมือนเดิม
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
หมีดำ (American Black Bear) มีถิ่นที่อยู่ในป่าทางตอนเหนือของอเมริกา พบได้ทั่วไปในป่าร้อนชื้น ความสูงประมาณ 0.6-0.9 น้ำหนักประมาณ 68-158 กิโลกรัม เพศเมียจะมีขนาดเล็กกว่า เพศผู้สามารถเจริญเติบโตได้สูงสุด 27-272 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยยืนยาว 10 - 30 ปี
.
จากการศึกษาหมีดำ พบว่าขนสีดำของหมี มีไว้เพื่อดูดซับความร้อนหรือความอบอุ่นไว้กับตัวเพื่อใช้ในยามฤดูหนาว แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ความร้อนนี้จะเป็นปัญหากับพวกเขามาก เคยมีการศึกษาหมีดำโดยการซ่อนเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้ขน พบว่าบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงถึง 80-90 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว นับว่าใกล้กับจุดเดือดเป็นอย่างมาก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บางครั้งจะพบหมีดำเข้ามาแช่น้ำในสระน้ำหรือบ่อน้ำในเขตที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพื่อดับร้อน ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วพวกเขาเป็นสัตว์ขี้อาย
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
