น้องหมาเป็นสัตว์ที่มีพลังงานล้นเหลือ ดังนั้นการได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างการผจญภัยในป่าก็ย่อมทำให้มีความสุข สนุกและพอใจสุด ๆ เพราะนั่นช่วยทำให้พวกเขาได้รู้สึกถึงอิสระได้ปลดปล่อยพลังงานตามสัญชาตญาณสัตว์อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าเมื่อขึ้นชื่อว่าการผจญภัยแล้วการออกเดินทางย่อมมีโอกาสประสบพบเจอทั้งเรื่องสนุกน่าตื่นเต้นสุดเหวี่ยงและอันตรายสุดขีดอย่างที่คาดไม่ถึงได้ทุกช่วงขณะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าทีมผจญภัยอย่างเหล่านายรักว่าได้ให้ความใส่ใจและระมัดระวังระหว่างการเดินทางมากแค่ไหน หากน้อยเกินไปแล้วล่ะก็การผจญภัยแสนสนุกในวันสดใสก็อาจจะกลายเป็นฝันร้ายเกินกว่าจะจินตนาการก็ย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น...
.

.

“สเตลล่า” (Stella) น้องหมาขนสีดำ เธอเป็นน้องหมาที่โชคร้ายและน่าสงสาร เมื่อความสนุกในวันที่ได้ออกไปผจญภัยบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ Juan de Fuca Marine ตามแนวชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 กลายเป็นเหตุทำให้เธอต้องพลัดหลงกับผู้ปกครอง...
 

.
ทันทีที่รู้ว่าสเตลล่าได้หายตัวไปครอบครัวของเธอก็เร่งค้นหา แต่ทว่าน่าเศร้าที่โชคไม่ค่อยเข้าข้างพวกเขานัก สเตลล่าเด็กหญิงสี่ขาที่น่าสงสารจึงต้องติดอยู่ในป่าบนเกาะลำพัง การค้นหายังคงดำเนินต่อไปแต่ทว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงระยะเดือนแรกครอบครัวก็เริ่มหมดหวังและทำใจยอมรับความจริง ด้วยรู้ดีว่าการที่สเตลล่าซึ่งถูกเลี้ยงดูอย่างดีในบ้านที่อบอุ่นมาโดยตลอดและไม่เคยต้องเผชิญกับความยากลำบาก คงจะไม่สามารถดิ้นรนและเอาชีวิตรอดในป่าลำพังได้โดยปราศจากคนคอยดูแลได้นาน

.

อย่างไรก็ตามความหวังราวปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อสองฮีโร่ได้ปรากฎตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2563 เพื่อช่วยชีวิตสเตลล่า พวกเขาคือ “แซ็ค เรแกน” (Zach Regan) และ “แมทตี้ จอห์นสัน” (Matty Johnson) สองหนุ่มนักโต้คลื่นชาวแคนาดาที่มักจะหาโอกาสออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับกีฬาโต้คลื่นตามเกาะต่าง ๆ ก่อนจะพักแรมกางเต็นท์อยู่ที่นั่นเป็นเวลาไม่นานนักแล้วออกเดินทางอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาก็ทำแบบเดียวกันนั้นเมื่อตอนแวะไปโต้คลื่นที่เกาะแวนคูเวอร์ด้วย

.

ในระหว่างที่แซ็คและแมทตี้กำลังเตรียมกางเต็นท์อยู่ที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำบริเวณริมหาดก็ได้พบว่ามีสัตว์แปลกหน้ากำลังจ้องมองอยู่ ความรู้สึกแรกพวกเขาคิดว่าอาจจะเป็น "หมี" หรือไม่ก็ "หมาป่า" ที่อาศัยอยู่ในป่า Juan de Fuca Marine แต่หลังจากที่เพ่งมองดูอยู่นานก็ทำให้แน่ใจว่าสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าตัวดังกล่าวมีขนาดเล็กเกินกว่าจะเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย

.

.

.

แซ็คและแมทตี้จึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะพบว่าสัตว์แปลกหน้าผู้ถ้ำมองคือ "น้องหมา" และเธอก็คือ "สเตลล่า" น้องหมาที่พลัดหลงกับนายรักไปนานกว่า 3 เดือนในป่า แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้และได้แต่มึนงงว่า น้องหมาปริศนาในสภาพที่ร่างกายซูบผอมและน่าสงสารตัวดังกล่าวมาติดอยู่ที่ถ้ำบนเกาะที่เงียบสงบห่างไกลชุมชนแบบนี้ได้อย่างไร มันน่าประหลาดใจมากที่เธอยังคงมีชีวิตรอดอยู่ที่นี่ได้ แน่นอนการพบเจอน้องหมาในสถานที่ห่างไกลย่อมเป็นเรื่องไม่ปกติและในตอนนั้นดูเหมือนว่าพายุใหญ่ก็กำลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้วด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจช่วยสเตลล่าเอาไว้

.

ภารกิจช่วยชีวิตน้องหมาแปลกหน้ากลับไม่ราบรื่นอย่างที่แซ็คและแมทตี้วางแผนเอาไว้ พวกเขาไม่ได้เชี่ยวชาญการผูกมิตรและสร้างความไว้วางใจให้กับน้องหมาแปลกหน้าเท่าไหร่นัก  นั่นจึงทำให้สเตลล่ารู้สึกหวาดกลัวเกินกว่าที่จะยอมรับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มแปลกหน้าทั้งสองคน แต่โชคดีที่ในท้ายที่สุดแล้วแซ็คและแมทตี้ก็หาทางประชิดตัวสเตลล่าได้แล้วกระโดดเข้าไปจับตัวเธอเอาไว้ได้สำเร็จ จากนั้นทั้งสองก็เร่งพาสเตลล่าขึ้นเรือและใช้กระเป๋าใส่กระดานโต้คลื่นมาห่มตัวเธอเอาไว้ ด้วยคิดว่าจะสามารถช่วยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและวางใจขึ้นได้บ้าง จากนั้นพวกเขาก็เร่งพายเรือกลับเข้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ทันที

.

เมื่อถึงฝั่งแผ่นดินใหญ่แซ็คและแมทตี้ได้เร่งติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือให้กับสเตลล่าน้องหมาปริศนาที่เพิ่งช่วยชีวิตเอาไว้  ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็เดินทางมารับสเตลล่าไปดูแลต่อที่ศูนย์ฯ

.
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายให้กับสเตลล่าและได้พบว่าร่างกายของเธอกำลังขาดสารอาหารอย่างรุนแรง โชคดีที่แซ็คและแมทตี้ช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาหากช้าไปกว่านี้เธอคงจะไม่รอดแน่ ๆ เจ้าหน้าที่ได้สแกนหาไมโครชิปบนตัวสเตลล่าและได้พบกับไมโครชิปฝั่งอยู่ใต้ผิวหนังในสภาพที่สมบูรณ์ หลังจากนั้นความลับของน้องหมาปริศนาจึงถูกเปิดเผย เธอมีชื่อว่า "สเตลล่า" สถานะโสดและ "มีเจ้าของ" เจ้าหน้าที่ไม่รอช้าเร่งแจ้งข่าวสเตลล่าให้กับครอบครัวของเธอทราบทันที

.

.

หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครองของสเตลล่า เจ้าหน้าที่ก็ได้ทราบเรื่องราวอย่างละเอียด แน่นอนพวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจกันมาก "สเตลล่าหายตัวไปในป่าลำพังนาน 3 เดือนและวันนี้เธอยังมีชีวิตรอด!" การมีชีวิตรอดจากความยากลำบากนานาประการในป่าของสเตลล่าทำให้หลายคนต่างรู้สึกสงสัยและทึ่งกันไปตาม ๆ กัน

.

ครอบครัวของสเตลล่าเมื่อได้ทราบข่าวที่น่าดีใจที่สุดนี้ก็อดทนรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวตัดสินใจเร่งเดินทางออกจากบ้านไปที่ศูนย์ฯ เพื่อรับตัวสเตลล่ากลับบ้านทันที วินาทีแรกที่สเตลล่าและครอบครัวได้เจอกันอีกครั้งพวกเขาก็โผเข้ากอดและซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน ครอบครัวกล่าวขอโทษสเตตล่าน้องหมาสุดรัก ขณะที่สเตลล่าเองก็ดูเหมือนว่าก็รู้สึกผิดกับความซุกซนของเธอเช่นกัน พวกเขาพรรณนาถึงความคิดถึงต่อกันด้วยภาษากายเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและพลัดพรากจากกันด้วยอุบัติเหตุจริง ๆ ก่อนจะกลับบ้านครอบครัวของสเตลล่าได้กล่าวขอบคุณสอง ฮีโร่แซ็คและแมทตี้ที่ได้ทุ่มเทพยายามช่วยชีวิตสมาชิกสี่ขาสมาชิกคนสำคัญของพวกเขาจนรอดปลอดภัยและได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง

.
 แซ็คและแมทตี้ได้มอบปาฎิหาริย์และทำให้คำอธิษฐานของพวกเขาเป็นจริง!

.
 

.

ขอบคุณแซ็คและแมทตี้สองฮีโร่ พวกเขายอดเยี่ยมมากสำหรับความเมตตาและความมีน้ำใจ ทั้งสองไม่ต้องการสิ่งตอบแทนอื่นใดจากครอบครัวของสเตลล่า เพียงแค่ปรารถนาให้เรื่องราวของพวกเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไปเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนวงกว้างสำหรับการลงมือทำในสิ่งที่สร้างสรรค์

.
บางครั้งน้ำใจเพียงเล็กน้อยของเราอาจจะเป็นของขวัญที่ล้ำค่า หรือบางทีอาจจะเปรียบเสมือนปาฎิหาริย์ที่เป็นจริงสำหรับอีกคนหนึ่ง หรืออีกครอบครัวหนึ่งก็เป็นไปได้นะ มันคุ้มค่าที่จะลงมือทำ!

.

แซ็คอาบน้ำให้สเตลล่า

.

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.