เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมาขณะที่ “แจน มาร์ท คาลิมพง” (Jan Mart Calimpong) หนุ่มชาวฟิลิปปินส์ กำลังเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้บ้าน สายตาของเขาก็ได้ไปสะดุดเข้ากับน้องหมาตัวหนึ่งที่กำลังกลิ้งตัวไปทางซ้ายทีขวาที ก่อนจะเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจ เหยียดแขนขาจนสุดร่าง นอนสบายใจเฉิบอยู่บนพื้นทางเดินกลางห้างสรรพสินค้า ราวกับว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านของตัวเองไม่แม้แต่จะคิดสนใจผู้คนมากมายที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาเลย ด้วยลักษณะเนื้อตัวที่ค่อนข้างดูมอมแมมและที่คอก็ไม่ได้สวมปลอกคอแสดงสถานะการมีเจ้าของ นั่นจึงทำให้แจนสันนิษฐานว่าเขาน่าจะเป็นน้องหมาจรจัด แน่นอนการได้พบเห็นน้องหมาจรจัดกลางห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติเลย แจนจึงค่อนข้างรู้สึกแปลกใจไม่น้อย!
.
“ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ เมื่อมีน้องหมาจรจัดนอนสบายใจเฉิบอยู่กลางห้างสรรพสินค้า”
แจนกล่าว
.
.
แจนเป็นคนรักสัตว์ เมื่อเห็นน้องหมาจรจัดอยู่ในอิริยาบถที่น่ารักกลางห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเรื่องแปลกจึงรีบหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพและวิดีโอเอาไว้ ในระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งก็เดินตรงดิ่งเข้ามาหาน้องหมาจรจัดตัวดังกล่าว ดูเหมือนว่าเขากำลังจะพาน้องหมาออกไปนอกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตะหวาดไล่หรือใช้ความรุนแรงกับน้องหมาเลยแม้แต่น้อย เขาทำใจเย็นค่อยๆ พูดเกลี้ยกล่อมให้น้องหมาลุกขึ้น ก่อนจะเริ่มชักชวนให้เดินตามออกไป... แต่ทว่ากลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย น้องหมาดื้อดึงไม่ยอมท่าเดียว... "ก็ให้ทำไงได้! ข้างในเย็นสบายกว่าเยอะ ออกไปก็ร้อนแย่สิ!"
.
เมื่อไม่อยากออกไปเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวข้างนอกห้างสรรพสินค้า น้องหมาจึงพยายามขุดสารพัดลูกอ้อนออกมาใช้ ทั้งส่ายหาง ทำหูลู่เป็นเด็กดี ส่งยิ้มหวานพยายามอธิบายด้วยท่าทางว่าเขาไม่ใช่วายร้ายนะ แต่เป็นเด็กดีน่ารักแถมติ๊งต๊องอีกต่างหาก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ยอมอ่อนข้อ...น้องหมาจึงต้องงัดไม้เด็ดทำแกล้งตายนอนหงายท้องอืดโชว์พุงซะเลย ก่อนที่จะรีบเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวทิ้งตัวอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เมื่อเจ้าหน้าที่ยกระดับใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดพยายามจะอุ้มน้องหมาออกไปแทนการเกลี้ยกล่อม
.
.
สารพัดลูกอ้อนใช้ไม่ได้ผล! เมื่อเจ้าหน้าที่ยังคงต้องรักษากฎระเบียบและปฏิบัติตามหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอีกจำนวนมากที่เข้ามาใช้บริการ... อย่างไรก็ตามใช่ว่าลูกอ้อนของน้องหมาจะทำให้หัวใจของเจ้าหน้าที่สั่นไหวไม่ได้เลย เพราะแจนสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่อมยิ้มและหัวเราะตลอดเวลาที่พยายามจะเกลี้ยกล่อมน้องหมา ความน่ารักทำให้เจ้าหน้าที่ผ่อนคลายและมีความสุขได้บ้างในวันทำงานที่แสนวุ่นวาย
.
เมื่อดูท่าลูกอ้อนจะใช้ไม่ได้ผลน้องหมาก็ต้องจำใจให้ความร่วมมือ เดินสองขาจูงมือเจ้าหน้าที่เดินออกห้างสรรพสินค้าไปแต่โดยดี
แงๆ ถูกจับซะแย้ววเรา ช่วยด้วย! เค้าถูกขืนใจ... (ยัง! ยังไม่ยอม)
.
ม่ายยยยยยย! ข้างนอกร้อนจะตาย เดี๋ยวตัวดำหมด ขอนอนแป๊บหนึ่งก็ไม่ได้ ใจร้ายชิ!
.
แจนได้บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้กระทั่งน้องหมาเดินพ้นประตูห้างสรรพสินค้าออกไป ภายหลังเขาได้นำคลิปวิดีโอที่น่ารักนี้โพสต์ลงบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับข้อความอธิบายสั้นๆ ว่า
.
“ พนักงานของห้างสรรพสินค้าคนหนึ่งน่ารักมาก น้องหมาจรจัดตัวนี้แอบย่องเข้ามานอนกลางวัน แต่ทว่าเขาได้ปฏิบัติกับน้องหมาอย่างดี โดยไม่ใช้ความรุนแรง ราวกับว่าน้องหมาจรจัดเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาเอง ”
.
.
.
ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ได้เพียงไม่นานนัก ความน่ารักที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมากต่างให้ความสนใจ ร่วมกดแสดงความรู้สึกมากถึง 1.3 แสนครั้ง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 6.3 พันข้อความเลยทีเดียว ในเวลาต่อมาคลิปวิดีโอดังกล่าวก็กลายเป็นกระแสถูกกล่าวถึงในวงกว้าง
.
ซึ่งเจ้าของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวก็ได้ทราบเรื่องด้วย เขาได้เล็งเห็นมุมมองในด้านดีและความน่ารักที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับผู้คนบนโลกออนไลน์จำนวนมาก จึงตัดสินใจเสนองานในตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยสี่ขาให้กับน้องหมาจรจัดช่างอ้อนด้วย พร้อมกับตั้งชื่อให้กับเขาว่า “ด็อกด็อก” (Dogdog)
.
มีเหรอด็อกด็อกจะปฏิเสธ เมื่อรู้ว่ากำลังได้รับโอกาสมีชีวิตที่ดีขึ้นในห้างสรรพสินค้าที่เย็นฉ่ำ กับหน้าที่ถนัดคอยเฝ้ายามและแจกรอยยิ้มสดใสให้กับผู้คนจึงไม่รีรอรีบตอบตกลงทันที!
.
ปัจจุบันด็อกด็อกได้กลายมาเป็นหนึ่งในทีมรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... ทุกวันด็อกด็อกจะตระเวนเดินไปรอบๆ ห้างสรรพสินค้าโดยมีเจ้าหน้าที่รุ่นพี่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ เสมอ เพื่อนร่วมงานหลายคนบอกว่าด็อกด็อกภูมิใจกับงานของเขามาก ตั้งใจทำงานเสมอแม้จะมีแอบหนีไปงีบหลับอยู่บ้างเป็นครั้งคราวก็ตาม แต่โดยรวมแล้วเขาขยันใช้ได้เลยนะ
.
“เรากำลังสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการอยู่ร่วมกันระหว่างน้องหมาจรจัดและห้างสรรพสินค้า เราเปิดโอกาสให้ด็อกด็อกมาร่วมงานกับเราเพื่อเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา เขาช่วยเรารักษาความปลอดภัยเราเองก็ช่วยดูแลเขา เราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
เจ้าของห้างสรรพสินค้ากล่าว
.
.
ตอนนี้ด็อกด็อกได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ห่วงใยและพร้อมช่วยเหลือ นี่คงเป็นความสุขที่เขาตามหาและน้องหมาจรจัดอีกหลายตัวก็คงอยากจะได้รับโอกาสแบบนี้เช่นกัน
.
การแสดงความเมตตาต่อน้องหมาจรจัดที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม นอกจากจะทำให้ผู้คนรู้สึกดีกับห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนชีวิตน้องหมาจรจัดตัวหนึ่งให้ดีขึ้นได้ด้วย
.
“ตอนนี้คนเดินห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่มองว่าด็อกด็อกเป็นคนดังไปแล้ว และพวกเขาไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปทักทายกับด็อกด็อก เมื่อมีโอกาส ในฐานะคนรักสัตว์อย่างผมแล้ว ผมดีใจมากที่ได้เห็นอะไรแบบนี้”
แจน ผู้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่น่ารักของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและน้องหมาด็อกด็อกกล่าว
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.