“แมนทัส” (Mantas) และ “ราซ่า” (Rasa) คู่รักจากประเทศลิทัวเนีย กำลังทุ่มเทพยายามดูแลน้องหมาจรจัดที่อาศัยอยู่บนเกาะกูด ประเทศไทย เพื่อพิสูจน์ว่าบางครั้งมนุษย์ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเหล่าน้องหมาได้เหมือนกัน 

.

แมนทัสกับราซ่าได้เดินทางมาที่ประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว ทั้งคู่ตั้งใจตระเวนเดินทางไปทั่วประเทศก่อนจะตกหลุมรักเกาะกูด จังหวัดตราด พวกเขาไม่เพียงแค่หลงรักในธรรมาชาติที่สวยงามบนเกาะกูดเท่านั้น แต่ยังรู้สึกประทับใจกับมิตรไมตรีที่ชาวบ้านบนเกาะมอบให้ ทั้งคู่ได้ปรึกษากันอย่างจริงจังและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปตัดสินใจย้ายมาอยู่บนเกาะกูดอย่างถาวร นั่นคือเรื่องราวจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2557 หรือประมาณ 6 ปีก่อน

.

ทว่าหลังจากที่ทั้งคู่ได้ย้ายเข้ามาอยู่บนเกาะกูดได้ไม่นานักก็ต้องเผชิญกับการเรื่องน่าเศร้าที่ถูกส่งมาให้รู้จากประเทศลิทัวเนียว่า “ไอโบ้” (Aibo) น้องหมาสุดรักที่เคยอยู่ร่วมกับทั้งคู่มายาวนานมากกว่า 10 ปี จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกำลังป่วยหนักและวาระสุดท้ายของเขาก็กำลังจะเดินทางมาถึง แต่ด้วยการเดินทางกลับลิทัวเนียกะทันหันมีค่าใช้จ่ายสูงหลายเท่าตัวจากการวางแผนล่วงหน้า นั่นจึงทำให้แมนทัสและราซ่าเลือกที่จะบอกลาไอโบ้เป็นครั้งสุดท้ายผ่านทางวิดีโอคอล...

.

การจากไปของไอโบ้ทำให้แมนทัสและราซ่าต้องจมอยู่กับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ไร้ชีวิตชีวาไปนาน  ก่อนหน้านี้ทั้งคู่วางแผนกันเอาไว้ว่าจะพาไอโบ้มาอยู่ด้วยกันที่เกาะกูดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกินกว่าจะคาดฝันไอโบ้ด่วนจากไปเสียก่อน ทุกอย่างเร็วเกินไป พวกเขาเสียใจกับการสูญเสียมาก...
.
ในช่วงเวลาที่หัวใจกำลังย่ำแย่ แมนทัสและราซ่าก็ได้สังเกตเห็นน้องหมาจรจัดมากมายที่กำลังใช้ชีวิตเร่ร่อนไร้คนเหลียวแลอยู่บนเกาะกูด น้องหมาเหล่านั้นล้วนมีสภาพที่ย่ำแย่ ผอมแห้ง บางตัวก็กำลังป่วยหนักน่าเวทนา นั่นทำให้แมนทัสและราซ่านึกถึงไอโบ้และยอมเปิดใจรับน้องหมาจรจัดมาอุปการะไว้ ทั้งคู่หวังว่าการรับอุปการะจะทำให้ชีวิตของน้องหมาจรจัดดีขึ้น และช่วยเข้ามาเติมเต็มทำให้หัวใจที่เศร้าหมองจากการสูญเสียน้องหมาที่รักไปดีขึ้นได้บ้าง

.

“ซุยก้า” (Zuika) คือน้องหมาจรจัดตัวแรกที่แมนทัสและราซ่ารับอุปการะไว้ก่อนที่จะกลับไปที่ประเทศลิทัวเนียอีกครั้ง เพื่อพา “รูดิส” (Rudis) น้องหมาอีกตัวมาอยู่ด้วยกันที่เกาะกูด ประเทศไทยตามแผนที่เคยวางเอาไว้ ซุยก้าและรูดิสเข้ากันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นน้องหมาคนละสัญชาติกัน ความน่ารักของซุยก้าทำให้แมนทัสและราซ่าตัดสินใจรับน้องหมาจรจัดตัวใหม่ๆ เข้ามาอุปการะไว้เพิ่มเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ พวกเขามีน้องหมาในความดูแลแล้วมากถึง 15 ตัว ซึ่งมีทั้งน้องหมาที่มีร่างกายปกติ และพิการตาบอด ขาหักเดินไม่ได้อีก รวม 6 ตัวด้วย

.

.

ซึ่งน้องหมาแต่ละตัวล้วนแล้วมีเรื่องราวที่แตกต่างกันไป แต่สองสิ่งที่พวกเขามีเหมือนๆ กันนั่นก็คือ "พวกเขาเคยผ่านช่วงชีวิตที่เลวร้ายมากๆ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด" และอีกหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือตอนนี้พวกเขามี "คุณพ่อคุณแม่ที่แสนดีคอยดูแลแล้ว"

.

แน่นอนว่าการดูแลน้องหมาจำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากหน้าที่การเป็นผู้ปกครองที่ดีแล้ว ยังต้องหมั่นดูแลตามแก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงการมอบความรักให้กับเหล่าน้องหมาทั้ง 15 ชีวิตด้วย ชีวิตจริงในต่างแดนบางครั้งก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวังเสมอไป ทั้งคู่ต้องเจอกับปัญหาเจ้าของที่ดินและการยอมรับจากเพื่อนบ้านด้วย...

.

ในช่วงแรกเจ้าของบ้านที่แมนทัสและราซ่าเช่าอยู่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงน้องหมาและไล่พวกเขาออกจากบ้าน จนทำให้ทั้งคู่และลูกๆ สี่ขาที่รับอุปการะไว้ต้องกลายเป็นคนไร้บ้านอยู่พักหนึ่ง แต่พวกเขากลับไม่ได้ทอดทิ้งน้องหมาในความดูแลที่เปรียบเสมือนลูกๆ เลย ทั้งคู่ยังคงอดทนพยายามหาทางสู้ จนกระทั่งสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ได้ แม้ว่าบ้านหลังใหม่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลบนเกาะกูด แต่พวกเขาก็ภูมิใจเพราะมันเป็นบ้านของพวกเขาเอง และจะไม่มีใครมาไล่ให้เขาไปไหนได้อีกแล้ว

.

.

ถึงแม้จะมีน้องหมาที่รับอุปการะอยู่มากถึง 15 ตัวแล้ว แต่แมนทัสและราซ่ากลับไม่ได้หยุดที่จะให้โอกาสน้องหมาจรจัด ทุกๆ วันพวกเขาจะขับรถซาเล้งตระเวนไปรอบๆ เกาะซึ่งรวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร เพื่อให้อาหาร ยารักษาโรคและช่วยตรวจสุขภาพให้กับเหล่าน้องหมาจรจัด รวมทั้งพาน้องหมาจรจัดที่ป่วยหนักหรือกำลังต้องการความช่วยเหลือกลับมาดูแลที่บ้านจนหายดีก่อนจะพาพวกเขากลับไปอยู่ตามจุดเดิมที่เคยใช้ชีวิต
.
แมนทัสและราซ่าลงมือทำเพื่อเหล่าสัตว์จรจัดทั้งหมดนี้เพียงเพราะจุดประสงค์เดียว นั่นคือต้องการทำให้เหล่าน้องหมาจรจัดบนเกาะกูดมีความสุขและมีสุขภาพที่ดี

.

.

การรักษาสัตว์มีต้นทุนสูง อีกทั้งแมนทัสและราซ่าไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ด้วย  ทั้งคู่จึงพยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ หวังช่วยเหลือน้องหมาที่กำลังเจ็บป่วยด้วยปัญหาต่างๆ ในระดับเบื้องต้นด้วยตัวเองให้มากที่สุด

.

แมนทัสและราซ่าจะยังคงมุ่งมั่นทำเพื่อสัตว์จรจัดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเป้าหมายของพวกเขาจะบรรลุ นั่นก็คือการที่น้องหมาทุกตัวบนเกาะกูดจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดี

.
น่าประทับใจมากเลยนะครับ แมนทัสและราซ่าชาวต่างชาติที่หลงรักในประเทศไทย ย้ายเข้ามาตั้งหลักแหล่งและกำลังพยายามทุ่มเทเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสัตว์จรจัดในประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่คนไทยหลายคนมองเห็นและในขณะที่อีกหลายคนเลือกมองข้าม งานของทั้งคู่ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือแต่ทว่าพวกเขากำลังพยายามลดจำนวนประชากรน้องหมาจรจัดในอนาคตด้วยวิธีทำหมัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหาต้นเหตุ... หวังให้เป็นการช่วยเหลือสัตว์จรที่ยังยืน...

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.