“แบลซ” (Blaze) น้องหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์หรือพี่แล็บ ขนสีดำ อาศัยอยู่กับ “ซานเทอริ ฟรายแลนเดอร์” (Santeri Frilander) ผู้ปกครองในประเทศฟินแลนด์มานานนับสิบปีแล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตของแบลซยังคงเหมือนเดิม เขาเป็นน้องหมาที่ร่าเริงและน่ารักเหมือนครั้งที่ยังเป็นลูกหมาตัวน้อยไม่มีผิด แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะเพราะมีบางอย่างในตัวของเขาที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ซึ่งก็คือสี “ขน” ของเขานั่นเอง...
ตอนวัยละอ่อน! สีดำดีต้องดำปี๋แบบพี่
.
ดำเนียนสุขภาพดีต้องดำเสมอทั่วทั้งตัว
.
เมื่อแบลซเริ่มมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ขนบริเวณรอบปากของเขาจากที่เคยมีสีดำสนิทก็ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ซานเทอริและภรรยาคิดว่านั่นอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมไปตามวัยอย่างที่น้องหมาแก่ตัวอื่นๆ ต่างก็ต้องเผชิญ พวกเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักในตอนแรก
อ้าว! สีตกซะงั้นเรา
.
แต่ทว่าขนสีขาวสัญลักษณ์ของความแก่ชราไม่ได้ทำให้แบลซน้องหมาที่มีพลังล้นเหลือเปลี่ยนไปได้เลย เขายังคงเป็นน้องหมาขี้เล่น สนุกกับการวิ่งตะลุยป่า กระโดดเข้าไปนอนเกลือกกลิ้งบนกองหิมะหรือได้ว่ายน้ำในทะเลสาบใกล้บ้านได้อยู่อย่างเคย แต่ไม่นานนักหลังจากนั้นซานเทอริก็สังเกตเห็นว่าขนที่บริเวณใบหูของแบลซก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวเช่นเดียวกัน
.
และหลังจากนั้นขนสีขาวก็เริ่มกระจายไปทั่วทั้งตัวของแบลซ... แล้วก็กลายเป็นแบบนี้!
งือ...เกิดอะไรขึ้นกับผมครับพ่อ เขาจะบิดแล้วเอาผมจุ่มนมมั๊ยครับ?...เป็นโอริโอ้เลยเรา!
.
“ในตอนแรกผมและภรรยาคิดว่าขนสีขาวเกิดขึ้นเพราะแบลชเริ่มแก่ตัวลงเท่านั้น แต่ขนสีขาวกลับเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กระจายไปทั่วตัวของเขา น้องหมาตัวอื่นๆ ที่เกิดในครอกเดียวกันกับแบลซพวกเขายังคงมีสีเหมือนเดิม มีเพียงแค่แบลซเท่านั้นที่แตกต่างออกไปจากพี่น้องของเขา”
ซานเทอริกล่าว
.
ขนสีขาวปกคลุมไปทั่วใบหน้าของแบลซแล้วก็เริ่มลามไปยังไหล่ ขาของเขา ซานเทอริตระหนักว่าบางสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นโรคร้ายที่กำลังคุกคามน้องหมาสุดที่รักของเขาอยู่ก็เป็นไปได้ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจและหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้องหากมีโรคร้ายเกิดขึ้นจริงๆ เขาจึงพาแบลซไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพื่อหาคำตอบที่มาของอาการที่เกิดขึ้น โชคดีที่ผลตรวจแสดงชัดว่า แบลซยังคงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี สีขนที่เปลี่ยนไปของแบลซนั้นไม่ใช่โรคร้ายแรงอย่างที่ซานเทอริกังวลใจ สัตวแพทย์อธิบายแบลซกำลังเป็นโรค “ด่างขาว” (Vitiligo)
ก็เท่ดีนะคริๆ
.
ตามปกติแล้วเมื่อน้องหมาหรือน้องแมวป่วยเป็นโรคด่างขาวผิวหนังบางส่วนของพวกเขาจะสูญเสียเม็ดสีตามธรรมชาติไป ส่งผลให้ขนที่งอกขึ้นมาใหม่กลายเป็นสีขาวนั้นเอง แต่สำหรับโอกาสในการเกิดโรคจะพบได้น้อยมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเกิดขึ้นกับน้องหมาหรือน้องแมวที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพร่วมด้วย คือมักจะอ่อนแอ เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่ในกรณีของแบลซสัตวแพทย์เองก็ยังสงสัยว่า เขาป่วยเป็นโรคด่างขาวได้อย่างไรในเมื่อสุขภาพร่างกายยังคงสมบูรณ์และแข็งแรงเป็นปกติดี
สาวๆ บอกเลยอร่อยกว่าโอริโอ้ก็พี่แบลซนี่แหละครับบบ
.
ขนสีขาวที่งอกขึ้นมาใหม่ทำให้แบลซกลายเป็นน้องหมาที่ดูแตกต่างไปจากน้องหมาตัวอื่นๆ ซึ่งซานเทอริและภรรยาก็รู้สึกชอบและไม่คิดว่านี่คือข้อบกพร่องที่ทำให้แบลซน่ารักน้อยลงเลย แต่ในทางกลับกันแบลซกลับดูมีเสน่ห์มากขึ้นด้วยซ้ำ...
.
“โรคด่างขาวของแบลซเป็นเพียงแค่เครื่องสำอางที่ธรรมชาติแต่งเติมให้ เราไม่ได้มองว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรตราบใดที่แบลซยังคงมีความสุขกับชีวิตได้อยู่ แบลซเป็นตัวอย่างที่ทำให้เราและหลายๆ คนได้เห็นว่าความแตกต่างนั้นสวยงามอย่างไร”
ซานเทอริกกล่าว
.
หลังจากที่สีขนส่วนใหญ่บนตัวของแบลซเริ่มกลายเป็นสีขาวแล้ว แบลซก็มักจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนที่ผ่านมาพบเจอขณะที่เขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านเสมอ ซึ่งนั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับแบลซเลย เขาชอบที่ได้มีคนแปลกหน้าเข้ามาให้ความสนใจและทักทายด้วยความเอ็นดู ก่อนจะมอบโอบกอดที่อ่อนโยนให้เขาอยู่ย่อยๆ
.
ไม่ใช่เพียงแค่คนในละแวกบ้านเท่านั้นที่ให้ความสนใจในตัวของแบลซ แต่รวมถึงผู้คนจำนวนมากบนทั่วโลกออนไลน์ด้วย พวกเขาสนใจเมื่อได้เห็นสีขนที่แตกต่างของแบลซในครั้งแรก ภายหลังซานเทอริได้สร้างบัญชีอินสตาแกรมให้สำหรับแบลซโดยเฉพาะในชื่อ "blazethedog__ " เพื่อให้เหล่าแฟนคลับบนโลกออนไลน์สามารถติดตามชีวิตประจำวันของแบลซให้หายคิดถึงด้วย
.
“แบลซเป็นน้องหมานิสัยดีเข้ากับคนได้ง่าย และมีความสุขเสมอเมื่อได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้าง”
ซานเทอริกล่าว
.
ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของแบลซจะดูแตกต่างไปจากเมื่อครั้งที่เขายังเป็นลูกหมาตัวน้อย แต่ทว่า “ปันโต้” (Punto) พี่ชายสี่ขาตัวเล็กสายพันธุ์ชิวาวาของแบลซกลับไม่ได้รู้สึกเลยว่าน้องชายของเขาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน พวกเขาทั้งคู่ยังคงรักและสนิทสนมกันเหมือนเดิม ทั้งสองเป็นผู้เฒ่าที่น่ารักและทำให้ซานเทอริหัวเราะได้เสมอ
.
“พวกเขาเป็นคู่หูคู่ฮา สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนในครอบครัวได้เสมอ แบลซมีน้ำหนักตัว 33 กิโลกรัมและตัวโต ส่วนปันโต้มีน้ำหนักตัวเพียง 1.3 กิโลกรัมและตัวเล็ก แต่ทว่าใครจะไปรู้ล่ะว่าคตวามจริงแล้วปันโต้เขาเป็นจ่าฝูง”
ซานเทอริกล่าว
.
แบลซ: เราเป็นลูกน้องต้องให้ลูกพี่ตัวเตี้ยกินก่อน
ปันโต้ : ใครเตี้ย! เดี๋ยวเจอ! อุ้งเท้ามินิ! ซัดให้หมบเลย
แบลซ : น้องขอโทษ น้องกลัวแล้ว
.
ครอบครัวของแบลซตระหนักเสมอว่าเขาน่ารักในแบบที่เขาเป็น ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของแบลซจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิม นั่นคือรักและเห็นว่าลูกชายตัวน้อยที่น่ารักและอ่อนโยนในสายตาของพวกเขาไม่เปลี่ยน
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.