หลังจาการอุทิศตัวเพื่อช่วยชีวิตเหล่านกกีวีให้รอดจากการสูญพันธุ์เป็นเวลายาวนานกว่า 11 ปี วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ “เรน” (Rein) น้องหมาสายพันธุ์ฮังกาเรียนวิซสลา เพศเมีย ในวัย 12 ปี จะวางอุ้งเท้าของเธอลงพักผ่อนและกลับไปใช้ชีวิตแสนสงบในช่วงบั้นปลายชีวิตกับคนที่เธอรัก
.
เรนเป็นหนึ่งในน้องหมาของโครงการฝึกน้องหมาเพื่อการอนุรักษ์โดยกรมอนุรักษ์ธรรมชาติ Department of Conservation (DOC) ประเทศนิวซีแลนด์ เรนและ “เอียน เกรแฮม” (Iain Graham) ผู้ฝึกหรือผู้ปกครองของเธอได้ช่วยชีวิตนกกีวีสัตว์ป่าหายากเอาไว้เป็นจำนวนมาก พวกเขารับผิดชอบในส่วนภารกิจ "Operation Nest Egg" คือการดมกลิ่นค้นหาไข่ของนกกีวี และนำไปฟักที่ศูนย์ฯ เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้กับลูกนกกีวี
.
เอียนกล่าวว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่เรนอุทิศตัวเพื่อภารกิจ เธอสามารถช่วยชีวิตนกกีวีได้มากถึง 1,700 ตัว! เรนเป็นส่วนสำคัญของโครงการและความทุ่มเทอย่างหนักของเธอก็ส่งผลให้จำนวนประชากรของนกกีวีที่เคยสำรวจพบว่าเหลืออยู่เพียง 160 ตัว เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 600 ตัวในช่วงระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา สถานะของนกกีวีจากที่เคยจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ป่า "ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ" จึงถูกจัดลำดับใหม่ให้กลายเป็น "เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด" เมื่อปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา
.
การปฏิบัติภารกิจครั้งสุดท้ายของเรนก่อนเกษียณคือ การเดินทางไปที่เกาะเครช ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กที่ปราศจากสัตว์กินเนื้อในหมู่เกาะโมทัวร่า เพื่อเฝ้าสังเกตการใช้ชีวิตของเหล่านกกีวีตัวน้อยที่อ่อนประสบการณ์
.
เอียนเล่าว่าก่อนหน้าขณะที่เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพในการควบคุมดูแลของ DOC ประมาณ 4 ปี จู่ ๆ เขาก็คิดอยากจะมีน้องหมาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเพื่อร่วมผจญภัยไปด้วยกัน หลังคิดทบทวนจนแน่ใจเขาก็ตัดสินใจรับอุปการะเรนมาจากเพื่อนในปี พ.ศ.2553 ขณะที่เรนยังเป็นแค่ลูกหมาตัวน้อยที่ไร้เดียงสา
.
“ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าอยากจะมีน้องหมาสายพันธุ์ฮังกาเรียนวิซสลามาเป็นเพื่อนร่วมออกผจญภัยไปด้วยกันเท่านั้น ผมว่าพวกเขาเป็นน้องหมาสายพันธุ์ที่มีหลายอย่างน่าสนใจ เช่น นิสัยนักล่าเก่งกาจ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็นิสัยดี ฉลาดและรอบรู้มากด้วย”
เอียนกล่าว
.
หลังจากที่ทั้งสองได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้านที่อบอุ่นระยะหนึ่ง เอียนก็สังเกตเห็นพรสวรรค์ที่น่าทึ่งในตัวเรนซึ่งไม่สามารถพบได้ในน้องหมาทั่ว ๆ ไป จนทำให้เขาเชื่อมั่นว่าเรนจะสามารถเป็นนักอนุรักษ์ที่ดีได้ ทันทีที่แรงบันดาลใจเกิดขึ้นเอียนก็เริ่มต้นสร้างบทเรียนพิเศษเพื่อฝึกฝนและพัฒนาทักษะการดมกลิ่นซึ่งเป็นพรสวรรค์ของเรนให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์น่าประทับใจมากเมื่อเรนสนุกกับการเรียนรู้และสามารถใช้จมูกดมกลิ่นค้นหาเป้าหมายที่เจาะจงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการค้นหานกกีวีในป่าด้วย!
.
จากนั้นเอียนก็ได้ต่อยอดพาเรนเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์ที่ทำอยู่ โดยจัดตั้งทีมภารกิจ Operation Nest Egg ขึ้นมาใหม่ และมีเรนเป็นสมาชิกสี่ขาตัวแรกที่เข้าร่วมภารกิจกอบกู้เผ่าพันธุ์นกกีวี ก่อนที่เธอจะกลายเป็นต้นแบบให้กับเหล่าน้องหมานักอนุรักษ์ตัวอื่น ๆ
.
อย่างไรก็ตามในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ก็พบอุปสรรคบ้างเล็กน้อย เมื่อเรนมีขากรรไกรที่ทรงพลังเกินกว่าจะควบคุมให้นิ่มนวลได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของน้องหมาสายพันธุ์ฮังกาเรียนวิซสลา แต่นั่นกลับทำให้นกกีวีตัวน้อยมักจะได้รับบาดเจ็บจากแรงงับโดยไม่ได้ตั้งใจของเรน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเหล่านกกีวีเอียนจึงจำเป็นต้องสวมตะกร้อครอบปากให้กับเรนขณะที่ต้องปฏิบัติภารกิจเสมอ
.
ระหว่างปฏิบัติภารกิจเรนจะใช้พรสวรรค์ในการดมกลิ่นค้นหาไข่ของนกกีวีในป่า หลังจากที่พบเอียนจะนำไข่เหล่านั้นกลับไปฟักที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า West Coast เมื่อไข่ฟักเป็นลูกนกกีวีตัวน้อยแล้ว พวกเขาจะถูกย้ายไปอยู่ในความดูแลของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Willowbank เป็นเวลานานประมาณ 2 เดือน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาพวกเขาไปปล่อยในเขตธรรมชาติที่ปลอดภัยบนเกาะเครชที่ปราศจากสัตว์กินเนื้อ เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้การใช้ชีวิตเช่นสัตว์ป่าอย่างอิสระ
.
หลังจากที่นกกีวีตัวน้อยเติบโตและแข็งแรงพร้อมที่จะปกป้องตัวเองได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะพาพวกเขาย้ายบ้านไปใช้ชีวิตอย่างอิสระในป่าบนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง ผลจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลา 11 ปี ของเอียน เรนและทีมงาน ส่งผลให้ปัจจุบันจำนวนนกกีวีเพิ่มขึ้นและผู้คนจึงยังสามารถพบเห็นนกกีวีได้ในป่า พวกเขาปกป้องและต่อลมหายใจเผ่าพันธุ์เพื่อนสัตว์ตัวน้อยที่ใกล้สูญพันธุ์เอาไว้ได้สำเร็จ ผืนป่าจึงถูกเติมเต็มกลับมาสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง
.
เอียนกล่าวว่าสิ่งที่เรนทำนั้นยิ่งใหญ่มาก! และวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เรนจะได้พักผ่อนหลังจากทุ่มเทให้กับภารกิจกอบกู้เผ่าพันธุ์นกกีวีมานานกว่า 11 ปี แต่ไม่ต้องห่วงว่าภารกิจจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากเรนได้มอบหมาย “บริว” (Brew) น้องหมาสายพันธุ์ฮังกาเรียนวิซสลาที่เก่งกาจไม่แพ้กันมารับช่วงต่อแล้ว
.
“ตอนนี้เธอกำลังใช้เวลาส่วนใหญ่นอนเล่นบนโซฟา เธอยังคงชอบการเดินป่าและตั้งแคมป์กับเรา การเกษียณจะไม่ได้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปจนทำให้เธอรู้สึกแย่ แต่ทว่าจะช่วยทำให้เธอได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นเท่านั้น”
เอียนกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.