เรื่องราวที่ด็อกคลิปนำมาเสนอในวันนี้ เป็นชีวิตของน้องหมาจรจัดในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณครูใจดีรักสัตว์ แต่ทว่าการช่วยเหลือเพื่อให้น้องหมามีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย ต้องฝ่าฟันอุปสรรคข้อจำกัดหลายๆ อย่างของกฎระเบียบข้อบังคับทางสังคม โดยเรื่องราวที่กล่าวมาเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2561 แต่ทว่าเหตุการณ์น่าสนใจ ได้เห็นแนวคิดของการจัดระเบียบและการแก้ปัญหาสัตว์จรที่เกิดขึ้นในสังคมอีกมุมหนึ่งของโลกจึงนำมาเล่าให้ฟังครับ
.
เช้าวันหนึ่งขณะที่ "เคเล็บ เชฟเฟอร์" (Caleb Schaffer) คุณครูประจำโรงเรียนประถม B.C. Elmore Elementary School ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาทำงานตามปกติเช่นทุกวัน แต่ในวันนั้นเขาไม่เห็นเด็กๆ นักเรียนยืนเข้าแถวเพื่อรอเดินเข้าอาคารเรียนเหมือนทุกๆ ครั้ง สิ่งที่เขาเห็นกลับมีเพียงแค่น้องหมาตัวหนึ่งที่กำลังนั่งเหงาๆ อยู่ลำพังที่บริเวณด้านหน้าประตูบานใหญ่ของอาคารเรียน
.
“เขานั่งอยู่ด้านนอกประตูบานใหญ่เพียงลำพัง และทันทีที่เขามองเห็นผม น้องหมาก็เริ่มส่ายหางไปมาคล้ายกับกำลังรู้สึกดีใจ”
เคเล็บกล่าว
.
แต่ในวันนั้นเคเล็บไม่มีเวลาเหลือแล้ว ต้องรีบไปทำงานจึงไม่ได้เดินเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับน้องหมาตัวดังกล่าว แต่ในระหว่างที่เคเล็บกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ ภายในหัวของเขากลับคิดวนเวียนถึงน้องหมาไม่หยุดเลยด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้เคเล็บไม่ได้เดินเข้าไปทักทายน้องหมาแต่เขาก็สังเกตเห็นสภาพของน้องหมาจากระยะไกลได้ น้องหมามีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักดูคล้ายกับว่ากำลังป่วยอยู่ เคเล็บเกิดความไม่สบายใจจึงเดินออกมาหาน้องหมาตัวดังกล่าวในทันทีเมื่อถึงช่วงเวลาพัก
.
แต่น่าเสียดายเคเล็บไม่เจอน้องหมาแล้วเขาหายตัวไป ซึ่งภายหลังเคเล็บได้ทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในโรงเรียนว่า น้องหมาตัวดังกล่าวเป็นน้องหมาจรจัด ก่อนหน้านี้มีใครบางคนได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์และพวกเขาได้เดินทางมารับตัวน้องหมาไปแล้วรอบหนึ่ง แต่น้องหมากลับไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับตัวและรีบวิ่งหนีหายไป
.
ในเช้าวันถัดมาเคเล็บก็ได้เจอกับน้องหมาจรจัดตัวเดิมกำลังนั่งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูบานใหญ่ทางเข้าอาคารเรียนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนว่าน้องหมาจำเคเล็บได้ เขาส่ายหางไปมาและดูดีใจมากเมื่อได้เห็นหน้าเคเล็บอีกครั้ง
.
“เขาดูมีความสุขมากที่ได้เห็นผม ผมเริ่มสังเกตดูตามลำตัวของเขาอย่างละเอียด และพบว่าผิวหนังของเขานั้นดูแย่มาก มันทำให้เขาเจ็บปวดไม่สบายตัว น้องหมาใช้เท้าของเขาเกาแผลไม่หยุดและร้องครางอย่างต่อเนื่อง ในตอนนั้นผมรู้สึกแย่มาก เพราะผมไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย”
เคเล็บกล่าว
.
หลังจากนั้นเคเล็บก็เดินเข้าไปในชั้นเรียนเพื่อทำหน้าที่สอนเด็กๆ นักเรียน ในขณะที่ภายในหัวก็ยังคงคิดถึงเรื่องของน้องหมาตัวนั้นด้วยความกังวลใจอยู่ตลอดเวลา เคเล็บสันนิษฐานว่าเหตุผลที่น้องหมามานั่งรออยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูเวลาเดิมทุกวัน นั้นคงเป็นเพราะต้องการได้เจอหน้าเขาเพื่อหวังขอความช่วยเหลืออยู่แน่ๆ ซึ่งปรกติแล้วน้องหมาตัวดังกล่าวจะไม่ค่อยไว้ใจใคร
.
ทันทีที่เสียงสัญญาณของโรงเรียนดังขึ้นในตอนเย็นเพื่อบอกว่า เวลาเรียนสำหรับวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว เคเล็บก็รีบเดินออกไปตามน้องหมาตัวดังกล่าวทันที แต่ก็เหมือนอย่างเช่นเมื่อวานน้องหมาได้หายตัวไปอีกแล้ว
.
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเคเล็บเดินทางมาถึงหน้าอาคารเรียน เขาก็พบว่ามีใครบางคนกำลังนั่งรอเขาอยู่เช่นเคย
.
“ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายวิ่งเข้าไปทักทายเขาก่อน ผมพาน้องหมาเดินไปที่รถของผมที่จอดอยู่ใกล้ๆ และผมก็พยายามหลอกล่อให้เขาขึ้นมาบนรถด้วยอาหารกลางวันของผม ผมหลอกล่อเขาอยู่นานจนในที่สุดผมก็พาเขาขึ้นรถมาได้”
เคเล็บกล่าว
.
เคเล็บตัดสินใจช่วยน้องหมาในช่วงเช้าเพราะหากรอให้ถึงเวลาเลิกเรียนเคเล็บก็คงไม่ได้เจอกับน้องหมาอีกแน่ๆ แต่ทว่าเขามีเวลาไม่มากนักสำหรับช่วงเช้าก่อนที่จะถึงเวลาสอน เขาจึงรีบพาน้องหมากลับไปที่อพาร์ตเมนต์และฝากให้ภรรยาช่วยดูแลก่อนในระหว่างนั้น ก่อนจะรีบขับรถย้อนกลับไปสอนที่โรงเรียนอีกครั้ง ในวันนั้นเคเล็บตัดสินใจลางานในช่วงบ่ายเพื่อกลับไปจัดการกับน้องหมาจรจัดที่เขาเพิ่งช่วยไว้และกำลังรอเขาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์
.
ถึงแม้ว่าเคเล็บจะเป็นห่วงและสงสารน้องหมาตัวนี้มาก แต่เขาก็ไม่สามารถรับเลี้ยงเอาไว้เองได้ เนื่องจากอพาร์ตเมนต์ที่เขาพักอยู่มีกฎอนุญาตให้เลี้ยงน้องหมาได้เพียงห้องละ 2 ตัวเท่านั้น ซึ่งเคเล็บก็เลี้ยงน้องหมาเอาไว้ครบ 2 ตัวแล้ว เขาจึงเริ่มต้นแก้ปัญหาเพื่อช่วยน้องหมาจรจัดที่กำลังป่วยโดยการติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ต่างๆในละแวกบ้าน
.
เคเล็บติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ไปมากกว่า 10 กลุ่ม แต่ก็ต้องพบกับคำตอบเดิมว่า "ตอนนี้ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับน้องหมาจรจัดตัวใหม่เลย" เคเล็บไม่สามารถทนรอที่ว่างได้เพราะสภาพของน้องหมาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจขับรถพาน้องหมาเดินทางข้ามเมืองมุ่งหน้าสู่ความหวังถัดไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองแฮรีส
.
“ผมคิดว่าการที่เขาได้รับการดูแลเบื้องต้นจากศูนย์พักพิงน่าจะดีกว่าการที่ไม่ทำอะไรเลย เขาดูอ่อนแอมากจริงๆ ”
เคเล็บกล่าว
.
ระหว่างทางที่ขับรถไปยังศูนย์พักพิงฯ เคเล็บตัดสินใจตั้งชื่อให้กับน้องหมาตัวนี้มาว่า "ไคลฟ์" (Clive)
.
ชื่อใหม่ของ ไคลฟ์ ได้นำพาความโชคดีมาให้กับตัวเขา ทันทีเคเล็บเดินทางมาที่ศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองแฮรีส เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตกลงที่จะรับไคลฟ์เข้ามาอยู่ในความดูแลในทันที พวกเขาเริ่มจากการอาบน้ำให้กับไคลฟ์ด้วยแชมพูชนิดพิเศษเพื่อช่วยรักษาบาดแผลจำนวนมากตามลำตัวของเขา เคเล็บฝากน้องหมาเอาไว้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวก่อนจะรีบขับรถกลับไปสอนที่โรงเรียนอีกครั้ง ถึงแม้ศูนย์พักพิงสัตว์จะรับดูแลไคลฟ์แล้วแต่ทว่ามีเรื่องที่น่ากังวลใจกว่านั้น เพราะศูนย์พักพิงสัตว์ที่นี่มีนโยบาย "การุณยฆาต" เพื่อควบคุมปริมาณสัตว์ไร้บ้านที่มีโอกาสรอดน้อยเพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับสัตว์จรจัดที่มีความจำเป็นกว่า ถึงแม้เคเล็บจะรู้อยู่เต็มอก แต่นี่ก็เป็นทางเดียวที่จะช่วยไคลฟ์ได้ในตอนนี้
.
.
.
ในระหว่างนั้นเคเล็บก็ไม่ได้ทอดทิ้งไคลฟ์แล้วปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดูแลและจัดการกับชีวิตไคลฟ์เพียงฝ่ายเดียว เคเล็บกำลังเริ่มต้นช่วยเหลือไคลฟ์อีกทางโดยการประกาศหาบ้านหลังใหม่ที่พร้อมดูแลไคลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียด้วย
.
โชคดีที่หลังจากเคเล็บได้เผยแพร่เรื่องราวของไคลฟ์เพื่อประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับไคลฟ์ได้ไม่นาน ก็มีอาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Lucky Lab Rescue ในเมืองฮุสตันซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือที่เคเล็บไม่ได้ติดต่อไปก่อนหน้านี้ พวกเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและยินดีจะรับไคลฟ์ไปดูแลให้พร้อมกับจะช่วยประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับเขาด้วย หลังจากที่ร่างกายของไคลฟ์กลับมาแข็งแรงดีขึ้นได้อีกครั้งด้วย
.
“ผมดีใจมากๆ ที่มีคนมารับไคลฟ์ไปดูแล”
เคเล็บกล่าว
.
ไม่นานนักไคลฟ์ก็ถูกย้ายกลับไปอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Lucky Lab Rescue ในเมืองฮุสตัน
.
“ตั้งแต่วินาทีแรกที่เรารับเขาเข้ามาดูแล เราได้เห็นนิสัยและท่าทางที่ดูน่ารักของเขา เรารู้ว่าเขามีบางอย่างที่พิเศษ ”
สเตฟฟ่านี่ บรอสตัน (Stephanie Broughton) เจ้าหน้าที่จาก Lucky Lab Rescue กล่าว
.
กลุ่มอาสาสมัคร Lucky Lab Rescue ได้มอบไคลฟ์ให้กับคู่รักใจดีและรักสัตว์ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ทั้งคู่ได้กลายเป็นครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อคอยดูแลไคลฟ์เป็นการชั่วคราวในระหว่างที่เขายังอยู่ขั้นตอนการรักษาและพักฟื้นจนกว่าสภาพร่างกาย จิตใจของเขาจะพร้อมสำหรับการมีบ้านได้อีกครั้ง ส่วนไคลฟ์เมื่อเขาได้พบหน้ากับครอบครัวอุปถัมภ์ ก็ไม่ได้มีท่าทีปฎิเสธแต่กลับแสดงอาการดีใจมากกว่าที่จะได้มีอาหารและคนดูแลต่อจากนี้
.
.
หลังจากที่ได้รับความรักและการดูแลด้านสุขภาพที่ดีจากครอบครัวใหม่แล้ว อาการของไคลฟ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
.
“เขาเป็นน้องหมาที่สมบูรณ์แบบ เขายอดเยี่ยมมากๆ คุณอาจจะไม่เคยรู้เลยว่าการรับอุปถัมภ์น้องหมา เป็นอะไรที่ทำให้เรามีความสุขมากๆ การช่วยเหลือเล็กๆ นี้ กลับทำให้ชีวิตหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างน่าอัศจรรย์”
จัสติน แบล็กเบิร์น (Justin Blackburn) คุณพ่ออุปถัมภ์ของไคลฟ์กล่าว
.
.
แม้ว่าในตอนนี้ไคลฟ์จะได้รับการช่วยเหลือและมีชีวิตที่ดีแล้ว แต่เคเล็บจะยังคงรักและคิดถึงไคลฟ์เสมอ เขาได้เล่าเรื่องราวการช่วยชีวิตไคลฟ์น้องหมาที่ถูกทอดทิ้งจากใครบางคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ จนกระทบกับอีกชีวิตหนึ่งนั้นก็คือไคลฟ์ผู้เป็นสัตว์เลี้ยงในขณะที่เขาแทบจะไม่เคยได้รับรู้เลยว่าทำผิดอะไรถึงถูกปล่อยให้ต้องเผชิญกับความหิว โรคภัยและอันตรายกับโลกภายนอกโดยปราศจากครอบครัวคอยดูแลเช่นนี้ให้กับนักเรียนของเขาฟัง เพื่อสอนบทเรียนใกล้ตัวให้เด็กนักเรียนได้ตระหนัก เห็นภาพผลกระทบที่ชัดเจนสร้างความเข้าใจว่า ทำไมการเลี้ยงดูน้องหมาอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญพร้อมกับเน้นย้ำว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหัวใจเช่นเดียวกับมนุษย์เรา
.
“น้องหมาจรจัดมีอยู่มากมายในชุมชน เรื่องราวของไคลฟ์ทำให้ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กๆนักเรียน ในชั้นเรียนถึงการทำหมัน การป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับน้องหมาจรจัด ตลอดจนการทำงานของศูนย์พักพิง เพื่อให้เขาเข้าใจถึงชีวิตที่ยากลำบากของน้องหมาจรจัด ”
เคเล็บกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
