สำหรับ “เฮย์ลี่ย์ มาร์ติน” (Hayley Martin) หญิงสาวจากมหานครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียแล้ว “มาร์ลี่ย์” (Marley) น้องหมาสายพันธุ์บอเดอร์คอลลี่ ผสมเคลปี้ เพศผู้ อายุ 1 ปี เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงหรือสมาชิกในครอบครัว แต่ทว่าเขาคือ "ทั้งชีวิตของเธอ"
.
เฮย์ลี่ย์ต้องเผชิญกับโรคออทิซึม บ่อยครั้งที่เธอต้องเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จนทำให้ป่วยเป็นโรคแพนิค ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเธอยิ่งทรุดลงจากอาการของโรคและทุกวันเธอก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่นั้นไม่มีความสุขเอาเสียเลย จนกระทั่งเฮย์ลี่ย์ได้มาพบกับน้องหมามาร์ลี่ย์ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป... (อ่านรายละเอียดของโรคออทิซึมและโรคแพนิค ได้ที่ท้ายบทความ)
.
เฮย์ลี่ย์และมาร์ลี่ย์ พบกันครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2561 ที่ผ่านมาในตอนนั้นมาร์ลี่ย์ยังเป็นเพียงแค่ลูกหมาตัวน้อยที่น่ารักและน่าเอ็นดู เฮย์ลี่ย์ตกหลุมรักน้องหมาของเธอตั้งแต่วันนั้นและเธอก็ไม่รีรอที่จะขอรับเฮย์ลี่ย์มาอุปการะ ในเวลาต่อมาน้องหมามาร์ลี่ย์ได้เข้ารับการฝึกในหลักสูตรสำหรับน้องหมาบริการจนสำเร็จตามหลักสูตรก่อนที่เขาจะถูกย้ายให้เข้าไปอยู่กับเฮย์ลี่คุณแม่คนใหม่ที่กำลังรอต้อนรับเธออยู่...
.
“น้องหมาตัวนี้ได้ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ เขากลายเป็นน้องหมาบริการของฉัน เขาทำให้ฉันเป็นอิสระพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น เขาทำให้ชีวิตที่มีความสุขของฉันกลับมาได้อีกครั้ง”
เฮย์ลี่ย์กล่าว
.
มาร์ลี่ย์เป็นน้องหมาที่น่ารัก ฉลาด รู้ใจและสามารถช่วยเหลือเฮย์ลี่ย์ได้เสมอเมื่อเธอต้องเผชิญกับอาการของโรคแพนิค เขาจะเข้ามาปลอบเฮย์ลี่ย์ผู้เป็นเจ้านายให้สงบลงได้ทุกๆ ครั้งที่เธอเริ่มรู้สึกแย่ ดังนั้นเธอจึงตกอยู่ในความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่เหมือนช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ที่กว่าจะผ่านช่วงอาการกำเริบได้มันแทบจะสูบพลังชีวิตของเธอไปจนหมด วันนี้เธอมีน้องหมามาร์ลี่ย์ช่วยจึงทำให้ช่วงเวลาแย่ๆ ผ่านไปเร็วขึ้น...
.
เพื่อให้เพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ได้เห็นความฉลาดแสนรู้และน่ารักของน้องหมามาร์ลี่ย์ เฮย์ลี่ย์จึงได้โพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ ขณะที่น้องหมามาร์ลี่ย์กำลังช่วยทำให้เธอผ่านพ้นช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับอาการจากโรคแพนิค...ลงบนกลุ่มเฟซบุ๊ก "Dogspotting Society" เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาด้วย พร้อมกับเขียนข้อความอธิบายเรื่องราวที่เธอรู้สึกประทับใจให้ฟังว่า
.
“นี่คือ มาร์ลี่ย์ น้องหมาบริการของฉัน มาร์ลี่ย์จะช่วยฉันตอนที่ฉันเริ่มจะทำร้ายตัวเอง (ใช่ ฉันเป็นคนตั้งกล้องบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้เองเพื่อให้ดูว่ามีอะไรจะให้มาร์ลี่ย์พัฒนาทักษะขึ้นอีกได้ไหม)
.
ฉันจะทำร้ายตัวเองซึ่งเป็นผลมาจากโรคที่ฉันเป็นอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ฉันรู้สึกแย่กับตัวเองมาก แต่มาร์ลี่ย์ก็ได้ถูกฝึกมาเพื่อหยุดยังพฤติกรรมเหล่านั้น จะเห็นว่าเขาพยายามยื่นอุ้งเท้าออกมาขวางมือของฉันเอาไว้ และพยายามปัดมือฉันออก ก่อนที่จะเข้ามากอดตัวฉันเอาไว้
.
ในตอนแรกเขาพยายามจะเตือนฉันถึงอาการที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่ฉันทำเป็นไม่สนใจเขา เขาก็เริ่มกระโดดขึ้นมาเลียน้ำตาให้ฉันด้วย ทุกวันนี้ฉันดีใจมากที่ได้มีเด็กชายคนนี้อยู่ข้างๆ
.
มันยากจะทำใจนะที่จะต้องอัปโหลดวิดีโอนี้ ฉันอาจจะมีอาการน้อยกว่าคนอื่น แต่ฉันอยากให้ทุกคนเห็นว่าน้องหมานั้นสามารถช่วยเราได้จริงๆ”
.
.
จากคลิปวิดีโอดังกล่าว เมื่อน้องหมามาร์ลี่ย์สังเกตเห็นอาการของเจ้านายกำลังเริ่มผิดปกติ เขาก็เริ่มยกอุ้งเท้าไปสะกิดที่บริเวณขาของเฮลี่ย์ด้วยความเป็นห่วงเพื่อให้กำลังใจเธอ แต่เฮลี่ย์กลับใช้มือปัดอุ้งเท้าของเขาออก ถึงแม้ว่าเฮลี่ย์จะปฏิเสธการปลอบใจและความรักจากน้องหมามาร์ลี่ย์อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่น้องหมามาร์ลี่ย์กลับยังยืนยันที่จะทำแบบเดิมซ้ำอีกเรื่อยๆ อย่างไม่ท้อถอย.. จนในที่สุดน้องหมามาร์ลี่ย์ก็ตัดสินใจกระโดดเอาตัวของเขาขึ้นไปพาดบนตักของเฮลี่ย์ไว้ เพื่อโอบกอดคุณแม่ที่เขารัก แล้วยังช่วยเช็ดน้ำตาคุณแม่ด้วยลิ้นของเขาด้วย ในขณะนั้นเองอาการของเฮลีย์ก็เริ่มสงบลง เธอจึงเข้ามากอดมาร์ลี่ย์เอาไว้พร้อมกับร้องไห้... เฮลีย์ได้เห็นแล้วว่าน้องหมามาร์ลี่ย์รักและต้องการเธอมากแค่ไหน เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ ซึ่งนั่นก็คงไม่ดีแน่ๆ ถ้าเธอยังทำให้คนที่ต้องการและรักเธอเป็นห่วงรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้...
.
สิ่งที่น้องหมามาร์ลี่ย์ทำย้ำเตือนให้เฮลีย์เข้าใจว่าเธอไม่ได้อยู่ลำพัง ยังมีคนที่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ พร้อมโอบกอดและปลอบใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แววตาที่ไร้เดียงสาของน้องหมามาร์ลี่ย์กำลังเยียวยาหัวใจที่เจ็บปวดของเฮลีย์...
แม่เป็นอะไรครับจับมือผมไว้นะ...
.
ไม่เป็นไรนะครับแม่ผมอยู่ตรงนี้แล้ว และจะไม่ไปไหนด้วย...
.
ผมรักแม่มากนะครับ...
.
หลังจากที่คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่...มีผู้ใช้งานจำนวนมากจากทั่วโลกเข้ามาให้กำลังใจกับเฮลี่ย์ พวกเขาส่งกำลังใจให้กับเธอหวังให้อาการที่เกิดขึ้นจากโรคนั้นดีขึ้น นอกจากนั้นผู้ใช้งานอีกหลายคนยังแสดงความคิดเห็นชื่นชมในตัวมาร์ลี่ย์ด้วยว่า เขาเป็นน้องหมาที่ฉลาด แสนรู้ อยู่เคียงข้างคุณแม่ของเขาให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายและยากลำบากมาได้ทุกๆ ครั้ง....
.
เฮย์ลี่ย์และมาร์ลี่ย์ กำลังพยายามบอกให้กับผู้คนอีกนับไม่ถ้วนให้เข้าใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่นั้นเป็นมากกว่าสถานะ "เจ้านาย" กับ "สัตว์เลี้ยง" แต่ทว่าสำคัญมาก มากกว่าคำว่าครอบครัวด้วยซ้ำ หากเฮย์ลี่ย์ปราศจากมาร์ลี่ย์แล้ว วันนี้เธอคงยังต้องเผชิญกับความทุกข์ใจจมอยู่กับความเศร้าหมองลำพังในโลกมืดๆ ที่ไม่มีใคร ที่เต็มไปด้วยปัญหา ความหวาดกลัว สิ้นหวังและเสียงร้องไห้ของตัวเอง มันเป็นโลกที่โหดร้ายที่ไม่มีใครอยากจะเข้าไปซึ่งเป็นผลจากโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น... วันนี้มาร์ลี่ย์เป็นหัวใจดวงน้อยที่ส่องสว่างนำทางช่วยทำให้เฮย์ลี่ย์คุณแม่ของเขามีสติและมองเห็นความสุข สะบัดให้เธอหลุดออกมาจะโลกที่โหดร้ายที่ลำพังนั้นในทุกๆ ครั้งที่เธอเผลอตัวกลับเข้าไป
.
นี่แหละเป็นเหตุผลว่าทำไหมคนที่รักน้องหมาถึงรักน้องหมาของพวกเขามาก พวกเขาไม่ใช่เพียงแค่สัตว์หนึ่งชีวิตที่ไร้หัวใจ ไร้ค่าแต่พวกเขาเป็นมากกว่านั้น และสำหรับบ้างคนแล้วก็มีค่ามากเหลือเกิน...ไม่ผิดที่พวกเขาจะทุ่มเทให้ความสำคัญมอบความรักให้กับน้องหมาที่รักมากเป็นพิเศษ....
.
น้องหมาพร้อมที่จะรัก ซื่อสัตย์ อยู่เคียงข้างคนที่เขารักได้ทุกๆ ช่วงเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหนในสังคมหรือแม้กระทั่งในความรู้สึกแย่ๆ ของคุณก็ตาม.... ขอบคุณเฮย์ลี่ย์ มาร์ตินที่กล้าเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัว เชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้อีกหลายคนมีกำลังใจ ลุกขึ้นต่อสู้กับเรื่องร้ายๆ ได้ ด็อกคลิปขอเป็นกำลังใจให้กับเฮย์ลี่ย์และใครก็ตามที่กำลังเผชิญกับเรื่องแย่ๆ จงเชื่อมั่นในความดีและให้ความสำคัญกับคนที่รักและปรารถนาดีกับเราให้มากๆ พลังความรักที่ดีเหล่านั้นแหละที่จะช่วยผลักดันให้ผ่านพ้นเรื่องแย่ๆ พบเจอกับเรื่องราวดีๆ ในวันพรุ่งนี้ได้แน่นอนครับ สู้ๆ
รับชมคลิป
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
โรคออทิสซึม หรือ โรคออทิสติก เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมองที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติ 3 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ ด้านสังคม ด้านภาษา และเกิดพฤติกรรมซ้ำ ๆ โดยสามารถสังเกตพบได้ก่อนอายุ 3 ขวบ หากพบลักษณะที่น่าสงสัยควรเข้ารับการคัดกรองโรค เพื่อให้เด็กได้รับการส่งเสริมพัฒนาการที่บกพร่อง และปรับพฤติกรรมตั้งแต่อายุน้อยกว่า 1 ปีอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่หายขาดแต่เด็กจะมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ดีขึ้น ช่วยเหลือตนเองได้ เข้าโรงเรียนได้ตามวัย
.
โรคแพนิค คือ ภาวะตื่นตระหนกต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งโรคนี้แตกต่างจากอาการหวาดกลัวหรือกังวลทั่วไป เนื่องจากผู้ป่วยจะเกิดอาการแพนิค (Panic Attacks) หรือหวาดกลัวอย่างรุนแรง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เผชิญหน้าหรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
.
อาการแพนิคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคแพนิครู้สึกกลัวและละอาย เนื่องจากไม่สามารถควบคุมตัวเองหรือดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งและพบได้มากแต่คนทั่วไปมักไม่ค่อยรู้จัก แม้กระทั่งเมื่อเป็นโรค ผู้ป่วยหรือคนใกล้ชิดอาจไม่ทราบว่าอาการที่ผู้ป่วยแสดงออกนั้นเป็นอาการของโรคแพนิค
.
โรคแพนิคเกิดจากฮอร์โมนลดกะทันหัน ทำให้สารสื่อในสมองผิดปกติคล้ายกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลประสาททำงานผิดพลาด สมองรวน ทำให้สมองหลั่งสารตื่นตระหนกออกมา หลังอาการแพนิคสงบลง ผู้ป่วยมักรู้สึกอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรงและกังวลว่าอาการจะกลับมากำเริบอีก
.
หากเพื่อนๆ ชาวด็อกคลิป มีประสบการณ์พบเจอเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับน้องหมาที่ทำให้เราอมยิ้มตาม หรือซาบซึ้งใจ อย่าลืมแวะมาเล่าและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวด็อกคลิปให้ฟังกันบ้างนะครับ ผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้หรือในกลุ่มด็อกคลิปวิลเลจ (Dog's Clip Village) ก็ได้นะครับ มาเป็นชาวด็อกคลิปวิลเลจ มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Inspiremore, AdventuresOfMarley, Hayley Martin, Dogspotting Society, ประชาสัมพันธ์กรมสุขภาพจิต, โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.