“แซมป์สัน” (Sampson) เป็นน้องหมาบริการสายพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวแรกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใน "ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์" หรือ "ห้องแล็บ" ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ เมืองเออร์แบนา รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ แซมป์สันไม่ได้แค่เข้าไปในห้องแล็บเพียงหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ทว่าเขาสามารถเข้าไปที่นั่นได้ตามที่ต้องการแต่ทว่าทุกครั้งก็ต้องมี “โจอี้ แรมป์” (Joey Ramp) ผู้ปกครองหรือคุณแม่วัย 56 ปีของเขาซึ่งเป็นนักประสาทวิทยาคอยดูแลอยู่ด้วยเสมอด้วยเช่นกัน
.
รายงานจากนิตยสาร People ระบุว่า ก่อนหน้านี้โจอี้เป็นอดีตครูฝึกม้าที่โชคร้าย เธอประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจากการขี่ม้าเมื่อช่วงปี 2549 ซึ่งเป็นเหตุทำให้กระดูกของเธอ 23 ชิ้นหัก ระบบประสาทซีกซ้ายได้รับความเสียหายถาวร รวมถึงเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้าก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้โจอี้ต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่นานหลายเดือนกระทั่งอาการค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับจนแพทย์อนุญาตให้เธอกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ แต่เนื่องด้วยปัญหาด้านระบบประสาทจึงทำให้โจอี้ต้องการน้องหมาบริการอย่างแซมป์สันเพื่อช่วยให้กิจวัตรประจำวันของเธอสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ
.
แทนที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาแต่โจอี้กลับเลือกที่จะสู้และเดินหน้าต่อ เธอไม่ยอมให้ร่างกายที่พิการเป็นอุปสรรคในการมีชีวิตและเลือกที่จะใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายโดยสมัครเข้าไปเป็นนักศึกษาสาขาวิชาสมองและประสาทวิทยา ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก็ทำให้เธอสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีและโทในสาขาประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) และปัจจุบันเธอก็กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกด้วย
.
อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด ในระหว่างที่โจอี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีเธอจำเป็นต้องทำการทดสอบ ทำงานวิจัยและฝึกงานในห้องแล็บ ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่ได้คายไม่ออกเนื่องจากห้องแล็บเป็นเขตปลอดน้องหมา โจอี้จึงต้องอดทนอยู่ในห้องแล็บโดยปราศจากน้องหมาบริการซึ่งตามปกติแล้วจะอยู่ข้างกายเธอแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามโจอี้ก็ไม่ได้ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใหญ่ที่เกิดขึ้น เธอไม่ท้อและไม่คิดจะล้มเลิกการเรียน แต่ก็ไม่เคยหยุดคิดที่จะหาทางพยายามทำให้แซมป์สันสามารถเดินเข้าไปในห้องแล็บกับเธอ
.
หลังจากที่ต้องเผชิญปัญหาที่ยากจะปฎิเสธ โจอี้จึงเริ่มฝึกให้แซมป์สันสวมชุด PPE ( Personal Protective Equipment ) หรือ ชุดป้องกันเชื้อโรคและลดโอกาสติดเชื้อเต็มรูปแบบ รวมทั้งสวมแว่นตาและรองเท้าด้วย! ทั้งหมดนี้เพื่อให้แซมป์สันสะอาดและปลอดภัยเมื่อต้องติดตามเข้าไปอยู่ในห้องแล็บกับเธอ
.
โจอี้ใช้เวลาฝึกแซมป์สันนานกว่า 9 เดือน แน่นอนว่าไม่ง่ายเลยแต่ระยะเวลาก็ทำให้แซมป์สันเริ่มชินกับการสวมชุด PPE เต็มรูปแบบ นอกจากข้อปฎิบัติในเรื่องความสะอาดแล้ว แซมป์สันยังต้องเรียนรู้วิธีปฏิบัติตัวขณะอยู่ในห้องแล็บด้วยเช่นการนั่งรออยู่บนแผ่นยางรองนอน ไม่วิ่งเล่นบนทางเดินเป็นต้น แน่นอนแซมป์สันทำสำเร็จจนได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ห้องแล็บเพื่อติดตามเข้าไปช่วยเหลือคุณแม่ของเขา
.
“ ถ้าฉันทำของหล่นบนพื้นในห้องแล็บ เขาจะเข้ามาอยู่ข้างๆ ฉันเพื่อช่วยเป็นที่ค้ำยันให้ฉันสามารถคุกเข่าหยิบของและลุกขึ้นยืนอีกครั้งได้”
โจอี้กล่าว
.
“เขาได้รับการฝึกฝนให้คุ้นชินกับการอบน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเดินเข้าห้องแล็บ ฝึกให้ไม่คาบสิ่งของใด ๆ ที่ตกลงบนพื้นเข้าปากและฝึกให้สามารถนั่งรอนานหลายชั่วโมงได้”
โจอี้กล่าว
.
โจอี้รู้ดีว่าผู้คนกำลังให้ความสนใจกับความน่ารักของแซมป์สันเมื่อเขาสวมชุด PPE ที่ดูแปลกตาซึ่งเธอก็คิดว่าเขาดูน่ารักมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามเธอหวังว่าผู้คนจะเห็นความสำคัญในมุมอื่นที่ซ่อนอยู่อย่างเช่น น้องหมาบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยทำให้ชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้พิการในสายงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น เธอต้องการให้ผู้คนยอมเปิดใจ ลดข้อจำกัดและอนุญาตให้เหล่าน้องหมาบริการสามารถติดตามไปดูแลนายรักของพวกเขาได้ โดยเฉพาะในห้องแล็บ นอกจากนี้แล้วโจอี้ยังอธิบายเพิ่มเติมว่าผู้คนต้องตระหนักว่าน้องหมาบริการที่น่ารักเหล่านี้ล้วนแล้วต้องผ่านการฝึกฝน บทเรียนต่าง ๆ มามากมาย ซึ่งพวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะสำเร็จหลักสูตรกระทั่งออกมาทำหน้าที่ช่วยเหลือนายรักของพวกเขาได้อย่างที่เห็น
.
นอกจากงานประจำด้านประสาทวิทยาที่ทำอยู่แล้ว โจอี้ยังแบ่งเวลาว่างส่วนหนึ่งเพื่อช่วยฝึกน้องหมาบริการตัวอื่น ๆ ให้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในห้องแล็บแบบเดียวกับแซมป์สันด้วย โจอี้หวังว่าน้องหมาบริการเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ที่มีความบกพร่องเช่นเดียวกับเธอและสามารถติดตามเข้าไปช่วยเหลือนายรักของพวกเขาในห้องแล็บได้
.
ต้องขอบคุณโจอี้ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคใหญ่หลายครั้งตลอดทั้งชีวิต เธอพยายามจนสามารถทำงานที่เธอรักได้สำเร็จ โดยมีน้องหมาบริการอย่างแซมป์สันคอยอยู่เคียงข้าง อีกทั้งยังมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อน ๆ นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ให้สามารถพาน้องหมาของพวกเขาเข้าไปทำงานในห้องแล็บแบบเดียวกับเธอด้วย
.
โจอี้กำลังพยายามสร้างการยอมรับ วิธีการและแนวทางใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในสังคม เพื่อให้เหล่าน้องหมาได้รับการยอมรับและถูกปฏิบัติอย่างเหมาะสม หวังให้ผู้พิการได้รับสิทธิ์และการสนับสนุนจากรัฐตามที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะผู้พิการที่ต้องทำงานในแล็บ เธอคิดว่าข้อกำจัดต่าง ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
.
รับชมคลิปวิดีโอได้ที่ด้านล่าง
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.