เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 ที่ผ่านมาเป็นวันครอบ 110 ปี นับตั้งแต่เรือไททานิกหรืออีกหนึ่งฉายาที่หลายคนรู้จักคือ “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้ดำดิ่งลงสู่พื้นมหาสมุทรในการเดินทางเที่ยวแรก เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 แต่คุณเคยรู้หรือไม่ว่าบนเรื่องไททานิกมีน้องหมา น้องแมวร่วมเดินทางไปด้วยอย่างน้อย 12 ตัว...
.
ข้อสันนิษฐานในหมู่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์เรือไททานิกได้กล่าวว่า บนเรือไททานิกมีน้องหมา น้องแมวจำนวนมากเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางด้วย แต่เนื่องจากใบบันทึกรายการสินค้าบนเรือสูญหาย จึงไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัดว่ามีน้องหมา น้องแมวทั้งหมดมีจำนวนกี่ตัวกันแน่ จากบันทึกของลูกเรือไททานิกรายหนึ่งที่รอดชีวิตได้กล่าวว่า บนเรือไททานิกมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยมแม้กระทั่งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับน้องหมาด้วย...
.
การตกแต่งภายในเรือไททานิก
.
ในขณะที่ทั่วโลกจดจำและรำลึกถึงผู้คนที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เราอยากจะขอใช้เวลาตรงนี้สักเล็กน้อยเพื่อให้เกียรติ ร่วมรำลึกถึงการสูญเสีย รักแท้ที่บริสุทธิ์ ความเสียสละและความผูกพันระหว่างน้องหมา น้องแมวกับเหล่าผู้ปกครองและคนที่พวกเขารักที่ต่างก็ต้องจากโลกนี้ไปบนเรือไททานิกด้วยเช่นกัน...
เอ็ดเวิร์ด สมิธ กัปตันเรือไททานิกและน้องหมาที่คาดว่าเขาน่าจะเป็นเจ้าของ
.
ตามรายงานของเว็บไซต์ Examiner มีการยืนยันด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และเอกสารประกอบการเดินทางของผู้โดยสารเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีน้องหมาอยู่บนเรือไททานิกอย่างน้อย 12 ตัว และมีน้องหมาเพียง 3 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต... โดย 2 ตัวเป็นน้องหมาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน อีกหนึ่งตัวเป็นน้องหมาสายพันธุ์ปักกิ่งที่ผู้ปกครองของเขาได้เสียสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือเขาเอาไว้โดยการซุกเขาเอาไว้ในผ้าห่มเพื่อให้เขารอดจากความหนาวเย็น...
สามน้องหมาผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมเรือไททานิกดำดิ่งสู่พื้นมหาสมุทร
.
หนึ่งในเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ “แอน เอลิซาเบธ อิสฮาม” (Ann Elizabeth Isham) หญิงอายุ 50 ปี เธอได้เดินทางมาพร้อมกับน้องหมาเกรทเดนตัวโตที่เธอรักมาก ทุกวันแอนจะเดินไปเยี่ยมน้องหมาที่คอกและเล่นกับเขา จนกระทั่งช่วงเวลาแห่งฝันร้ายได้เริ่มต้นขึ้น ทันทีที่แอนรับรู้ก็ไม่รีบวิ่งไปช่วยน้องหมาของเธอและรีบวิ่งไปที่เรือชูชีพทันที แต่ลูกเรือกลับปฏิเสธไม่ยอมให้น้องหมาของเธอขึ้นเรือชูชีพไปด้วย... เมื่อน้องหมาไม่ได้ไปด้วย แอนจึงปฏิเสธที่จะขึ้นเรือชูชีพไปกับพวกเขา แอนไม่อาจจะยอมทำใจทิ้งน้องหมาที่เธอรักเอาไว้บนเรือที่กำลังจะจมได้ หลังจากนั้นหลายวันต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างของแอนนอนกอดน้องหมาของเธอเอาไว้แน่นกลางทะเลที่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง... มันเป็นภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด!
น้องหมาตัวที่ 3 นับจากซ้ายมือคือน้องหมาของแอน
.
ภาพจำลองขณะเรือไททานิกกำลังจมดิ่งสู่ท้องทะเล
.
สำหรับเรือไททานิกแล้ว มีเพียงผู้โดยสารชั้นหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้พาน้องหมาขึ้นมาอยู่บนห้องพักได้ “เฮเลน บิชอป” (Helen Bishop) ผู้ปกครองของ “โฟร์-โฟร์” น้องหมาสายพันธุ์พุดเดิ้ลทอยคือหนึ่งในนั้น
เฮเลน บิชอป
.
เฮเลน บิชอป หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากไททานิกได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า โฟร์-โฟร์ พยายามใช้ปากกัดชุดของเธอเอาไว้แน่น ในตอนที่เธอจำใจต้องทิ้งเขาเอาไว้ในห้องตอนที่กำลังพยายามจะหนีเอาตัวรอด
.
“การสูญเสียโฟร์-โฟร์ทำให้สภาพจิตใจของฉันย่ำแย่มากหลังจากที่รอดชีวิตมาได้ ฉันไม่มีวันลืมภาพนั้นเลย ภาพที่เขาเข้ามากัดชุดเพื่อพยายามรั้งและอ้อนวอนไม่ให้ฉันทิ้งเขาไป เขาอยากจะไปกับฉันด้วย”
เฮเลนกล่าวทั้งน้ำตา
.
เฮเลนน่าสงสารมาก เธอมีชีวิตรอด... แต่ทว่าเหตุการณ์ในวันนั้นก็ได้สร้างแผลเป็นเอาไว้ในหัวใจของเธอ ความรู้สึกในวันนั้นมักจะย้อนกลับมาทำให้เธอรู้สึกเศร้าและเสียใจอยู่เสมอ...
.
นอกจากน้องหมาแล้วบนเรือไททานิกยังมีน้องแมวด้วย ในสมัยก่อนเวลาออกเรือ กะลาสีจะเลี้ยงน้องแมวเอาไว้บนเรือด้วย เพื่อให้พวกเขาช่วยวิ่งไล่จับหนูและเพื่อเป็นความสุขเล็กๆ ให้กับลูกเรือเวลาที่พวกเขาต้องห่างไกลบ้าน บนเรือไททานิกก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน น้องแมวตัวนั้นเธอมีชื่อว่า “เจนนี่” (Jenny) เธอน่ารักและเป็นน้องแมวที่สร้างความสุขให้กับเหล่ากะลาสีเสมอ ไว้คราวหน้าด็อกคลิปจะเรื่องราวน้องแมวเจนนี่มาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ ขอเก็บเอาไว้ก่อนเพราะเรื่องราวของเธอมีรายละเอียดทั้งน่ารัก สุขและเศร้า เราคงต้องมีพื้นที่เล่าเรื่องของเธอมากกว่านี้ครับ
.
การจมดิ่งสู้พื้นสมุทรของเรือไททานิก ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเรือเดินสมุทรขนาดยักษ์ที่จะไม่มีวันจม... แต่ทว่ามนุษย์ก็ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ในที่สุดสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกินคาดคิด พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้... ด้วยเหตุจากการประสานงานหรือโชคร้ายก็สุดที่จะหาข้อสรุปได้...
ซากเรือไททานิกในปัจจุบัน
.
คงเป็นเรื่องยากนะครับหากจะให้จินตนาการว่าจะเป็นเช่นไรหากต้องเป็นส่วนหนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่คงยากยิ่งกว่าหากเป็นคนรักสัตว์มีสัตว์เลี้ยงข้างกายเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งในชีวิตและครอบครัว เมื่อเกิดเหตุก็ถูกต้อนให้เข้าสู่สถานการณ์วิกฤติอย่างไม่มีทางเลือกต้องเร่งตัดสินใจว่าจะยอมเดินจากสัตว์เลี้ยงสุดที่รักเพื่อให้ชีวิตรอดมีลมหายใจอยู่ต่อไปแต่ปราศจากน้องหมาสุดรักตลอดกาล หรือจะเลือกไม่วิ่งหนีและอยู่เคียงข้างน้องหมาสุดรักแม้ต้องเผชิญฝันร้ายขณะเรือกำลังเริ่มจมลงสู่มหาสมุทรที่หนาวเย็นเรื่อยๆ ... คุณจะเลือกแบบไหน คุณจะทำแบบนั้นจริงๆ ไหม? เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากบีบหัวใจเหลือเกิน...
.
รับชมคลิป
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
