“เจส คริสตอฟเฟอร์” (Jess Christoffers) คุณแม่มือใหม่จากเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยนั่งคิดเล่นๆ ว่า ถ้าวันหนึ่งเธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาน้องหมาที่เลี้ยงเอาไว้จะสามารถรับรู้ได้หรือไม่ว่าเธอได้ตั้งท้องกำลังจะกลายเป็นคุณแม่ อย่างที่น้องหมาหลายๆ ตัวของบรรดาคุณแม่ที่รักน้องหมามักจะเจอเรื่องแปลกๆ แบบนี้... และเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา เจสก็ได้เปิดเผยว่าตอนนี้เธอได้รับคำตอบที่ทำให้รู้สึกดีอย่างที่เคยได้ตั้งคำถามกับตัวเองเล่นๆ ไว้แล้วล่ะ!
เจส และ สามี
.
ดิโอจี และ ร็อกกี้
.
เมื่อท้องของเจสโตเริ่มขึ้นเรื่อยๆ “ร็อกกี้” (Rocky) และ “ดิโอจี” (Diogee) สมาชิกสี่ขาในบ้านของเธอก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนไป พวกเขามักจะใช้เวลาตลอดทั้งวันไปกับการนอนอยู่ข้างๆ เธอ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับรู้แล้วว่าเจสกำลังตั้งท้องและกำลังต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษขึ้นด้วย...
.
“พวกเขารับรู้ได้ว่าฉันตั้งท้องจริงๆ ฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพวกเขาเลยนะ ขณะที่ท้องของฉันโตมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็พยายามที่จะได้อยู่ใกล้และไม่ยอมห่างฉันไปไหนเลย พวกเขาชอบเอาหัวมานอนหนุนท้องของฉันอยู่บ่อยๆ ด้วย”
เจสกล่าว
.
แม่คร้าบบบบบบ...ขออ้อนหน่อยยย เค้าอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนแม่นะ
.
เค้าของอ้อนด้วย... ไม่เหงานะผมอยู่ข้างๆ แล้ว
.
ในตอนแรกดิโอจีเป็นน้องหมาเพียงหนึ่งเดียวของบ้าน แต่หลังจากที่เจสรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องและต้องให้เวลาดูแลตัวเองมากขึ้น เธอจึงไม่มีเวลาให้กับดิโอจีมากเท่ากับเมื่อก่อนหน้านี้... จนเจสเริ่มกังวลใจว่าดิโอจีจะรู้สึกเหงาเกินไปเธอจึงตัดสินใจรับร็อกกี้น้องหมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ในละแวกบ้านของเธอมาอยู่เป็นเพื่อนดิโอจีในเวลาต่อมา...
.
“ฉันตัดสินใจรับอุปการะร็อกกี้ เพราะกลัวว่าดิโอจีจะเหงา ฉันอยากให้เขาทั้งคู่อยู่เป็นเพื่อนกัน ดิโอจีจะไม่เหงาจนเกินไปในตอนที่ฉันไม่ได้พาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือเล่นเกมสนุกๆ เหมือนอย่างเคย ขณะที่ฉันกำลังตั้งท้องต้องระมัดระวังตัวเองเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย”
เจสกล่าว
.
แต่แทนที่ดิโอจีจะรู้สึกสนุกและหากิจกรรมอื่นๆ เล่นกันเมื่อได้มีสมาชิกใหม่อย่างร็อกกี้เพิ่มเข้ามาในบ้าน เขากลับชวนให้ร็อกกี้มาช่วยกันดูแลและปกป้องคุณแม่เจสตลอดทั้งวันอย่างที่เขาเคยทำมาก่อนหน้านี้...
.
“มันผิดไปจากที่ฉันคิดเอาไว้เลย ดิโอจีไม่ออกไปวิ่งเล่นกับร็อกกี้แต่พวกเขากลับชวนกันมานั่งเฝ้า นอนเฝ้าและเอาหัวมาหนุนที่ท้องของฉันเหมือนเดิมเลย ปกติแล้วเมื่อสามีของฉันกลับมาถึงบ้าน ดิโอจีกับร็อกกี้จะรีบวิ่งไปต้อนรับ แต่ในตอนนั้นพวกเขานอนนิ่งอยู่ข้างๆ ฉัน พวกเขาคงเป็นห่วงฉันมากเมื่อเห็นท้องของฉันเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ”
เจสกล่าว
.
ดิโอจีและร็อกกี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันหมดไปกับการนอนเฝ้าคุณแม่เจส พวกเขาจะคอยระวังอยู่เสมอเวลาที่เจสจะเดินไปไหน และเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้บ้าน พวกเขาจะเห่าไล่อย่างหนักหน่วง พวกเขาเป็นเสมือนผู้รักษาความปลอดภัยของเธอ
.
“ดิโอจีหวงบ้านมากขึ้นกว่าเดิมมากตั้งแต่ฉันตั้งท้อง เวลามีคนแปลกหน้าเช่นคนส่งของเข้ามาใกล้บ้านเขาจะรีบวิ่งไปเห่าไล่ ”
เจสกล่าว
.
อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์พี่หมาทั้งสองจะได้พบหน้ากับหนูน้อยสมาชิกใหม่ของบ้าน เจสรู้ดีว่าดิโอจีและร็อกกี้จะปกป้องลูกสุดที่รักของเธอด้วยความรักและความมุ่งมั่นเท่าที่พวกเขาจะมอบให้เธอได้
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
จมูกของน้องหมานั้นมหัศจรรย์มากเลยนะครับ จากข้อมูลผลการวิจัยที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าวด้านสุขภาพ Healthline ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า จมูกของน้องหมาสามารถดมกลิ่นได้ดีกว่ามนุษย์ 1,000 ถึง 10,000 เท่า และพวกเขายังมีปุ่มรับกลิ่นมากกว่า 220 ล้านปุ่ม ซึ่งมนุษย์อย่างเราๆ มีเพียงแค่ 5 ล้านปุ่มเท่านั้นนะครับ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่น้องหมาจะสามารถดมกลิ่นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองของพวกเขาได้ เช่น ระดับของฮอร์โมนที่สูงขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์อย่างฮอร์โมน chorionic gonadotropin hormon (hCG) ที่จะผลิตเฉพาะในระหว่างที่มีการตั้งครรภ์และมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยกระตุ้นร่างกายให้เข้าสู่กระบวนการอนุบาลไข่ที่เพิ่งถูกปฏิสนธิ
.
ฉะนั้นในช่วงที่คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่น้องหมาอาจจะให้ความสนใจในตัวคุณมากกว่าปกติ เนื่องจากน้องหมาสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของคุณนั้นเอง
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
