พนักงานขับรถประจำทางช่วยน้องหมายิ้มหวานผู้หลงทางให้ได้กลับบ้านอีกครั้ง

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาขณะที่ “ฮิชัม เบาจ์ลัล” (Hicham Boujlal) พนักงานขับรถประจำทางในเมืองซารามากิ (Saramäki) ประเทศฟินแลนด์ กำลังขับรถเที่ยวสุดท้ายก่อนจะขับรถกลับเข้าอู่รถและเลิกงาน เขาก็พบกับผู้โดยสารคนสุดท้ายที่กำลังเดินเตร่อยู่ลำพังบริเวณข้างถนน...แต่ผู้โดยสารที่เขาหมายถึงกลับไม่ใช่มนุษย์น่ะสิ
.
ระหว่างทางขณะที่ขับรถกลับไปยังอู่รถ ฮิชัมก็สังเกตเห็นน้องหมาขนปุยสีน้ำตาลตัวโต คาดว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดผสมกำลังเดินเตร่อยู่บริเวณข้างถนนที่มืดมิดเพียงลำพัง เป็นไปได้มากว่าน้องหมาอาจจะกำลังหลงทาง  ฮิชัมเกิดความสงสัยและเป็นห่วงน้องหมาเกรงว่าอันตรายบนท้องถนนอาจจะทำให้น้องหมาไม่ปลอดภัย อีกทั้งในบริเวณนั้นไม่มีผู้คนที่จะให้ความช่วยเหลือกับเขาเลยด้วย  ฮิชัมจึงตัดสินใจชะลอความเร็วรถลงแล้วพยายามขับรถเข้าไปใกล้ๆ น้องหมา ก่อนที่จะเปิดประตูรถออกเพื่อเชื้อเชิญให้น้องหมาขึ้นมาบนรถถึงแม้จะรู้ดีว่าจะไม่ได้รับเงินค่าโดยสารแน่ๆ และคงต้องเป็นภาระให้เสียเวลาแต่ทว่าฮิชัมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือน้องหมา
.

“น้องหมามีอาการลังเลใจก่อนที่จะเริ่มขยับตัวก้าวเท้าเดินขึ้นมาบนรถ ก่อนจะมานั่งลงข้างๆ ผม ผมประหลาดใจมากกับท่าทางที่ดูเป็นมิตรของเขา”
ฮิชัมกล่าว
.

Hicham Boujlal

โอเคไปส่งผมด้วยนะ...บ้านเดินหนีผม ตอนนี้ผมหาบ้านไม่เจอครับ!
.
บนรถประจำทางมีเก้าอี้ว่างๆ เรียงรายให้เขาเลือกนั่งได้ตามสะดวก แต่น้องหมาผู้มีรอยยิ้มเป็นมิตรกลับเลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ติดกับตำแหน่งคนขับที่ฮิชัมนั่งอยู่ น้องหมาคงรู้สึกอุ่นใจและสัมผัสได้ถึงความใจดีของชายแปลกหน้าคนนี้  ฮิชัมสำรวจดูปลอกคอที่น้องหมาสวมอยู่แต่ก็ไม่พบชื่อ ที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับผู้เป็นเจ้านายของน้องหมาอยู่เลย อิชัมจึงไม่รู้ว่าบ้านของน้องหมาอยู่ที่ไหนและจะพากลับบ้านอย่างไร ตอนนั้นอิชัมกำลังพยายามคิดแก้ปัญหาเพื่อพาเขากลับบ้านให้ได้  และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและลำบากกับการช่วยเหลือหลังจากนี้ฮิชัมจึงตัดสินใจพาน้องหมากลับไปที่อู่รถก่อนที่จะโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่นมารับตัวน้องหมาไป
.
ตลอดระยะเวลาที่ฮิชัมอยู่บนรถประจำทางกับน้องหมาผู้หลงทาง เขาสัมผัสได้ว่าน้องหมาต้องได้รับการดูแลมาอย่างดีแน่ๆ  เพราะมีท่าทีที่ดูฉลาดและแสนรู้มากๆ น้องหมาจะนั่งนิ่งๆ อยู่ข้างฮิชัม พรางชำเลืองมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกรถบ้างเป็นบางครั้ง แต่น้องหมาก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการรบกวนการทำงานของฮิชัมเลย ฮิชัมคิดว่าน้องหมาตัวนี้เหมาะมากที่จะมาเป็นเพื่อนร่วมทางของเขา

Hicham Boujlal

.
“เขาเป็นผู้โดยสารที่ดีมากๆ ”
ฮิชัมกล่าว
.
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงมารับตัวน้องหมาที่น่ารักตัวดังกล่าวกลับไปดูแลต่อที่ศูนย์ฯ พวกเขาได้ใช้เครื่องมือสแกนบนตัวน้องหมาเพื่อหาไมโครชิพที่ฝั่งอยู่บนตัวแล้วเปิดข้อมูลพาน้องหมากลับบ้านที่เคยจากมา  โชคดีที่เจ้าหน้าที่พบไมโครชิพทำให้เจ้าหน้าที่ได้หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับถึงผู้เป็นเจ้านายของน้องหมา  เจ้าหน้าที่ไม่รีรอเร่งติดต่อไปหาเจ้านายของน้องหมาเพื่อแจ้งข่าวให้รู้ว่าน้องหมาของพวกเขาปลอดภัยดีในความดูแลของศูนย์ฯ เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้านายของน้องหมาได้รับการติดต่อกลับพวกเขาดีใจมาก ก่อนที่จะอธิบายให้กับเจ้าหน้าที่ฯ ฟังว่าน้องหมาของพวกเขาเพิ่งจะหายตัวออกจากบ้านไปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ทุกคนในบ้านเป็นห่วงเขามากและได้พยายามออกตามหาเขาอยู่นานแต่ทว่ากลับไม่พบตัว จนกระทั่งได้รับแจ้งข่าวดีจากศูนย์ฯ
.
เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ได้เล่าเรื่องราวความโชคดีที่น้องหมาของพวกเขาได้รับน้ำใจจากอิชัมก่อนที่จะติดต่อมาที่ศูนย์ฯ  ครอบครัวของน้องหมารู้สึกขอบคุณฮิชัมมากที่ช่วยเหลือน้องหมาพวกเขาเอาไว้ จนทำให้พวกเขาได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้ากันอีกครั้ง
.
อย่างไรก็ตามการที่น้องหมาได้กลับบ้านอีกครั้งไม่ใช่เป็นเพียงเพราะได้รับความช่วยเหลือจากอิชันเท่านั้น แต่ประกอบกับความฉลาดของเขาด้วยที่รู้ว่ารถประจำทางจะสามารถพาเขากลับถึงบ้านได้ น้องหมาจึงได้ยอมกระโดดขึ้นรถมากับอิชันอย่างว่าง่าย...
.

“เขาเป็นน้องหมาที่ฉลาดและเป็นมิตรมากๆ เลย ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือเขาเอาไว้”
ฮิชัมกล่าวทิ้งท้าย

.

Hicham Boujlal

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.