น้องหมาตัวอ้วนหัวเสีย หลังถูกปล่อยทิ้งไว้บนรถ และนี่คือสิ่งที่เขาทำให้เจ้านายต้องรีบวิ่งกลับมาหา

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

เหตุการณ์ที่น่าขำขันนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 8 มกราคม 2563 ขณะที่ "สตีลลี วอน ฮอฟฟ์" (Steele von Hoff) นักปั่นจักรยานกำลังเดินเล่นบนท้องถนนในเมืองมอร์นิงตัน ทางต้องใต้ของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เสียงแตรที่ดังกึกก้องอยู่ทั่วบริเวณทำให้เขาเกิดสงสัยและเป็นห่วง  เพราะเสียงแตรนั้นทั้งดังและยาวนานคล้ายกับผู้ที่ทำให้เกิดเสียงกำลังอยู่ในอาการไม่พอใจหรือพยายามเรียกร้องความสนใจ อีกทั้งยังเป็นไปได้มากที่ใครคนนั้นอาจจะกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่...  สตีลลีเป็นพลเมืองดีจึงได้แสดงความมีน้ำใจเดินตามหารถต้นเสียงหวังให้ความช่วยเหลือ...

.

ไม่นานนักสตีลลีก็ได้พบกับรถคันสีเทาที่กำลังจอดอยู่บริเวณข้างถนน เสียงแตรยังคงดังออกมาจากรถคันดังกล่าวทำให้สตีลลีแน่ใจว่าคือเสียงแตรรถที่เขาได้ยินจนเกิดสงสัยก่อนหน้านี้  สตีลลีจ้องมองเข้าไปภายในรถคันดังกล่าวและพยายามสังเกตสถานการณ์เบื้องต้นให้แน่ใจก่อน  แต่เขากลับไม่พบมนุษย์คนใดแสดงตัวอยู่บนรถคันนั้นเลย  ทว่าเขากลับพบน้องหมาสายพันธุ์ผสมชาเป่ยที่กำลังนั่งทำหน้าเหี่ยวแล้วเหี่ยวอีก เหี่ยวจนบูด...แสดงอาการไม่พอใจอย่างหนักนั่งอยู่บนเบาะหน้าฝั่งคนขับ  น้องหมาหน้าเหี่ยวใช้อุ้งเท้าหน้ากระแทกแตรรถรัวๆ สลับกับการกระแทกแล้วแช่แบบยาวๆ เพื่อระบายอารมณ์และพยายามสื่อสารบอกใครบางคนให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจมากและหัวเสียสุดๆ ไปเลยล่ะ เป็นไปได้มากที่เป็นช่วงเวลาที่น้องหมากำลังรู้ตัวว่าถูกเจ้านายที่รักทอดทิ้งให้นั่งรอยู่บนรถ...และดูเหมือนว่าเขาใช้เวลาเพื่อรอมานานจนเบื่อเต็มทีแล้วล่ะตอนนี้

.

สตีลลีพบความกระจ่าง  เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า...และคงกำลังพึมพำกับตัวเองว่า "ไม่น่าเดินตามมาเล๊ย!" แท้จริงแล้วก็แค่น้องหมาหัวเสียผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้และเบื่อหน่ายกับการเป็นผู้รอคอยสุดๆ ต้องการลงไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายมากกว่าที่จะนั่งแช่อยู่บนรถนี่เองที่เป็นต้นเสียงจนทำให้เขาเกิดสงสัย...

Steele von Hoff

แต๊นๆ แต๊นๆ นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! 
.

Steele von Hoff

ยังอีก ยังไม่รีบมาอี๊ก! แบบนี้ต้องเจอแบบยาวๆ แต๊นๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่แน่ะ! คนใจร้าย!
.

น้องหมาขี้โมโหยังคงทำหน้าเหี่ยวนั่งกระแทกแตรอยู่อย่างนั้น...ขณะที่สายตาก็กำลังสอดส่องมองผ่านกระจกรถออกมา คล้ายกับกำลังมองหาใครบางคนอยู่ กระทั่งมีคุณลุงสวมเสื้อลายสีฟ้าแขนยาวเดินดุ่มๆ ด้วยอาการเร่งรีบที่กำลังมุ่งหน้ามาที่รถคันดังกล่าวจากอีกฝากของถนน  สตีลลีสันนิษฐานว่า คุณลุงคือเจ้านายของน้องหมาแน่ๆ 

Steele von Hoff

ดูหน้าพี่ด้วย...ไม่โอแล้วน่ะ เดี๋ยวทำหน้าตึงโชว์เลย 
.

Steele von Hoff

กว่าจะมา! เกือบเข้าเกียร์ขับกลับบ้านเองแล้ว! ถ้าเหยียบคันเร่งถึง โชคดีของพ่อที่หนูขาสั้น!
.

เมื่อเดินมาถึงที่รถคุณลุงคนดังกล่าวก็พูดกับน้องหมาทันทีทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้เปิดประตูรถว่า

“ฉันรู้แล้วน่า! ฉันมาถึงช้าแค่ 5 นาทีเอง”
น้องหมาหยุดกระแทกแตรรถทันทีที่เห็นคุณลุงยืนอยู่ข้างๆ รถ น้องหมาหันหน้าให้ความสนใจหันหน้าไปหาคุณลุงและพยายามตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณลุงกำลังพูด...

.

Steele von Hoff

.

คุณลุงเปิดประตูรถที่ไม่ได้ล็อกเอาไว้ให้กับน้องหมาที่กำลังอารมณ์เสียเดินลงมา น้องหมาชาเป่ยเดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่เบื่อโลกสุดๆ ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมให้อภัยเจ้านายง่ายๆ ที่ปล่อยให้ต้องรอนานและไม่ตรงเวลาแบบนี้ ถึงแม้คุณลุงจะไม่ได้ล็อกรถและเปิดกระจกทิ้งเอาไว้ให้แล้วก็ตาม น้องหมาชาเป่ยเดินเชิดหน้าไม่ยอมชายตามองเจ้านายของเขาเลยด้วยซ้ำขณะเดินลงจากรถแล้ว... ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้สตีลลีหลุดขำออกมาทันที...  เซอร์ไพรส์! เมื่อมีน้องหมาตัวสีดำอีกหนึ่งเดินตามหลังน้องหมาชาเป่ยลงมาจากรถด้วย..แต่ทว่าน้องหมาตัวสีดำกลับมีท่าทีที่ดูเรียบร้อยและนิ่งเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์ว่าไม่พอใจอะไรมากนัก ซึ่งผิดกับน้องหมาชาเป่ย...ที่ยังคงงอนทำหน้าเหี่ยวอยู่  โอ๋ๆ หยอกน่า...ปล่าวโกรธแล้วหน้าเหี่ยวซะหน่อย...แต่เขาเหี่ยวมาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ น่ารักออกเนอะ!

Steele von Hoff

อยากลงก็ลงมาเลยพ่อหนุ่ม... แต่พ่อขออย่างเดียว เดินกลับบ้านเองนะ
.

Steele von Hoff

มองไรครับ... ไม่เคยเห็นวัยรุ่นงอนไงชิ!
.

โชคดีที่สตีลลีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ตลกๆ เรียกเสียงหัวเราะนี้เอาไว้ได้ และเป็นโชคดีของผู้ใช้งานออนไลน์ที่สตีลลีไม่เก็บเอาเรื่องดังกล่าวไว้หัวเราะคนเดียว เขาโพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ ของน้องหมาตัวแสบทั้งสองตัวลงบน Instagram ส่วนตัวพร้อมกับเขียนข้อความว่า

.

“ผมก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน ตอนที่คุณแม่ของผมลงไปซื้อของโดยไม่ได้ให้ผมตามลงไปด้วย ผมประหลาดใจที่เขาไม่ได้ขับรถออกไปบนถนน”

.

Steele von Hoff

.

หลังจากที่คลิปน่ารักเรียกเสียงหัวเราะได้ถูกเผยแพร่ สำนักข่าว Dailymail ประเทศอังกฤษก็ได้ติดต่อสตีลลีเพื่อขอสัมภาษณ์ เขาให้คำจำกัดความสั้นๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “มันตลกดี” พร้อมอธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ คุณลุงคนดังกล่าวเดินลงจากรถยนต์ส่วนตัวเพื่อไปซื้อของในร้านแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับจุดที่จอดรถทิ้งเอาไว้แค่เพียงแค่ช่วงระยะเวลาไม่นานก่อนหน้าที่น้องหมาตัวแสบของเขาจะบีบแตรเสียงดังจนเขาเกิดตกใจและรีบวิ่งกลับมาที่รถ...

.

คลิปความน่ารักได้เผยแพร่ไปสู่ผู้คนบนโลกออนไลน์ซ้ำอีกครั้งผ่านสำนักข่าวชื่อดังจากทั่วโลก สมาชิกผู้ใช้งานออนไลน์จำนวนมากเข้ามารับชมและร่วมแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเช่น

.

“อย่าแค่รักน้องหมาของคุณอย่างเดียว แต่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในครอบครัวคุณด้วย”

.

“น้องหมาเก่งมากๆ ”

.

“มีใครบางคนกำลังโกรธเจ้านายอย่างหนักเลยล่ะ ฮ่าๆ ”

.

Steele von Hoff

.
แหม่...น้องหมาคงไม่พอใจมากๆ เลยล่ะเดินลงมาจากรถไม่แม้แต่จะชายตามองเจ้านายเลยสักนิด น้องหมาตัวแสบคงกำลังจะสอนบทเรียนให้กับเจ้านายว่าการไม่ตรงต่อเวลานั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นะ 5 นาทีก็ไม่อนุโลมซะด้วย เนี๊ยบจริงๆ นะเรา 
.
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะดูเป็นเรื่องตลก แต่อย่าลืมนะครับว่าการทิ้งให้น้องหมาไว้บนรถเพียงลำพังคือการพาน้องหมาที่เรารักเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่พร้อมจะทำให้ทรัพย์สินและชีวิตของน้องหมา รวมถึงคนรอบข้างเสียหายและตกอยู่ในอันตรายได้ ถ้าเลือกได้ก็ไม่ควรทำ... แต่หากมีความจำเป็นผู้เลี้ยงต้องพิจารณาให้แน่ใจก่อนว่าบนรถของคุณมีความปลอดภัยป้องกันเหตุการณ์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นมากพอได้จริงๆ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรเป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นนะครับ... รักจริงนะถึงได้เตือนให้ใส่ใจครับ ^^

รับชมคลิป

 

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.