บางครั้งการเฉลิมฉลองของมนุษย์ก็มักจะตามมาด้วยการจุดพลุ ดอกไม้ไฟเสียงดังอึกทึก แต่รู้หรือไม่ว่าขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับความงดงามมองแสง สีและเสียงที่เกิดขึ้นจากดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนนั้น ยังมีสัตว์อีกหลายชีวิตที่กำลังวิ่งแตกตื่นเข้าใจผิดคิดว่ามีภัยมาถึงตัวต้องรีบวิ่งหนีหาที่ซ่อนหลบภัยด้วยความหวาดกลัว...
.
น่าเศร้าที่หนึ่งในผู้รับเคราะห์จากการจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองของมนุษย์ก็คือ น้องหมาแก่ สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดผสม อายุ 17 ปีในวัยคุณปู่อย่าง “ร็อกกี้” (Rocky) เขาหายตัวออกจากบ้านในเมืองคอนเวย์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากตื่นตกใจกลัวเสียงพลุที่ดังสนั่นไปทั่วเมืองในวันชาติอเมริกัน...
.
หลังจากที่ร็อกกี้หายตัวไปได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ครอบครัวของเขาก็รู้ตัวและระดมกำลังออกตามหาแทบทั้งคืน แต่ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของร็อกกี้เลย...แต่ครอบครัวของเขายังไม่หมดหวัง ในวันรุ่งขึ้นพวกเขาช่วยกันออกตามหาร็อกกี้อีกครั้งในพื้นที่ละแวกใกล้ๆ บ้านด้วยความหวังว่าเขาอาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งและกำลังรอคอยให้ครอบครัวไปรับกลับ ร็อกกี้เป็นเหมือนคุณปู่ที่มีอายุมากทำให้ทักษะความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองน้อยลงไปตามสภาพร่างกายที่ร่วงโรย... น่าเศร้าเมื่อความพยายามของครอบครัวไม่เป็นผล หลังจากใช้เวลาตามหาอยู่นานก็ยังคงไร้วี่แววของร็อกกี้...
.
ไม่กี่วันหลังจากนั้น “เจค ฮิกกินส์”(Jake Higgins) ชายตัดไม้ก็ได้พบกับร็อกกี้โดยบังเอิญในป่าลึก ขณะที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปตัดไม้ในป่า ในตอนแรกที่พบเจคยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านั้นเป็นน้องหมาจริงๆ เพราะในป่าลึกไม่น่าจะมีน้องหมาบ้านเข้ามาเดินเล่นหรือใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ด้วยความสงสัยอยากรู้เจคจึงพยายามาเดินเข้าไปใกล้ๆ สัตว์แปลกหน้า จนกระทั่งเขาเดินไปประชิดตัวสัตว์แปลกหน้าที่ว่านั้น... ปฏิกิริยาตอบกลับทำให้เจคแน่ใจได้ว่าสัตว์แปลกหน้าคือน้องหมาแน่ๆ เพราะเขาไม่เดินหนีหรือแสดงท่าทางให้เห็นว่าจะพยายามจู่โจมเช่นศัตรูขณะกำลังเผชิญหน้ากับมนุษย์ เจคเดาว่าน้องหมาที่พบอาจจะพลัดหลงกับเจ้านาย หรือไม่ก็ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ในป่าแห่งนี้ แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามเจคจะไม่ยอมปล่อยให้น้องหมาแปลกหน้าอยู่ในป่าลำพังแบบนี้แน่นอน...
.
เจคพยายามเดินเข้าไปทำความรู้จักกับร็อกกี้ แต่ทว่าร็อกกี้กลับแสดงอาการหวาดกลัวไม่ยอมผูกมิตรด้วย อีกทั้งยังพยายามไล่เจคให้ออกไปไกลๆ ด้วย เจคไม่ยอมแพ้เมื่อไม่สามารถช่วยน้องหมาได้เองจึงติดต่อไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Conway Area Humane Society เพื่อขอความช่วยเหลือ...
.
หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมง “เดบร้า คาเมรอน”(Debra Cameron) ผู้จัดการของ Conway Area Humane Society และ “เควิน อาอาร์นน์”(Kevin Ahearn) หนึ่งในอาสามัครขององค์กรก็เดินทางมาถึงบริเวณที่ร็อกกี้อยู่ เจค เดบร้าและเควินช่วยกันจับตัวร็อกกี้เอาไว้ ก่อนจะอุ้มเขาออกมาจากที่นั่น ในตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าร็อกกี้เข้ามาอยู่ในป่าลำพังแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว หรือเข้าไปอยู่ที่นั้นได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาตั้งใจจะช่วยร็อกกี้ให้กลับไปเจอเจ้านายของเขาให้ได้อีกครั้ง...
เควินและเดบร้ากำลังเดินทางเข้าไปหาร็อกกี้และเจคในป่า เส้นทางไม่ง่ายเลย
.
เควินกำลังพยายามเข้าไปทำความรู้จักและผูกมิตรกับร็อกกี้
.
ในที่สุดทั้งคู่ก็เป็นมิตรกันได้...เควินอุ้มร็อกกี้ออกมาจากป่า
.
เดบร้าและเควิน พาตัวร็อกกี้กลับมาดูแลต่อที่องค์กร เขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ฯ หลังจากการตรวจสุขภาพพบว่าร็อกกี้กำลังป่วยเป็นมะเร็งและเขาอาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นาน... เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบแบ่งปันเรื่องราวของร็อกกี้ลงบนหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจขององค์กร เพื่อประกาศตามหาครอบครัวของเขาและเร่งส่งตัวร็อกกี้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวในวาระสุดท้าย...ใช้ชีวิตที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุด...
.
โชคดีที่เพื่อนบ้านของครอบครัวร็อกกี้ได้เห็นโพสต์ดังกล่าวเข้าพอดี... เธอจึงได้รีบแจ้งให้ครอบครัวของร็อกกี้ทราบข่าวดีทันที... ครอบครัวของร็อกกี้ไม่รีรอรีบติดต่อไปที่องค์เพื่อขอรับตัวร็อกกี้กลับบ้านในเวลาต่อมา...
.
ร็อกกี้และคุณพ่อของเขาดีใจมากเมื่อได้กลับมาพบหน้ากัน คุณพ่อของร็อกกี้กล่าวขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนช่วยให้น้องหมาแก่ของเขาได้กลับมาอยู่กับครอบครัวได้อีกครั้งในช่วงสุดท้ายของชีวิต นอกจากจะกล่าวคำขอบคุณแล้ว คุณพ่อของร็อกกี้ยังบริจาคเงินจำนวนมากให้กับองค์กรด้วยเพื่อใช้เป็นทุนสำหรับการช่วยเหลือสัตว์ที่กำลังลำบากตัวอื่นๆ ต่อไปด้วย
.
วันนี้ร็อกกี้ได้กลับไปอยู่ในอ้อมกอดของครอบครัวที่เขารักได้ทันเวลา...หลังจากนี้ร็อกกี้จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าและมีความสุขที่สุดแล้วล่ะ...
.
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความโชคดีสุดๆ สำหรับร็อกกี้เพราะจากสถิติแล้วมีน้องหมาเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่มีโอกาสได้กลับบ้านหลังจากที่วิ่งหนีหายออกจากบ้านด้วยอาการตกใจกลัว หากวันนี้ร็อกกี้ไม่ได้เจอคนแปลกหน้านิสัยดี มีน้ำใจหลายคนช่วยเอาไว้ ร็อกกี้คงต้องอดอยากและจากไปอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังในป่า นั่นคงเป็นช่วงชีวิตสุดท้ายที่น่าเศร้าและหดหู่ใจที่สุด เชื่อว่าครอบครัวของร็อกกี้ก็คงจะรู้สึกเสียใจมากเช่นกันที่ไม่ได้ดูแลและกล่าวคำลาน้องหมาที่เขารักในวาระสุดท้าย
.
คุณพ่อของร็อกกี้ยังฝากถึงเจ้านายของน้องหมาทุกๆ คนด้วยว่าให้ระมัดระวังดูแลน้องหมาของคุณเอาไว้เป็นพิเศษด้วยในช่วงที่มีการจุดพลุ เพราะเสียงดังเหล่านั้นอาจจะทำให้น้องหมาที่รักของคุณตกใจกลัวจนวิ่งเตลิดหายออกจากบ้านไปแบบเดียวกับร็อกกี้ได้...
.
“ดอกไม้ไฟเป็นอะไรที่อันตรายต่อสัตว์เลี้ยงทุกๆ ตัวเลย แม้กระทั่งกับน้องหมามากประสบการณ์ชีวิตอย่างร็อกกี้”
คุณแม่ของร็อกกี้กล่าวทิ้งท้าย
.
รับชมวีดีโอ
.
คงไม่มีใครอยากเจอเรื่องร้ายๆ และเศร้าใจ ดังนั้นอย่าลืมนะครับช่วงเทศกาล หรือช่วงที่มีงานเฉลิมฉลองจุดพลุเสียงดัง ต้องหาวิธีป้องกันและระมัดระวังดูแลน้องหมาให้มากเป็นพิเศษด้วยนะครับ ปิดประตู หน้าต่างลงกลอนให้สนิทช่วยป้องกันเสียง ช่วยป้องกันน้องหมาวิ่งเตลิดออกนอกบ้าน นั่งนอนอยู่ใกล้ๆ น้องหมา กอดพวกเขาเอาไว้แน่นๆ ก็ช่วยทำให้น้องหมารู้สึกอุ่นใจคลายกังวลได้มากอีกวิธีเลยนะครับ ปลอกคอก็ต้องมีป้ายชื่อ เบอร์โทรห้อยเอาไว้เป็นการป้องกัน...หากวิ่งหนีหายออกจากบ้านจะได้มีโอกาสได้กลับบ้านเพิ่มขึ้นนะครับ...
.
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Weloveanimals, Conwayshelter, Conway Area Humane Society
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.