ในทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนดีน้อยปะปนกัน เช่นเดียวกับสังคมผู้ประกอบการฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อการค้า ฟาร์มหลายแห่งรู้คุณค่าของชีวิตถึงแม้จะรู้ดีว่าอาชีพตนคือการค้าชีวิต แต่หากใส่ใจดูแลสวัสดิภาพรักษาจริยธรรมและมนุษยธรรมหวังให้เหล่าสัตว์มีชีวิตที่ดีนั้นก็นับว่าเป็นจรรยาบรรณอันดีที่ผู้ประกอบการพึ่งมีซึ่งจะส่งผลให้เหล่าชีวิตสัตว์เกิดใหม่ในฟาร์มมีโอกาสได้รับความรักและการดูแลที่ดีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ใช่ว่าผู้ประกอบการทุกคนจะยึดมั่นถือเป็นหลักปฏิบัติเช่นเดียวกันหมด ผู้ประกอบการหลายคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนไร้จรรยาบรรณอันดี  คำนึงถึงเพียงต้นทุนและผลกำไรจากฟาร์ม ชีวิตสัตว์ถูกมองข้ามลดค่าเป็นเพียงสินค้าไร้หัวใจ นั่นจึงเป็นต้นเหตุที่นำมาซึ่งเรื่องราวน่าหดหู่ใจของเหล่าสัตว์ชีวิตเกิดใหม่ที่ต้องลืมตาดูโลกในฟาร์มมากมาย พวกเขาเลือกเกิดไม่ได้และทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับกับโชคชะตา

 

.

ชิชิ (Chici) เป็นน้องหมาสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เธออายุได้เกือบจะ 2 ปีแล้ว ( ปัจจุบันอายุ 4 ปี ) ชิชิเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่เติบโตขึ้นในฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อการค้าแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีผู้ประกอบการขาดซึ่งมนุษยธรรม จริยธรรมอันดี ตัวไหนสร้างกำไรได้ก็เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำ ส่วนตัวไหนที่โชคร้ายสร้างกำไรไม่ได้ เจ็บป่วยก็ถูกลดค่าเสมือนวัตถุดิบหรือสินค้าที่เสื่อมสภาพหาโอกาสสร้างกำไรได้ยาก  อีกทั้งยังเสี่ยงขาดทุนสร้างภาระ น้องหมาหลายตัวจึงไม่ได้รับโอกาสและถูกกำจัดทิ้ง ชิชิ ก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตที่โชคร้ายเธอล้มป่วยจนขาไม่สามารถใช้การได้อย่างเคยทำให้หมดโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อถูกตัดสินว่าเป็นสินค้าที่มีตำหนิ ไร้ค่า การกำจัดทิ้งเพื่อตัดปัญหาจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการแห่งนั้น

.

ชิชิ ถูกมัดเท้าทั้งสี่ติดกันด้วยสายไฟและถูกห่อด้วยถุงแน่นหนาอีกชั้นหนึ่งจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  เธอถูกโยนทิ้งขณะที่ยังมีลมหายใจในบริเวณกองขยะเขตการฆ่าน้องหมาน้องแมวซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลเล็กน้อยและเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศเกาหลีใต้เมื่อ 2-3 ปีก่อน

.

ชิชิ นอนคดคู้อยู่ภายในถุงที่มืดสนิทโดยไม่สามารถขยับตัวได้ ในตอนนั้นเธอคงสิ้นหวังแต่ก็ยังคงไม่ยอมแพ้  อดทนดิ้นรนสู้เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือแม้ไร้อาหารและน้ำประทังชีวิต กระทั่งหลายวันต่อมาโชคชะตานำพาพลเมืองดีมาพบกับ ชิชิ เข้าก่อนที่เธอจะสิ้นใจเพราะขาดอากาศและอดอาหารไปเสียก่อน 

.

พลเมืองดีเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม นาบิย่า อีเรียน โฮป กลุ่มดูแลสวัสดิภาพสัตว์ในเกาหลีใต้ พวกเขาพา ชิชิ ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในกรุงโซลเพื่อเข้ารับการรักษาด้วยสภาพที่น่าเวทนา 

.

หลังจากสัตวแพทย์ตรวจเช็คร่างกายก็ได้ให้ข้อมูลว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นบริเวณขาทั้งสี่ข้างของน้องหมารุนแรงเข้าขั้นวิกฤติ เนื้อเยื่อเกินครึ่งในบริเวณที่ถูกมัดจนเป็นแผลนั้นตายและเน่าเปื่อย บางจุดเนื้อเยื่อหลุดลุ่ยจนมองเห็นกระดูก พร้อมกับสันนิษฐานว่าก่อนหน้านี้น้องหมาอาจจะเคยถูกมัดด้วยสายไฟหรือลวดเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว น้องหมาต้องการเป็นอิสระจึงพยายามดิ้นให้ขาที่ถูกมัดไว้หลุดออกจากสิ่งที่พันธนาการอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ขาของเธอเริ่มเป็นแผลและค่อยๆ รัดแน่น บาดผิวหนังกล้ามเนื้อจนลึกถึงชั้นกระดูก มันคงเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดสาหัสสำหรับ ชิชิ นอกจากนี้สัตวแพทย์ยังพบว่าบาดแผลมีการติดเชื้อและกำลังลุกลาม จึงเห็นควรว่าจำเป็นต้องตัดขาบางส่วนของเธอออกทันทีเพื่อรักษาชีวิตของชิชิเอาไว้ 

.

หลังจากนั้นชิชิถูกตัดขาบางส่วนทั้งสี่ข้างออกซึ่งมีความยาวจากปลายเท้าประมาณ 8 – 10 นิ้ว ชิชิมีจิตใจที่เข้มแข็งและต้องการมีชีวิตอยู่ ในตอนนั้นสัตวแพทย์ไม่แน่ใจว่าเธอจะสามารถอดทนและรอดชีวิตได้หรือไม่ สัตวแพทย์ต้องคอยดูแลติดตามอาการของเธออย่างใกล้ชิดอยู่ช่วงเวลาหนึ่งและช่วงเวลานั้นเองที่ทำให้เธอได้สัมผัสความรัก ความห่วงใยจากเพื่อนมนุษย์เป็นครั้งแรก ชิชิไม่ยอมแพ้ความเจ็บปวดอันเกิดจากพิษบาดแผล อดทนและแสดงท่าทีมีกำลังใจตลอดระยะเวลาการรักษา จนทำให้สัตวแพทย์มั่นใจในตัวเธอ ซึ่งในเวลาต่อมาชิชิก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอสามารถเอาชนะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้จริงๆ 

.

.

เออาร์เอ็มอี องค์กรช่วยเหลือสัตว์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งเคยทำงานร่วมกับกลุ่ม นาบิย่า อีเรียน โฮป และกลุ่มอาสาสมัครคนรักสัตว์ในประเทศเกาหลีใต้ ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ชิชิและอาสาจะหาบ้านหลังใหม่ให้กับเธอ ซึ่งนั่นจะเป็นครั้งแรกที่ชิชิจะได้มีครอบครัว 

.

ชิชิถูกนำตัวไปดูแลเป็นการชั่วคราว ที่รัฐแคลิฟอร์เนียในระหว่างที่ เออาร์เอ็มอีประกาศหาบ้านหลังใหม่ที่พร้อมและเหมาะสมจะดูแลชิชิให้มีความสุขได้ เวลาผ่านไปนานระยะหนึ่งในที่สุดก็มีครอบครัวที่พร้อมและเหมาะสมได้จริงๆ 

.

“พวกเราเห็นชิชิครั้งแรกในวิดีโอที่ถูกโพสต์โดย เรซคิว แอนด์ ฟรีดอม โปรเจกต์ มันกลายเป็นภาพที่ฝังใจบาดลึกในความรู้สึกของฉันจริงๆ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันไม่อาจจะหยุดคิดถึงและยังคงเป็นห่วงเธออยู่ตลอดเวลา ฉันตกหลุมรักดวงตาคู่นั้น ฉันเอาเรื่องราวของเธอไปเล่าให้สามีฟังและเราตัดสินใจร่วมกันว่าจะขอรับเธอมาดูแล ช่วงเวลานั้นเอง ทำให้เราเริ่มหาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเธอ ”

อลิซาเบธ โฮเวล (Elizabeth Howell) ผู้อุปการะชิชิกล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจรับเลี้ยง

.

อลิซาเบธและสามีของเธอ ริชาร์ด (Richard) ทั้งคู่อายุ 46 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองฟีนิกส์ ในรัฐแอริโซน่า ทั้งคู่มีลูกสาวชื่อ เมแกน (Megan) อายุ 14 ปี พร้อมกับบีเกิลอีก 3 ชีวิต ได้แก่ แม็กกี้ (Maggie) อายุ12 ปี แฮรี่ (Harry) อายุ 13 ปี และ คิปเปอร์ (Kipper) อายุ11 ปี พวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่น่ารักใจกว้างและยินดีต้อนรับชิชิสมาชิกคนใหม่เพิ่ม 

.

.

น้องหมาแต่ละตัวในครอบครัวโฮเวลมีอายุยืนและสุขภาพดี นั่นแสดงถึงการเอาใจใส่ดูแลน้องหมาได้อย่างยอดเยี่ยม เออาร์เอ็มอี จึงวางใจและยินดีที่จะให้ชิชิได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวโฮเวล ต่อจากนี้ไปเธอจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมมอบความรักความห่วงใยและดูแลปกป้องคุ้มภัยอย่างที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน และที่สำคัญเธอจะได้มีเพื่อนใหม่ได้วิ่งเล่นสนุกใช้ชีวิตอย่างที่น้องหมาวัยสดใสควรจะได้รับจริงๆเสียที 

.

“เธอเป็นน้องหมาที่มีจิตใจที่เข้มแข็งถึงแม้มีร่างกายที่พิการก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อของเธอเลย เธอดูมีความสุขมาก ในช่วงแรกๆ ที่เธอเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกับเราเธอยังมีอาการหงุดหงิดง่ายแต่เวลาไม่นานนักเธอก็ยอมเปิดใจและค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าประทับใจ เธอเป็นตัวอย่างของนักสู้และผู้ให้อภัย เธอยอมเปิดใจมอบความรักให้กับมนุษย์ได้อีกครั้ง” 

อลิซาเบธกล่าวถึงชิชิเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2559 วันแรกๆ ที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้าน 

.

.

“เรามองหาขาเทียมใหม่ๆ ให้กับเธอเพื่อเธอจะได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น ขาทั้งสี่นั้นถูกตัดออกด้วยความยาวที่ไม่เท่ากันทำให้การออกแบบขาเทียมสำหรับเธอค่อนข้างยาก เราเปลี่ยนขาเทียมให้กับเธอมาแล้วหลายแบบจนกระทั่งได้ความช่วยเหลือจาก เดริค แคมปานา (Derrick Campana) จาก แอนนิมอล ออร์โธ แคร์ นักออกแบบผู้เชี่ยวชาญขาเทียมสำหรับสัตว์โดยเฉพาะและดูเหมือนว่าชิชิจะชอบขาเทียมอันใหม่มากๆ ด้วยนะ ”

อลิซาเบธกล่าว

.

.

.

.

“เราจะสวมขาเทียมให้กับเธอเฉพาะช่วงเช้าและตอนที่ต้องออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าน ตอนช่วงดึกเราก็จะถอดมันออก  เราจะไม่ใส่ขาเทียมให้กับเธอตลอดเวลาเพราะจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว” 

อลิซาเบธกล่าว 

.

.

.

ในตอนนี้นอกจากชิชิจะมีความสุขและปรับตัวได้เป็นอย่างดีสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว เธอยังคอยดูแลน้องหมาตัวอื่นๆ ในบ้านได้อีกด้วยนะ ส่วนชีวิตประจำวันของเธอก็ไม่เหงาหงอย นั่งนอนอยู่บ้านให้รู้สึกเบื่อไปวันๆ เพราะเธอมีกิจกรรมหลากหลายจนบางครั้งก็ค่อนข้างจะวุ่นวายเลยล่ะ ตอนนี้เธอได้รับใบอนุญาตให้เป็นน้องหมานักบำบัดช่วยเยียวยาจิตใจปลุกพลังให้กับผู้คนที่กำลังสิ้นหวังด้วยนะ ชิชิมักจะตามพ่อแม่ของเธอออกไปสถานที่ต่างๆ ทั้งโรงพยาบาล ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยทางสมอง ศูนย์พักฟื้นทหารผ่านศึก ศูนย์ดูแลสังคมคนชราและเด็ก เป็นต้น

.

.

ถึงขาหนูจะสั้นลงแต่ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ 

.

บ่อยครับที่ชิชิได้พบกับผู้คนที่พิการกำลังสิ้นหวังท้อแท้ แต่แล้วกิริยาอาการสะบัดหางไปมาไม่ยอมหยุดและใบหน้าที่เปื้อนยิ้มมีความสุขของเธอขณะเดินเข้าไปทักทายผู้พิการมักจะทำให้ผู้คนเหล่านั้นลืมความทุกข์ใจและมีช่วงเวลาที่มีความสุขได้ทันที ด้วยความรู้สึกจริงใจที่ชิชิมอบให้เพื่อช่วยก้าวผ่านช่วงชีวิตที่ย่ำแย่ไปได้ เธอมีประสบการณ์การที่เลวร้ายในอดีตซึ่งมันหนักหนากว่าหลายๆ ชีวิตจะได้พบเจอแต่วันนี้เธอไม่สนใจเพราะเธอมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เธอเข้มแข็งเป็นตัวอย่างของนักสู้ต่อโชคชะตาและมีความสดใสเป็นอาวุธทำลายความเศร้า เธอเป็นเสมือนบทเรียนที่มีชีวิตสามารถแบ่งเบาความทุกข์ในใจผู้คนได้อย่างมหัศจรรย์ทำให้ผู้คนมีความสุขและสบายใจกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง ชิชิเธอรอดชีวิตเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแบ่งปันเรื่องราวความรักที่ครอบครัวของเธอได้มอบให้และเธอพร้อมที่จะส่งต่อ

.

.

ถึงแม้ชิชิจะเข้มแข็งมากเพียงใดแต่สำหรับเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่ามันก็ยังคงทำให้เธอรู้สึกน่ากลัวได้อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เหอๆ ชิชิมีแฟนเพจด้วยนะมีแฟนคลับตรึมเลยหล่ะ 

.

ชิชิขณะกำลังมีความสุขในครอบครัวใหม่ฝันร้ายระลอกใหม่ก็มาแวะเยี่ยมเยื่อนเธออีกครั้ง จากสภาพร่างกายที่บอบช้ำซึ่งไม่มีใครทราบได้เลยว่าขณะที่เธอต้องทนอยู่ภายในฟาร์มในเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับความโหดร้ายอะไรมาบ้าง ช่วงเวลาไม่นานที่มาอยู่กับครอบครัวโฮเวล สัตวแพทย์ได้ตรวจพบว่าในร่างกายของเธอมีก้อนเนื้อมะเร็งกำลังเติบโตอยู่ แน่นอนพ่อแม่ของเธอไม่นิ่งดูดายพาเธอเข้าสู่กระบวนการรักษาในทันที ซึ่งน่ายินดีที่ตอนนี้มะเร็งร้ายได้ถูกกำจัดไปหมดแล้วขณะที่สภาพจิตใจของชิชิไม่เคยหวั่นเกรงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ทั้งนี้เป็นเพราะกำลังใจจากคนในครอบครัว 

.

เรื่องราวการต่อสู้ของชิชิกลายเป็นที่กล่าวถึงเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้จริงๆ ล่าสุดเธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติ “อเมริกัน ฮีโร่ ด๊อก อวอร์ด 2018” หรือ “น้องหมาฮีโร่แห่งอเมริกา 2561” ด้วยนะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ผลปรากฏว่าชิชิได้รับคะแนนเสียงโหวตจากประชาชนชาวอเมริกาทั่วประเทศมากกว่าหนึ่งล้านเสียง กลายเป็นผู้ชนะคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครองได้สำเร็จ ชนะน้องหมาผู้เข้าชิงตัวอื่นๆ กว่า 265 ตัวเลยนะ รางวัลดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสัมพันธ์อันทรงพลังระหว่างน้องหมาและมนุษย์ ให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าและวีรกรรมอันกล้าหาญของน้องหมาธรรมดาๆ 

.

.

.

ชิชิได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า ถึงแม้เมื่อวานเราจะมีชีวิตที่เลวร้ายเพียงใด แต่วันนี้เราสามารถเริ่มต้นสร้างชีวิตที่มีความสุขใหม่ได้เสมอ

.

หลังจากที่ชิชิได้มีชีวิตที่มีความสุขในครอบครัวใหม่ได้อีกครั้ง กลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกจนกระทั่งได้เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติ  นับเป็นเวลานานกว่า 3 เกือบ 4 ปีกับช่วงเวลาที่มีความสุขและมีคุณค่า กระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ชิชิได้จากไปด้วยเนื้องอกในโพรงจมูกเขาสู้ไปพร้อมๆกับครอบครัวที่พยายามให้การรักษาทุกทางเท่าที่จะทำได้จนสุดกำลัง  แต่สุดท้ายแล้วร่างกายของชิชิก็ไม่สามารถรับมือได้  ชิชิจากไปอย่างสงบภายในบ้านที่รายล้อมไปด้วยคนในครอบครัวที่รักเขา 

.

ด็อกคลิปขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ชิชิ ด้วยนะครับ

สู่สุคติ  ชิชิน้องหมาผู้มีหัวใจเข้มแข็งดั่งหินผาและผู้สร้างแรงบันดาลใจ...

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.