ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอุณหภูมิสูง 35 องศาเซลเซียสในช่วงก่อนเที่ยงของวันที่ 30 มีนาคม 2564 กลับมีเรื่องราวน่าประทับใจที่ทำให้ต้องรู้สึกอิ่มเอมใจชวนอารมณ์ดีราวกับได้ซดเครื่องดื่มรสดีเย็น ๆ ช่วยเปลี่ยนวันแสนธรรมดาที่ร้อนระอุให้กลายเป็นอีกหนึ่งวันพิเศษ เมื่อสองพนักงานใจดีบนรถประจำทางปรับอากาศ 166 ได้แสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนสัตว์จรจัดตัวน้อยที่กำลังมีอาการมึนงงและเหนื่อยหอบเดินตากแดดหลงทางอยู่บนทางด่วน โดยเปิดประตูรถเชิญชวนให้น้องหมาขึ้นมาหลบร้อนก่อนจะพาลงจากบนทางด่วนได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเมตตาช่วยจัดหาน้ำและอาหารให้กับน้องหมาหลงทางที่ท่ารถฯ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น! เมื่อสถานะน้องหมาถูกเปิดเผยและได้พบกับความโชคดีเป็นครั้งที่สอง
.
ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 30 มีนาคม 2564 ขณะรถประจำทางปรับอากาศ 166 (อนุสาวรีย์ - เมืองทอง) ขับผ่านบนทางด่วนศรีรัชขาออก ก่อนถึงทางลงแจ้งวัฒนะ ได้พบกับน้องหมาตัวหนึ่งที่คาดว่าน่าจะมีสถานะจรจัดกำลังเดินหลงทางไม่รู้ทิศอยู่บริเวณกลางถนนด้วยท่าทางที่ดูอิดโรย ซึ่งเป็นเหตุทำให้รถที่กำลังสัญจรอยู่บนถนนต้องเบรกหลบกันวุ่น
.
เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนและน้องหมาจรจัดตัวดังกล่าว ทางศูนย์ควบคุมการจราจรบนทางพิเศษจึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ จส.100 จึงทำให้ทราบว่า รถประจำทางปรับอากาศ 166 ได้จอดรับน้องหมาจรจัดตัวดังกล่าวขึ้นไปบนรถแล้ว
.
.
ด้านเจ้าหน้าที่ จส.100 ได้ติดต่อไปที่ท่ารถฯ เมืองทองธานีเพื่อสอบถาม ก่อนได้ทราบรายละเอียดจากคำบอกเล่าของคุณ “นกน้อย สีดำ” และคุณ “เตือน ประทุมทอง” พนักงานเก็บค่าโดยสารและพนักงานขับรถประจำทางปรับอากาศ 166 ผู้ที่ได้แสดงความมีน้ำใจช่วยเหลือน้องหมาจรจัดเดินหลงทางบนทางด่วนขณะที่สภาพอากาศร้อนจัดว่า...
.
ได้รับการติดต่อจากคุณ “วิไลวรรณ” พนักงานขับรถประจำทางอีกคันว่าได้พบเห็นน้องหมาจรจัดท่าทางน่าสงสารบนทางด่วน พร้อมกับเตือนให้ขับรถด้วยความระมัดระวังเกรงน้องหมาจะถูกรถชน หากมีโอกาสก็จอดรับน้องหมาตัวดังกล่าวขึ้นรถมาด้วยเพราะสภาพอากาศกำลังร้อนจัด หลังจากนั้นไม่นานนักรถประจำทางของตนก็แล่นมาถึงจุดที่คุณ “วิไลวรรณ” แจ้งเอาไว้และได้พบกับน้องหมาจรจัดตัวดังกล่าว...
.
คุณเตือนพนักงานขับรถประจำทางได้ขออนุญาตผู้โดยสารเพื่อพาน้องหมาจรจัดที่กำลังเหนื่อยหอบและเดินตากแดดอยู่บบถนนขึ้นมาบนรถ ผู้โดยสารประมาณ 10 คนบนรถต่างไม่มีทีท่าจะปฏิเสธมีเพียงรอยยิ้มสื่อความหมายตอบตกลง คุณเตือนจึงรีบเปิดประตูแล้วเรียกน้องหมาจรจัดผู้อิดโรยให้เร่งขึ้นมาบนรถ น้องหมาแสนรู้หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกเชิญชวนก็รีบกระโดดขึ้นไปบนรถทันทีหลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปนอนหลบอยู่บริเวณใต้เบาะที่นั่งผู้โดยสาร แต่อย่างไรก็ตามน้องหมายังคงไม่ไว้ใจมีท่าทีหวาดระแวงไม่ยอมให้ใครสัมผัสตัว
.
.
.
น้องหมาจรจัดผู้หลงทางโดยสารมากับรถประจำทาง 166 จนกระทั่งถึงท่ารถฯ เมืองทองธานี น้องหมารู้งานเดินลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปมุดตัวนอนหลบอยู่ใต้ท้องรถต่อ... ด้วยรู้สึกสงสารและคิดเพียงว่าต้องช่วยเหลือน้องหมาไว้ก่อนคุณนกน้อยจึงได้จัดหาน้ำและอาหารมาวางทิ้งไว้ให้ อย่างไรก็ตามก็มีความกังวลใจว่าจะถูกรายงานไปที่ ขสมก. แต่ทว่าผิดคาดหลังจากที่มาถึงท่ารถฯ นายท่ากลับไม่ได้กล่าวตำหนิ
.
.
.
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ จส.100 ได้โพสต์เรื่องราวการช่วยเหลือน้องหมาหลงทางลงบนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊ก “JS100 Radio” ซึ่งนั่นทำให้อีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาความจริงก็ถูกเปิดเผย! น้องหมาหลงทางมีชื่อว่า “คุกกี้” และเขาไม่ได้มีสถานะจรจัดอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ทว่าเขามีบ้านและผู้ปกครองดูแล
.
ในเวลาต่อมาคุณ “จิราภรณ์” เดินทางมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ปกครองและขอรับคุกกี้ที่ท่ารถฯ เมืองทองธานี พร้อมกับได้อธิบายว่า คุกกี้เคยเป็นน้องหมาจรจัดจากความช่วยเหลือของโครงการหาบ้านให้น้องหมา ทำให้ตนมีโอกาสได้รับเลี้ยงคุกกี้มานาน 1 ปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เปิดประตูบ้านทิ้งเอาไว้ คุกกี้ได้โอกาสวิ่งเตลิดหายไปในทางไซต์งานก่อสร้าง อย่างไรก็ตามทุกคนในบ้านต่างเป็นห่วงและได้พยายามขับรถออกตามหาวนจนทั่วหมู่บ้านเมืองทองธานี นาน 2 วันแต่ก็ไม่พบจนเริ่มรู้สึกหมดหวัง
.
กระทั่งเพื่อนที่ช่วยตามหาได้เห็นภาพคุกกี้บนโพสต์หน้าแฟนเพจเฟซบุ๊ก “JS100 Radio” จึงแจ้งให้ทราบ หลังจากที่แน่ใจว่าใช่คุกกี้จริง ๆ จึงรีบขับรถมารับ ตอนไปถึงคุกกี้เอาแต่หมอบซ่อนตัว นั่นคงเพราะกลัวจะถูกดุ แต่จริง ๆ แล้วทุกคนดีใจกันมาก ๆ ที่ได้พบเขาอีกครั้ง ทั้งนี้ผู้ปกครองของคุกกี้ได้กล่าวขอบคุณสำหรับน้ำใจและความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายที่มีส่วนทำให้คุกกี้ปลอดภัยได้กลับบ้านอีกครั้ง
.
คุณ “ชุมพล” นายท่ารถประจำทางสาย 166 ได้เปิดเผยว่า เขารู้สึกดีใจที่คุกกี้มีผู้ปกครองมารับ พร้อมกับได้อธิบายเพิ่มเติมว่าทางท่ารถประจำทางต่างก็รักและเอ็นดูน้องหมากันทุกคน ซึ่งปกติแล้วที่ท่ารถมีน้องหมาจรจัดอีกตัวหนึ่งที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย พอรู้ว่ามีอีกตัวเพิ่มเข้ามาก็คิดว่าก็เป็นเรื่องดีเพราะตัวเก่าจะได้มีเพื่อน คงจะได้ให้อาหารไปพร้อม ๆ กันทีเดียว แต่พอได้ทราบว่ามีผู้ปกครองมารับก็รู้สึกดีใจยิ่งกว่าเพราะถือว่าเป็นบุญของเขา
.
หลังจากเรื่องราวทั้งหมดได้เผยแพร่บนโลกออนไลน์อีกครั้ง ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมากต่างให้ความสนใจ ส่วนใหญ่กล่าวชื่นชมความมีน้ำใจของพนักงานบนรถประจำทางปรับอากาศ 166 ทั้งสองคน รวมถึงพนักงานขับรถประจำทางคันก่อนหน้าที่ได้โทรแจ้งให้ช่วยรับน้องหมาไว้ ซึ่งการช่วยเหลือในครั้งนี้นอกจากจะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปลอดภัยแล้ว น้องหมาที่ต้องเดินตากแดดจนเหนื่อยหอบท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและโรคลมแดดด้วย ผู้ใช้งานบางคนยังบอกเล่าประสบการณ์การใช้บริการรถประจำทางสาย 166 ด้วยว่าพนักงานต่างพูดจาดีและยังคงคุณภาพน่าประทับใจเแบบนี้มาตลอด นี้คือความคิดเห็นจากผู้ใช้งานบางส่วนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...
.
“ขอชื่นชมทุก ๆ คนเลยค่ะมีน้ำใจช่วยเหลือน้องหมาคิดถึงใจเค้าใจเราคนหรือสัตว์ต่างก็มีชีวิตจิตใจ..ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ...น้องหมาก็โชคดีได้พบเจ้าของ”
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Da Daladda
.
“ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่เห็นแล้วมีความสุขมากจริง ๆ ”
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Paboo Phalee
.
“ชื่นชม มากเลยค่ะชื่นชมรถคันก่อนหน้าที่โทรแจ้งคันนี้ ชื่นชม พนักงานขับรถ และพนักงานเก็บเงิน รวมถึงทุกคนที่โดยสาร ชื่นชมยันนายท่าที่ไม่ตำหนิ พนักงาน น่ารักมาก ๆ ขอบคุณในน้ำใจทุกคนนะคะ”
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Gail Narita
.
“166เป็นสายที่ น่าจะดีที่สุด ไม่เคยได้ยิน หรือเคยเห็น พูดจาไม่เพราะ กับผู้โดยสารเลย จะกี่ปีกี่ปีก็เหมือนเดิม”
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ ปรียาภรณ์ ประเสริฐไทย
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.