นับตั้งแต่ประเทศรัสเซียบุกและเข้าโจมตีประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบัน ประชาชนชาวยูเครนหลายแสนคนได้เริ่มอพยพอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าไปหลบภัยในประเทศเพื่อนบ้าน ประชาชนชาวยูเครนส่วนใหญ่กำลังตกอยู่ในความหวาดผวาและต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อเลือกว่าจะพาสัตว์เลี้ยงแสนรักเดินทางติดตามไปหลบภัยด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าประชาชนชาวยูเครนส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจไม่ทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้เบื้องหลัง ยอมเสี่ยงและแบกรับภาระที่ตามมาด้วยความเต็มใจ ถึงแม้จะรู้ดีว่าการมีสัตว์เลี้ยงทำให้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งมีผลทำให้การเดินทางเข้าไปหลบในสถานที่ปลอดภัยไม่คล่องตัวและสะดวกเท่าที่ควรก็ตาม
.

.

.

ในสถานการณ์ปกติการพาสัตว์เลี้ยงข้ามพรมแดนไปยังอีกประเทศเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เนื่องจากต้องเตรียมเอกสารมากมายหลายฉบับและใช้เวลานานสำหรับการดำเนินการตามข้อบังคับของแต่ละประเทศ แต่ด้วยภาวะสงครามทำให้ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศยูเครนได้ออกมาตรการผ่อนปรนกฎข้อบังคับที่เคยเข้มงวดลงชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนชาวยูเครนสามารถอพยพข้ามพรมแดนเข้าไปหลบภัยพร้อมกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขารักได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยไม่ต้องใช้เอกสารมากมายและใช้เวลานานสำหรับการปฏิบัติตามขั้นตอนที่เข้มงวดนานหลายเดือนอย่างเคย

.

ประชาชนชาวยูเครนกำลังเร่งรีบพาสัตว์เลี้ยงแสนรักเดินข้ามพรมแดนไปยังสถานที่ปลอดภัยในประเทศเพื่อนบ้าน

.

ชายชาวยูเครนคนหนึ่งแบกปืนไรเฟิลไว้บนบ่า ขณะที่มือทั้งสองข้างของเขากำลังถือกรงน้องแมวและตู้ปลาที่เพิ่งช่วยออกมาจากอาคารหลังหนึ่งที่ใกล้พังทลายลงจากอาวุธสงครามของรัสเซีย

.

ประชาชนจำนวนมากในเมืองลวิฟ ประเทศยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศโปแลนด์ประมาณ 70 กิโลเมตร กำลังเร่งอพยพ, บางคนยอมทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ข้างถนนแต่ไม่ยอมทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงแสนรักในอ้อมแขนไป เร่งพาขึ้นรถเพื่อเดินทางออกจากเมืองให้เร็วที่สุด

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจยูเครนกระโจนเข้าช่วยเหลือนกแก้วจำนวน 2 ตัวออกจากแฟลตแห่งหนึ่งในเมืองเคียฟที่กำลังจะพังทลาย หลังถูกอาวุธสงครามจากรัฐเซียโจมตี

.

ไม่ใช่เพียงประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้นที่พร้อมช่วยเหลือเปิดพรมแดนให้ผู้อพยพชาวยูเครนเข้าไปหลบภัย แต่ทว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ โรมาเนียและสโลวาเกียต่างพร้อมใจต้อนรับ ซ้ำยังอนุญาตให้ผู้อพยพชาวยูเครนสามารถนำสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขาติดตามเข้ามาหลบภัยในประเทศได้ โดยไม่ต้องใช้เอกสาร หรือ ผ่านกระบวนการที่เคร่งครัดอย่างเคยด้วย
.

.

นอกจากนั้นองค์กรสวัสดิภาพสัตว์และมนุษยธรรม หรือ "พีต้า" (PETA) ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ประจำสาขาเยอรมนีเดินทางลงพื้นที่บริเวณชายแดนโปแลนด์ซึ่งอยู่ติดกับประเทศยูเครน เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับผู้อพยพชาวยูเครนที่กำลังเดินทางเข้าไปหลบภัยในประเทศโปแลนด์พร้อมกับสัตว์เลี้ยงด้วย

.

ทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ของพีต้าได้เข้าช่วยเหลือน้องแมวตัวหนึ่งที่พลัดหลงกับนายรักระหว่างการเดินทางอพยพด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ของพีต้าก็ได้ช่วยให้ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้งในสถานที่ปลอดภัยในประเทศโปแลนด์

.

พีต้ารายงานว่ามีชาวยูเครนจำนวนมากที่ได้อพยพข้ามพรมแดนมาด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนล้า เหนื่อยและสับสน ซึ่งในระหว่างนี้ก็ยังคงมีชาวยูเครนอีกจำนวนหลายพันคนที่กำลังพยายามเดินทางข้ามพรมแดนมายังประเทศโปแลนด์อีกเรื่อย ๆ เพื่อหาสถานที่ปลอดภัย แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักทำให้ผู้อพยพจำนวนมากเลือกที่จะทิ้งรถของพวกเขาและเดินเท้ามุ่งหน้าไปที่ชายแดน

.

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.