ลูกหมาถูกทิ้ง ได้รับเมตตาจนได้พบชีวิตใหม่ ปัจจุบันอุทิศตัวเพื่อเพื่อนมนุษย์รับหน้าที่เป็นสุนัขตำรวจสุดเท่

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีได้บังเอิญพบกับลูกหมาตัวน้อยสายพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียลจำนวน 4 ตัวถูกทอดทิ้งปล่อยให้เผชิญชะตากรรมลำบากอยู่บริเวณข้างถนนในเมืองเริดฮิลล์ สหราชอาณาจักร ลูกหมาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ร่างกายผอมโซ ดูไร้เรี่ยวแรง ตามตัวมีเห็บหมัดและโรคผิวหนังที่กำลังลุกลามจนทำให้ขนหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ 

.

พลเมืองดีไม่ละเลยได้สละเวลาช่วยพาลูกหมาตัวน้อยทั้ง 4 ไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Millbrook Animal Center โชคดีที่ศูนย์ฯ ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับลูกหมาตัวน้อยทั้ง 4 เจ้าหน้าที่จึงรับพวกเขาเอาไว้ในความดูแล 

.

ในเวลาต่อมาลูกหมาตัวน้อยได้รับการตรวจร่างกายจากสัตวแพทย์ ซึ่งนั่นทำให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบว่า สภาพร่างกายของลูกหมาทั้ง 4 ตัวย่ำแย่กว่าที่คิด... สัตวแพทย์ค่อนข้างมีความกังวลใจกับปัญหาเชื้อราบนผิวหนังของลูกหมามากเป็นพิเศษ เพราะหากปล่อยให้ลุกลามไปมากกว่านี้ก็จะเสี่ยงเกิดผลเสียหลายอย่างตามมาและทำให้การรักษายิ่งยากและใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะยาวนานกว่าการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ซูบผอม น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ที่ลูกหมาเผชิญอยู่ด้วยซ้ำ นอกจากนั้นแล้วสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับสัตวแพทย์ไม่น้อยเช่นกันก็คือดวงตาของหนึ่งในลูกหมาจากทั้งหมดสี่ตัวที่พบว่ามีอาการติดเชื้อด้วย 

.

หลังจากที่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด สัตวแพทย์ก็ได้พาลูกหมาทั้งสี่เข้าสู่กระบวนการรักษาทันที โดยเริ่มจากการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายด้วยแชมพูยาสูตรพิเศษที่สามารถรักษาโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นได้โดยตรง และเพื่อให้เห็นผลจึงจำเป็นต้องอาบน้ำให้พวกเขาบ่อยครั้งกว่าน้องหมาปกติทั่วไป ซึ่งนั่นทำให้ลูกหมาทั้งสี่ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เมื่อร่างกายที่มีบาดแผลทั่วตัวต้องสัมผัสกับน้ำและแชมพูยาทำให้เกิดระคายเคืองแสบร้อนทุกครั้งที่อาบน้ำ ส่วนน้องหมาที่ดวงตาติดเชื้อก็ได้รับยาหยอดตา 4 ครั้งต่อวันด้วย 

RSPCA

.

“โจ ดักลาส” (Jo Douglas) หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Millbrook Animal Center ได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับลูกหมาตัวน้อยทั้ง 4 สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย ซึ่งประกอบด้วยชื่อ “ดัสติน” (Dustin) , “แอล” (El) , “ลูคัส” (Lucas) และ “ไมค์” (Mike) ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นชื่อของตัวละครในเรื่อง Stranger Things จากซีรีส์ชื่อดังของ Netflix นั่นเอง

.

น้องหมาตัวน้อยทั้ง 4 ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ นานหลายสัปดาห์ จนกระทั่งอาการป่วยของพวกเขาเริ่มดีขึ้นตามลำดับและหายดีในที่สุด จากนั้นโจก็ได้ช่วยประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ทีลูกหมาทั้ง 4 ตัวจะสามารถมีชีวิตที่ดีอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป

.

นับเป็นความโชคดีของลูกหมาทั้ง 4 ตัว เพราะหลังจากที่ประกาศได้ถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นานนัก ก็ได้มีคนรักน้องหมาจำนวนมากติดต่อกลับมาหาโจ พร้อมกับแสดงความประสงค์เพื่อขอรับอุปการะลูกหมาเหล่านั้นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกใหม่ของครอบครัว

.

ลูกหมา 3 ตัวสามารถปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่ได้เป็นอย่างดีเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่สำหรับ ดัสติน หนึ่งในลูกหมาทั้งหมด 4 เขาค่อนข้างมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ เขาตื่นเต้นเกินไปจนไม่ยอมอยู่นิ่ง ดัสตินเป็นลูกหมาที่กระตือรือร้น ชอบเล่นสนุกอยู่ตลอดเวลาและค่อนข้างบ้าพลัง นั่นจึงทำให้ครอบครัวใหม่ไม่สามารถรับมือกับเขาได้ ทันทีที่ครอบครัวผู้อุปการะแน่ใจว่าได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดเพื่อปรับตัวและรับมือกับดัสสินแล้วแต่ไม่ได้ผล  พวกเขาจึงตัดสินใจส่งดัสตินคืนศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Millbrook Animal Center บ้านหลังแรกของเขาอีกครั้ง

.

“ดัสตินเป็นน้องหมาที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา เขาต้องการเล่นสนุกและชอบสำรวจสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะชอบน้องหมาที่มีลักษณะนิสัยอย่างว่า แต่สำหรับครอบครัวใหม่ของดัสตินแล้ว เขากลับไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบสักเท่าไหร่นัก ในท้ายที่สุดดัสตินจึงถูกส่งตัวกลับมาหาเราอีกครั้ง”

โจกล่าว

.

ดัสตินกลับมาอยู่ในความดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ฯ อีกครั้ง ซึ่งโจก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ดูแล ช่วยปรับพฤติกรรมให้กับดัสตินก่อนจะประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้เขาอีก แต่ระหว่างที่กำลังเล่นสนุกและฝึกทักษะการรับคำสั่งอยู่ โจก็ได้พบกับความสามารถพิเศษบางอย่างที่น่าทึ่งในตัวดัสติน!

.

“ดัสตินชอบเล่นสนุกมาก เราจึงพยายามให้เขาได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ อยู่สม่ำเสมอ อาทิการเล่นซ่อนลูกเทนนิสไว้รอบๆ ศูนย์ฯ แล้วปล่อยให้เขาเดินตามหา, ดัสตินเก่งมาก เขาสามารถตามหาลูกเทนนิสได้ครบทุกลูกเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น, เขามีจมูกที่สามารถรับกลิ่นได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อเราได้เห็นความสามารถที่น่าทึ่งนี้ จึงเร่งติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจและบอกเล่าพรสวรรค์ของดัสตินให้พวกเขาฟัง เผื่อว่าพวกเขาจะสนใจรับดัสตินเข้าไปเป็นสุนัขตำรวจตัวใหม่ของหน่วย ”

โจกล่าว

.

แน่นอนแค่คำบอกเล่าคงไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เชื่อได้ แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหูผึ่งเกิดสนใจจนต้องลงบันทึกในตารางนัดหมายเคลียร์เวลาเพื่อขอทดสอบสมรรถภาพร่างกายและทักษะเฉพาะตัวของดัสตินให้เห็นกับตา... และเมื่อถึงเวลาดัสตินก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาผ่านทุกบททดสอบด้วยความสามารถจากพรสวรรค์
.
ในเวลาต่อมาดัสตินก็ได้เข้าร่วมการคัดเลือกเป็นสุนัขตำรวจด้วย ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้โจผู้ดูแลต้องผิดหวัง ดัสตินผ่านการทดสอบอย่างง่ายดายและกลายมาเป็นสุนัขตำรวจมาดเท่พร้อมกับชื่อใหม่ว่า “แบดเจอร์” (Badger) อย่างไรก็ตามเพื่อให้การทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกๆ ภารกิจประสบความสำเร็จสูงสุด แบดเจอร์จึงต้องเข้ารับการฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะและทำความเข้าใจขั้นตอนการทำงานร่วมกับคู่หูในหลักสูตรบังคับอีกนานระยะหนึ่ง ก่อนที่จะสามารถลงสนามออกปฏิบัติภารกิจจริงได้

RSPCA

.

ปัจจุบันแบดเจอร์ได้สำเร็จหลักสูตรสุนัขตำรวจดมกลิ่นแล้ว เขาเป็นสุนัขตำรวจที่เก่งกาจและน่าจดจำตัวหนึ่งเลยล่ะ จากผลงานที่ยอดเยี่ยมที่ผ่านมา ดัสตินสามารถใช้จมูกดมกลิ่นค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด เงินสดหรืออาวุธได้ แม้จะถูกซ่อนในสถานที่หรือต่ำแหน่งที่ยากจะมองเห็นและยากเข้าถึง แน่นอนว่าแบดเจอร์มีวันนี้ได้เพราะคู่หูอย่าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ “สเตป บาร์เร็ต”(Steph Barrett) ผู้ที่คอยดูแล ห่วงใยและหมั่นฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ในการทำงานให้กับเขา 

RSPCA

.

“ผมค่อนข้างเศร้าใจมากหลังจากที่ได้ทราบเรื่องราวในอดีตของแบดเจอร์ว่า เขาถูกทอดทิ้งอยู่ข้างถนนอย่างไร้ค่า ต้องขอบคุณพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ของ Millbrook Animal Center ที่ทำให้เขาได้รับโอกาสครั้งที่สองในการมีชีวิต และทำให้ผมได้เจอกับสุนัขตำรวจที่เก่งที่สุดที่เราเคยเจอมา”

เจ้าหน้าที่สเตปกล่าว

.

เพราะความใจดำของมนุษย์คนหนึ่ง ผลักไสลูกหมา 4 ชีวิตด้วยการทอดทิ้งพวกเขาให้ต้องตกระกำลำบาก ราวกับว่าเป็นสิ่งของไร้ค่าจนเกือบต้องอดตายข้างถนน ชีวิตพวกเขาเหมือนอยู่ในโลกที่มืดมิดและสิ้นหวังเรื่อยมา แต่ทว่าลูกหมาไม่ยอมจำนนลดค่ายอมแพ้ต่อโชคชะตา พวกเขาสู้! และตระหนักดีว่ามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ จึงกระเสือกกระสนจนได้พบกับเมตตาจากมนุษย์ใจดีช่วยโอบอุ้มชีวิตที่น่าสงสารของพวกเขาเอาไว้ นับตั้งแต่นั้น...โลกทั้งใบของลูกหมาก็เปลี่ยนไปทันที มนุษย์ใจดีเป็นเหมือนดวงตะวันที่เคยถูกเมฆพายุบัง และวันนี้มันได้สาดแสงเจิดจ้าละลายม่านเมฆหมอกให้สลายสิ้น ลูกหมาที่เคยสิ้นหวังได้เห็นโลกใบเดิมที่สดใสและมีหวังอีกครั้ง 

.

วันนี้ลูกหมาทั้งสี่มีชีวิตที่ดีและหนึ่งในนั้นได้อุทิศตัวรับหน้าที่ทรงเกียรติใช้พรสวรรค์ช่วยเหลือและปกป้องเพื่อนมนุษย์ที่เมตตาและเคยทำร้ายเขา เห็นได้ชัดว่าลูกหมาตัวน้อยไม่เคยไร้ค่า แต่ทว่ามีมนุษย์บางคนต่างหากล่ะที่พยายามลดค่าพวกเขา น้องหมาต้องการแค่ "โอกาส" และมนุษย์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ให้ แต่ทว่าโอกาสนั้นก็ควรมาพร้อมกับ "ความรับผิดชอบ" เสมอ

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.