เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟป่าขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับได้ว่าเป็นไฟป่าที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากไฟป่าครั้งนี้เกิดขึ้นหลายจุดพร้อมกันทั้งทางทิศเหนือและใต้ของรัฐ ประกอบกับกระแสลมแรงและสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งยิ่งทำให้ไฟป่าทวีความรุนแรง ลุกลามเผาไหม้อาคาร บ้านเรือน โรงงาน ไร่ พืชผลทางการเกษตรเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนประชาชนในพื้นที่หลายจุดไม่ทันตั้งตัว และระดับความรุนแรงก็เหนือความคาดหมายมาก ประชาชนหลายพันชีวิตจึงต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ แต่น่าเศร้าที่รายงานระบุว่ามีประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 88 คนหนีไม่ทันต้องเสียชีวิตในกองเพลิงและอีกกว่า 200 คนยังคงสูญหาย
.
หลายคนต้องสูญเสียทรัพย์สิน ต้องพลัดพรากจากคนที่รักและบางคนก็กลายเป็นผู้สูญหาย เช่นเดียวกับ “อันเดรีย เกย์หลอด” และ “เอ็ด ไวเด็น” สองสามีภรรยาก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยที่ต้องอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน จนเป็นเหตุให้ต้องพรากจากน้องหมาที่รัก
.
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ในวันนั้นไฟป่าได้ลุกลามมาถึงบ้านของอันเดรียและเอ็ดอย่างกะทันหัน พร้อมประกาศฉุกเฉินจากทางภาครัฐให้ประชาชนเร่งอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายก่อนจะมีการจำกัดพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ตอนนั้นสถานการณ์วุ่นวายมากอันเดรียและเอ็ดต้องเร่งหนีเอาชีวิตรอด จนไม่มีเวลาเก็บข้าวของออกจากบ้าน ซึ่งนั่นรวมถึง “เมดิสัน” (Madison) และ “มิเกล” (Miguel) สมาชิกสี่ขาสุดรักด้วย
.
แต่โชคดีในขณะที่อันเดรียและเอ็ดกำลังอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย บังเอิญพบกับ “เชย์ลา ซิลลิแวน” (Shayla Sullivan) เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์พอดี อันเดรียจึงอ้อนวอนขอให้เชย์ลาช่วยตามหาน้องหมาทั้ง 2 ตัวของเธอ ซึ่งเชย์ลารับปากและออกตระเวนค้นหาสองน้องหมาหลายวันหลังจากนั้น ก่อนจะมีปฎิหารย์เกิดขึ้น! เมื่อเชย์ลาพบมิเกลและช่วย เธอไว้แล้วพากลับสู่อ้อมกอดอันเดรียอีกครั้ง แต่น่าเศร้าที่เชย์ลากลับไม่พบร่องรอยของเมดิสันเลย นั่นทำให้ทีมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์เข้าใจว่าเมดิสันอาจไม่รอด เนื่องจากไฟป่ารุนแรงลุกลามเผาบ้านเรือนวอดหลายร้อยหลังจนเหลือเพียงซากเพียงระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งนั่นรวมถึงบ้านของอันเดรียด้วย แต่อย่างไรก็ตามเชย์ลากลับยังไม่หมดหวังและปรารถนาให้เมดิสันรอดชีวิต!
.
หลายวันต่อมาเชย์ลาได้ออกไปตระเวนสำรวจตามพื้นที่ต่างๆ หลังจากที่ไฟป่าเริ่มสงบลงแล้ว โดยหนึ่งในปลายทางที่เธอตั้งใจไว้คือบริเวณบ้านของอันเดรีย เมื่อไปถึงเธอแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้น เชย์ลาเจอน้องหมาตัวหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับเมดิสัน เขากำลังเดินวนเวียนอยู่บริเวณซากบ้านของอันเดรีย แต่น่าเสียดายที่น้องหมาตัวดังกล่าวไม่ค่อยเป็นมิตรนัก แถมไม่ยอมให้เข้าใกล้และจะเริ่มแยกเขี้ยวขู่ทุกครั้งที่เชย์ลาก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณบ้านของอันเดรีย ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณสำคัญที่ทำให้เธอมั่นใจว่าน้องหมาตัวดังกล่าวคือเมดิสันแน่นอน
.
เชย์ลาอธิบายว่า เมดิสันยังคงหวงและพยายามปกป้องบ้านที่เคยเป็นสถานที่ที่เติมไปด้วยความสุขความทรงจำของเขาและครอบครัว ถึงแม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังก็ตาม แต่สีหน้าของเมดิสันกลับดูเศร้าซึมจนน่ากังวล ซึ่งเธอสันนิษฐานว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าครอบครัวจากไปพร้อมกองเพลิงที่แผดเผาบ้านของเขา
.
เชย์ลาเล่าต่อว่า เมดิสันวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้และหนีไปได้ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่พยายามดักจับ นั่นทำให้เขาไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เชย์ลายืนยันว่าถึงแม้เมดิสันจะวิ่งหนีแต่เขากลับไม่ยอมห่างจากบริเวณบ้านไปไกลเลย เขาจะกลับมาที่บ้านทุกครั้งเสมอ เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงแค่แวะมาวางอาหาร และน้ำทิ้งไว้ให้เขาในระหว่างที่รอให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย
.
หนึ่งเดือนต่อมาอันเดรียและเอ็ด รวมถึงผู้ประสบภัยคนอื่น ๆ ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ที่เคยถูกจำกัดหลังสถานการณ์ไฟป่าสงบลง อันเดรียและเอ็ดเสียใจมากเมื่อเห็นสภาพบ้านที่กลายเป็นซากปรักหักพังและกองเถ้าถ่าน แต่ทันใดนั้นความโศกเศร้าก็หายวับไปช่วงพริบตา เมื่อเมดิสันวิ่งยิ้มร่าพร้อมกับส่ายห่างดุ๊กดิ๊กด้วยความดีใจ ออกมาจากใต้ซากบ้านเพื่อต้อนรับสองนายรักกลับอีกครั้ง แน่นอนว่าอันเดรียและเอ็ดต่างดีใจที่พบว่าเมดิสันยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังคงรอการกลับมาของพวกเขาที่บ้านหลังเดิมไม่ไปไหนแม้จะเหลือเพียงซากก็ตาม ซึ่งเรื่องที่น่ายินดีนี้ได้มอบรอยยิ้ม ความหวังและกำลังใจให้สองสามีภรรยาอีกครั้ง การรอคอยของเมดิสันสิ้นสุดลงแล้วและหัวใจที่เคยแตกสลายก็กลับมามีความสุขถูกโอบกอดปลอบโยนอีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์
.
นี่เป็นบทพิสูจน์สุดตื้นตันใจท่ามกลางภัยพิบัติและการพลัดพรากจากความไม่ตั้งใจ เมดิสันเป็นเพื่อนแท้ที่แสนดี เขามอบรักแท้ทั้งหัวใจให้กับครอบครัวและยินดีภักดีไม่แปรเปลี่ยน แม้ในวันที่เข้าใจผิดคิดว่าครอบครัวได้กลายเป็นเพียงความทรงจำในกองซากบ้านที่ปรักหักพังก็ตาม เมดิสันยินดีรอ และจะรอจนกว่าได้พบครอบครัวอีกครั้งโดยไม่เคยสิ้นหวัง
.
โชคดีว่านี่คือความเข้าใจผิดของเมดิสันการรอคอยจึงไม่สูญเปล่า สุดท้ายเขาก็สมหวังได้พบกับครอบครัวอีกครั้งอย่างที่ตั้งตารอ!
.
“ฉันคงจะหาน้องหมาที่แสนดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว, เขารู้ดีว่าการเฝ้ารออยู่ที่บ้านเต็มไปอันตราย แต่ก็ยังยืนยันที่จะรอ แม้บ้านจะเหลือเพียงซากและไม่มีคนที่เขารักอยู่แล้วก็ตาม เขาไม่ยอมแพ้หรือคิดจากบ้านหลังนี้ไปเลย”
อันเดรียนายรักของน้องหมาเมดิสันกล่าว
.
ถึงแม้บ้านจะกลายเป็นซากไม่เหลืออะไรแล้วในสายใคร ๆ แต่สำหรับเมดิสัน บ้านหลังนี้ยังคงมีความหมาย เต็มไปด้วยความทรงจำ ความรักและความสุขทั้งชีวิตของเขา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เขาทิ้งบ้านหลังนี้ไป
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
