“เบนท์ลีย์ บอยเออร์” (Bentley Boyer) หนูน้อยวัย 2 ขวบจากแจ็คสันเคาน์ตี้ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเกิดมาพร้อมกับความพิการด้วยป่วยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ที่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อยเลยโดยเฉพาะปัญหาในการรับประทานอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาเบนท์ลีย์ได้เข้ารับการผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ปัจจุบันอุปสรรคจึงน้อยลงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ถึงแม้ว่าเบนท์ลีย์จะเกิดมาพร้อมกับความพิการที่ทำให้เขารู้สึกแตกต่างไปจากเด็กคนอื่นๆ แต่ทว่ากลับไม่ได้ทำให้ความสดใสและความร่าเริงลดน้อยลงไปเลย เขายังคงภูมิใจและมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
.
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา “แบรนดอน บอยเออร์” (Brandon Boyer) คุณพ่อของเบนท์ลีย์ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มเล็กๆ และกำลังมองหาไก่สักตัวมาเลี้ยงในฟาร์ม แบรนดอนจึงเลือกเดินทางไปที่ ศูนย์พักพิงสัตว์แจ็คสันเคาน์ตี้เพื่อรับอุปการะไก่สักตัวมาเลี้ยง ซึ่งในวันนั้นเบนท์ลีย์ลูกชายสุดรักของเขาก็ได้ขอติดตามไปด้วย
.
แต่แทนที่แบรนดอนจะได้พบกับไก่อย่างที่ตั้งใจกลับได้พบกับลูกหมาตัวน้อยอายุ 2 เดือนตัวหนึ่ง ที่เกิดมาพร้อมกับโรคปากแหว่งเพดานโหว่เช่นเดียวกับเบนท์ลีย์ลูกชายของเขาราวกับว่าเป็นโชคชะตากำหนด ยิ่งไปกว่านั้นเบนท์ลีย์และลูกหมาตัวน้อยก็ได้เกิดตกหลุมรักกันตั้งแต่ครั้งแรกพบด้วย
.
เบนท์ลีย์รีบเดินเข้าไปหาน้องหมาตัวน้อย พร้อมๆ กับร้องเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะนั่งลงแล้วกอดน้องหมาเอาไว้แน่น ขณะที่ใบหน้าของเขาก็กำลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขมาก เบนท์ลีย์หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจเมื่อได้พบเพื่อนใหม่ใหญ่เลย ส่วนน้องหมาเองก็ทำราวกับว่าเบนท์ลีย์คือ คนคุ้นเคยที่พลัดพรากกันมายังไงอย่างงั้น น้องหมาว่าง่ายและส่ายหางดุ๊กดิ๊กไม่หยุด ยอมเชื่อใจเบนท์ลีย์และทำตัวน่ารักจนน่าประหลาดใจ...
พี่ขอกอดทีหนึ่ง... นี่แหน่ะแถมจุ๊บทีหนึ่งด้วย!
.
อุ๊ย! เหมือนมีใครแอบมองเราอยู่นะ
.
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมาก เบนท์ลีย์ปฎิบัติต่อน้องหมาแปลกหน้าด้วยความอ่อนโยน จริงใจและไร้เดียงสา มันเป็นความน่ารักที่บริสุทธิ์ทำให้ใครหลายๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปตามๆ กัน ความสุขกำลังลอยฟุ้งไปทั่ว ห้องสี่เหลี่ยมกลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวในช่วงฤดูร้อน มิตรภาพที่ดีกำลังก่อตัวขึ้นและเพื่อไม่ให้ “แอชลี่ บอยเออร์” (Ashley Boyer) คุณแม่ของเบนท์ลีย์พลาดช่วงเวลาที่น่ารัก น่าประทับใจนี้ แบรนดอนจึงรีบยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาวิดีโอคอลไปหาเธอทันที
.
“แบรนดอนและเบนท์ลีย์ได้เจอลูกหมาตัวน้อยที่ทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษมากๆ อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์แจ็คสันเคาน์ตี้ แบรนดอนวิดีโอคอลมาหาฉันและบอกกับฉันว่าลูกหมาตัวน้อยมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนลูกชายที่น่ารักของเรา นั่นจึงทำให้ฉันรีบเอ่ยตอบเขาไปในทันทีว่า ‘เราต้องรับอุปการะเขานะ แล้วก็รีบพาเขากลับมาด้วยเลย’ ”
.
“การที่ได้พบว่าลูกหมาตัวน้อยมีบางอย่างคล้ายกับลูกชายของเรา นั้นมีความหมายมากสำหรับเรา เพราะเมื่อมีอะไรที่คล้ายๆ กัน ก็น่าจะทำให้พวกเขาเข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้ดี รู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อกันอย่างไรบ้าง”
แอชลี่กล่าว
.
.
เมื่อแบรนดอนได้ปรึกษากับภรรยาแอชลี่ ก็ได้บทสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่า "ต้องการรับอุปการะน้องหมาตัวน้อยเอาไว้" แบรนดอนจึงตัดสินใจยื่นความประสงค์เพื่อขอรับสิทธิ์การอุปการะ โชคดีที่งานด้านเอกสารผ่านไปได้ด้วยดี น้องหมาตัวน้อยจึงได้กลับบ้านไปพร้อมๆ กับแบรนดอนและเบนท์ลีย์ ในที่สุดน้องหมาตัวน้อยก็ได้กลายมาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเล็กๆ ที่น่ารักอย่างเป็นทางการ...
.
ครอบครัวบอยเออร์ได้ตั้งชื่อให้กับลูกหมาตัวน้อยว่า “แลคซี่” (Lacey) และเขาก็สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะเขามีเพื่อนที่รู้ใจอย่างเบนท์ลีย์คอยห่วงใยและเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ เสมอ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาเบนท์ลีย์และแลคซี่ก็ไม่เคยห่างจากกันอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหนๆ กิน นอน เล่นหรือแม้แต่การอาบน้ำก็จะทำด้วยกันเสมอ
.
.
ทั้งสองเกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกันจริงๆ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.