เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา “จิม” (Jim) น้องหมาสายพันธุ์ชิวาวาผสม เพศผู้ ตัวน้อย ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บริเวณข้างถนนไฮเวย์ ในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงลำพัง โชคดีพลเมืองดีผ่านมาพบ ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยพาไปขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Humane Society of the Pikes Peak Region
.
โชคดีที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือฯ รับจิมเอาไว้ในความดูแล ก่อนจะรีบส่งตัวเขาไปพบกับ “ดร.ซู ลินซ์” (Dr. Sue Lynch) หัวหน้าสัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดและหาแนวทางรักษาต่อไป หลังจากกระบวนการตรวจร่างกายเสร็จสิ้นลง ดร.ซู ก็ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลว่า จิมมีบาดแผลตามลำตัวเพียงเล็กน้อยไม่รุนแรง แต่ที่น่ากังวลใจที่สุดคือบริเวณกระดูกเชิงกรานเพราะภาพเอกซเรย์แสดงชัดว่ากระดูกในส่วนนั้นแตกออก ซึ่งเป็นผลจากแรงกระแทกอย่างแรง
.
“ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นใบหน้าของเขา ฉันก็รู้สึกสงสารและเห็นใจเขามาก ยิ่งหลังได้ตรวจพบว่ากระดูกเชิงกรานของเขาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ฉันก็ยิ่งรู้สึกเศร้าหนักกว่าเดิม ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้องหมาตัวเล็กจะมีความอดทนต่อความเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ เขาดีใจเมื่อได้เห็นฉัน คล้ายรับรู้ได้ถึงการช่วยเหลือ เขายังคงทำตัวน่ารักแม้ว่าร่างกายจะบอบช้ำและเจ็บปวดหนักอยู่ก็ตาม”
ดร.ซูกล่าว
.
จิมยังคงเป็นเด็กดีทำตัวน่ารักและร่าเริงตลอดการตรวจร่างกาย ถึงแม้จะถูกประเมินว่าอาการของเขาอยู่ในขั้นวิกฤติก็ตาม ดร.ซู พิจราณาอย่างรอบคอบก่อนจะแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทราบว่า จำเป็นต้องผ่าตัดนำขาหลังด้านขวาของเขาออกเพื่อรักษาชีวิตจิมเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลก็ลงความเห็นสนับสนุนแนวทางการรักษาของ ดร.ซู นั่นทำให้กระบวนการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเริ่มต้นขึ้น...
.
โชคดีที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ประสบการณ์ของ ดร.ซู ช่วยชีวิตจิมเอาไว้ จิมตื่นขึ้นมาพบกับความจริงที่ทำให้ต้องรู้สึกตกใจและสับสนเมื่อได้พบว่าร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ขาข้างหนึ่งของเขาหายไป! อย่างไรก็ตามการดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ก็ช่วยทำให้จิมสามารถปรับตัวยอมรับกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป
.
ไม่นานหลังจากการพักฟื้นบาดแผลผ่าตัดก็ค่อย ๆ ดีขึ้น จิมเริ่มเข้าใจแล้วว่าขาที่หายไปทำให้การใช้ชีวิตของเขาดีขึ้น ความทุกข์ทรมานในทุกขณะที่เริ่มขยับตัวได้หายไปจนหมดสิ้น แววตาของจิมดูสดใสและมีความสุขขึ้นมาก
.
จิมพยายามแสดงความรักและพฤติกรรมที่แสนดีกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ผู้ดูแลทุกคน โดยเฉพาะ ดร.ซู สัตวแพทย์ผู้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่น้องหมาผู้ไร้เดียงสาจะสามารถทำได้เพื่อสื่อสารบอกความในใจที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งแทนการกล่าวคำว่า "ขอบคุณ"
.
“ฉันคิดว่าเขาเข้าใจและมองเห็นความรักจากสิ่งที่ฉันทำเพื่อเขานะ ฉันช่วยชีวิตเขาเอาไว้”
ดร.ซูกล่าว
.
หลังจากที่จิมอาการดีขึ้นจนเกือบจะหายดี ดร.ซู ก็ได้อาสารับจิมไปดูแลที่บ้าน โดยตั้งใจว่าจะเป็นบ้านอุปถัมภ์ให้กับเขาในช่วง 2-3 เดือนระหว่างที่รอให้สภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นสมบูรณ์พร้อมจริง ๆ สำหรับการมีบ้านหลังใหม่ที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป แต่ทว่าความน่ารักของจิมกลับทำให้ความตั้งใจของ ดร.ซู เปลี่ยนไป!
.
“ลูกสาวของฉันรักเขามาก สามีของฉันก็ด้วย ฉันเลยไม่สามารถพาเขากลับมาอยู่ในความดูแลของศูนย์ฯ อีกครั้งได้ เพราะการกลับมาอยู่ที่ศูนย์ฯ อีกครั้งไม่มีอะไรรับประกัน หรือทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจได้ว่าอนาคตอันใกล้ จิมจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือเป็นอย่างไรต่อไป”
ดร.ซูกล่าว
.
ระยะเวลาเพียงแค่ 2- 3 วันเท่านั้นที่ความน่ารักและแสนดีของจิมได้ขโมยหัวใจของสมาชิกทุกคนในบ้าน ดร.ซู ไป ดร.ซู ปรึกษาสามีและลูกสาวสำหรับการตัดสินใจรับอุปการะจิม ซึ่งคำตอบนั้นชัดเจนทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าต้องการต้อนรับจิมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นมากด้วย
.
ดร.ซู กลับไปที่ศูนย์ฯ พร้อมกับเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอรับอุปการะน้องหมาไร้บ้าน ก่อนจะยื่นเอกสารทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ผู้ดูแลให้พิจารณาให้เธอเป็นคุณแม่ผู้อุปการะและบ้านหลังใหม่ให้กับจิมน้องหมาพิการเช่นเดียวกับผู้อุปการะคนอื่น ๆ แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ผู้ดูแลจิมและผู้คัดกรองบ้าน ต่างเห็นชอบมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้กับ ดร.ซู อย่างไม่ลังเลใจ นั่นทำให้จิมได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวใหม่ที่พร้อมรักและดูแลเขาได้ตลอดไปจริง ๆ แล้วล่ะ!
.
ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจะเป็นสาเหตุให้จิมน้องหมาตัวน้อยต้องสูญเสียขาข้างหนึ่งไป แต่ทว่าโชคร้ายกลับทำให้เขาได้พบกับบ้านหลังใหม่ที่อบอุ่นที่สุด หลังจากย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของ ดร.ซู แล้วจิมแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามเพื่อปรับตัวอะไรเลย เขาทำตัวราวกับว่าบ้านหลังใหม่คือบ้านหลังเก่าที่คุ้นเคยมาตลอด
.
“จิมเป็นน้องหมาที่มีลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างน่าทึ่ง เขาสามารถทำให้ทุก ๆ คนตกหลุมรักเขาได้เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เขาช่างอ้อนและเอาใจเก่งมาก ๆ ตอนนี้เขาตามติดฉันแจ เขาเดินตามฉันไปทั่วบ้านเลยล่ะ”
ดร.ซูกล่าว
.
“จิมทำเหมือนกับว่าขาของเขาไม่ได้หายไปไหน เขายังคงวิ่งเล่นสนุกกับเอลวิต้าน้องหมาอีกตัวที่ครอบครัวของเรารับอุปการะไว้ก่อนหน้านี้ จิมเกิดมาเพื่อจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเรา เขาเป็นส่วนเติมเต็มทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่ขึ้นมาก ๆ เลยล่ะ”
ดร.ซูกล่าวเสริม
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.