น้องหมาผู้น่าสงสารถูกคนใจร้ายฝังทั้งเป็นกลางป่า โชคดีพลเมืองดีพบและเร่งยื่นมือช่วย

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา นักเดินป่ารายหนึ่งได้ยินเสียงร้องปริศนาดังขึ้นราวกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นขอความช่วยเหลือระหว่างทางขณะเดินอยู่ในเขตป่าเมืองไฮส์แลนด์ ประเทศสกอตแลนด์ ด้วยสงสัยและเป็นกังวลใจว่าจะเกิดเหตุร้ายเขาจึงตัดสินใจแวะเข้าไปสำรวจเพื่อตามหาที่มาของเสียง
.
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าหดหู่ใจ เมื่อน้องหมาสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ ที่น่าสงสารตัวหนึ่งกำลังถูกฝังทั้งเป็น! น้องหมานอนแน่นิ่งในสภาพที่ย่ำแย่ใต้กองหินหลายสิบก้อนที่ทับอยู่บนตัว หากไม่เห็นกับตาตัวเองนักเดินป่าก็คงไม่เชื่อว่ายังมีมนุษย์ใจร้ายที่สามารถลงมือทำเรื่องโหดร้ายกับน้องหมาที่ไร้เดียงสาได้แบบนี้ 
.

SSPCA

.

เมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของน้องหมา นักเดินป่าก็ไม่อาจจะละเลย เขาตัดสินใจหยุดการเดินทางลงชั่วคราวก่อนจะรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นให้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหวังได้พบหลักฐานอื่นเพิ่มเติมสำหรับการติดตามตัวคนใจร้ายมาลงโทษ

.

หลังจากที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ “อีวอนน์ สลอส” (Yvonne Sloss) และสารวัตร “มาร์ค กรีนเนอร์” (Mark Greener) ก็เร่งลงพื้นที่เกิดเหตุทันทีเพื่อช่วยเหลือน้องหมาผู้เคราะห์ร้ายและตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม...

.

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นการกระทำเลวร้ายที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา วินาทีแรกที่ได้เห็นน้องหมานอนแน่นิ่งอยู่ใต้ก้อนหิน เรารู้สึกช็อก เศร้าและไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีคนที่ใจร้ายสามารถทำเรื่องแย่ ๆ กับน้องหมาที่ไร้เดียงสาได้แบบนี้ เราสังเกตเห็นว่าหัวของเขากำลังบวมและอาการก็กำลังแย่มากด้วย เราไม่คิดว่าเขาจะรอดมาได้”

เจ้าหน้าที่อีวอนน์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

.

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยน้องหมาขึ้นมาจากหลุมและกองหินแล้วก็ได้ติดต่อไปที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ SSPCA เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยรับน้องหมาเข้าไปอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ หลังจากที่ถูกตอบรับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองก็เร่งพาน้องหมาเดินทางไปยังองค์กร SSPCA ทันที
.
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ก็เร่งพาน้องหมาผู้น่าสงสารไปพบสัตวแพทย์ประจำองค์กรเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด...
.
จากภาพเอกซเรย์ทำให้สัตวแพทย์ได้ทราบว่า บริเวณกะโหลกและกรามของน้องหมาได้เกิดรอยร้าวและหักหลายจุด ขณะที่อวัยวะหลายส่วนบอบช้ำเกินเยียวยาสร้างความเจ็บปวดให้กับน้องหมาสาหัส หลังจากการวินิจฉัยอย่างละเอียดสัตวแพทย์ก็เร่งวางแผนก่อนจะทำการรักษา... สัตวแพทย์เริ่มจากการผ่าตัดนำดวงตาข้างซ้ายที่บอบช้ำเกินเยียวยาและฟันที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ หลายซี่ออก 
.
เห็นได้ชัดว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นกำลังเล่าเรื่องราวความรุนแรงที่น้องหมาได้รับก่อนจะตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ทุกข์ทรมานเจียนตายกลางป่าที่เงียบสงัดขณะที่ต้องถูกก้อนหินทับจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถึงแม้โอกาสรอดจะน้อยนิดแต่น้องหมากลับยังดิ้นรนสู้ ส่งเสียงร้องครวญเฝ้ารอความช่วยเหลือโอกาสสุดท้ายที่แสนริบหรี่... 
.

SSPCA

.

วันนั้นเจ้าหน้าที่ของ SSPCA ได้ตั้งชื่อให้กับน้องหมาว่า “เจค” (Jake)
.

SSPCA

.

เจคได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ SSPCA  เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ จากนั้นอาการของเขาก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นโชคดีที่ในเวลาต่อมาเขาได้ถูกอุปถัมป์โดยสารวัตรมาร์ค นายตำรวจผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือเขาในวันที่กำลังจะสิ้นหวัง

.

“เจคต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญและต้องใช้เวลานานพอสมควรในการเยียวยาสภาพร่างกายและจิตใจของเขาให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง”

เจ้าหน้าที่ของ SSPCA กล่าว

.

“เขาใช้เวลานานสักพักเลยล่ะกว่าจะเชื่อใจผมได้จริง ๆ แต่ตอนนี้ผมทำให้เขาเชื่อใจได้แล้วนะ ผมจะดูแลเขาตลอดไป”

สารวัตรมาร์คกล่าว

.

มาร์คพยายามดูแลเจคอย่างดีที่สุด ด้วยเบาะนุ่ม ๆ และอาหารอร่อย นอกจากนั้นมาร์คยังแบ่งเวลาส่วนหนึ่งหลังเลิกงานรวมถึงวันหยุดพักผ่อนเพื่อพาเจคออกไปเดินเล่นนอกบ้านและทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันด้วย ซึ่งนั่นช่วยทำให้สภาพจิตใจที่ย่ำแย่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเจคค่อย ๆ ดีขึ้น ขณะที่เจคก็ได้เรียนรู้ชีวิตบทใหม่ไปพร้อม ๆ กันว่าแท้จริงแล้วบนโลกที่เคยโหดร้ายในความรู้สึกของเขายังมีพื้นที่ความสุขมากมายเปิดต้อนรับเขาอยู่ ไม่นานความจริงใจก็ทำให้เจคเชื่อใจมาร์คได้ทั้งหมดของหัวใจและสามารถเป็นมิตรกับมนุษย์แปลกหน้าคนอื่น ๆ ได้อีกครั้ง
.
วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมากเจคต้องการที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ กับมาร์คให้มากและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะนั่นช่วยทำให้เขารู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยที่สุด
.

SSPCA

.

“ ตอนนี้ผมนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตที่ปราศจากเจคข้างกายจะเป็นยังไง ผมขอบคุณนักเดินป่าคนนั้นนะที่ผ่านไปพบเจคและไม่ละเลยต่อความหวังสุดท้ายของเขาแล้วเร่งแจ้งให้ผมทราบ หากไม่มีเขาในวันนั้น วันนี้เจคก็คงไม่มานั่งส่ายหางอยู่ข้าง ๆ ผมแบบนี้แน่ ๆ ”

สารวัตรมาร์คกล่าว

.

สารวัตรมาร์คจะยังอยู่ในฐานะผู้อุปถัมภ์ของเจคไปอีกสักพักจนกว่าเจ้าหน้าที่ของ SSPCA จะประเมินว่าสภาพจิตใจและร่างกายของเจคกลับมาเป็นปกติดีแล้วจริง ๆ และเมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างพร้อมพวกเขาก็จะมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้กับสารวัตรมาร์ค นั่นจะทำให้เขาได้กลายเป็นคุณพ่อของเจคอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็คงอีกไม่นานเกินรอเพราะตอนนี้อาการของเจคก็ดีขึ้นมากแล้ว

.

เหตุการณ์สุดหดหู่นี้เพิ่งจะถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่เจคฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนเกือบจะหายเป็นปกติดีแล้ว ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ก็เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่ายังมีน้องหมาที่ถูกทารุณกรรมด้วยวิธีที่เลวร้ายในสังคมที่เจริญแล้วอยู่ ขณะที่ทาง SSPCA ไม่ขอระบุสถานที่เกิดเหตุที่ลงรายละเอียดไปมากกว่านี้เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของนักเดินป่าพลเมืองดีที่ตัดสินใจช่วยเหลือเจคเอาไว้
.
ถึงแม้เหตุการณ์ชวนหดหู่ครั้วนี้จะเกิดขึ้นนานหลายเดือนแล้วทว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถตามตัวคนใจร้ายที่ทารุณกรรมเจคมาลงโทษตามกฎหมายไม่ได้ 

.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.