คนไร้บ้านในประเทศสหรัฐอเมริกามักจะรับเลี้ยงน้องหมา ซึ่งน้องหมาส่วนใหญ่ก็มักจะมีสถานะจรจัดเคยเร่ร่อนอยู่ตามข้างถนนมาทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามหัวใจที่ซื่อสัตย์และความแสนดีของน้องหมาก็ไม่เคยลดน้อยถอยลงตามโชคชะตาแสนอาภัพของพวกเขาเลย ในทางกลับกันพวกเขายังคงสามารถเอาชนะใจและทำให้คนไร้บ้านตกหลุมรักกระทั่งกลายเป็นความผูกพันเสมือนส่วนหนึ่งในชีวิต ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนไร้บ้านจะยอมทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อทำให้น้องหมาของพวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขมากที่สุด
วิลมา ฟริซ
.
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ “วิลมา ฟริซ” (Wilma Frice) หญิงสาวใจดีผู้รักสัตว์กำลังเดินออกจากห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ท เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็สังเกตเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งกำลังยืนเศร้าอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้า ขณะที่ในมือของเขาก็กำลังถือป้ายที่มีข้อความระบุว่า...
.
“มีน้องหมาตัวเล็กในศูนย์ควบคุมสัตว์กำลังต้องการความช่วยเหลือ”
.
.
ข้อความบนป้ายที่ปรากฎทำให้วิลมาหัวใจแตกสลาย ด้วยรู้ดีว่าศูนย์ควบคุมสัตว์ไม่ได้เป็นสถานที่ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงยากไร้เท่าไหร่นัก วิลมาตระหนักดีว่าชายไร้บ้านกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้น้องหมาของเขาได้รับความช่วยเหลือ โดยไม่ได้มีเจตนาร้องขออาหารหรือเงินเพื่อความสุขส่วนตัวของเขาเองเลย
.
“เขามีลักษณะเป็นคนจิตใจดีและค่อนข้างอ่อนโยนด้วยซ้ำ แววตาของเขาสื่อสารพยายามบอกกับฉันว่า เขากำลังเผชิญกับเรื่องที่ยากลำบาก แววตาคู่นั้นช่างดูสิ้นหวังเหลือเกิน เขาดูเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังจะสูญเสียน้องหมาสุดรักไป”
วิลมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ People
.
.
วิลมาตัดสินใจเดินเข้าไปพูดคุยกับชายไร้บ้านคนดังกล่าว ก่อนทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า “แฟรงคลิน”(Franklin) น้องหมาในอุปการะของชายไร้บ้านเพิ่งถูกจับตัวไปโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ท้องถิ่นเนื่องจากความเข้าใจผิด ซึ่งนั่นทำให้ชายไร้บ้านจะต้องหาเงินจำนวน 120 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,000 บาทเพื่อนำไปชำระค่าปรับแลกกับอิสรภาพของแฟรงคลิน แต่ปัญหาติดอยู่ที่เขาไม่มีเงินมากพอที่จะหาเงินค่าปรับจำนวน 4,000 บาทได้ จึงตัดสินใจมายืนถือป้ายขอความช่วยเหลือจากใครก็ตามที่พอจะเมตตาเขาและแฟรงคลินได้บ้าง
.
.
หลังทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชายไร้บ้านและน้องหมาสุดรักของเขา วิลมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจมอบเงินจำนวน 4,000 บาทให้กับชายไร้บ้านทันที พร้อมกับอาสาช่วยขับรถพาชายไร้บ้านที่กำลังเศร้าไปที่ศูนย์ควบคุมสัตว์ท้องถิ่นเพื่อเข้าไปชำระค่าปรับและรับตัวแฟรงคลินกลับออกมาอีกครั้ง
.
หลังจากที่ค่าปรับถูกชำระครบตามจำนวนแฟรงคลินก็ได้รับอิสระ อีกไม่กี่นาทีต่อมาชายไร้บ้านและน้องหมาตัวน้อยที่กำลังโศกเศร้าเอาแต่ตั้งตารอนายรักก็ได้พบหน้ากันอีกครั้ง ทั้งสองโผเข้ากอดกันและกันด้วยความดีใจ แววตาของชายไร้บ้านเปลี่ยนไปบนหน้าเต็มไปด้วรอยยิ้ม น้องหมาตัวน้อยก็ดีใจจนเนื้อเต้นส่ายห่างดุ๊กดิ๊กกระโดดอ้อนนายรักบอกคิดถึงไม่หยุด
.
.
ภาพน่าประทับใจแสนอบอุ่นที่เกิดขึ้นทำให้วิลมาตื้นตันใจจนพูดไม่ออก เงินจำนวนหนึ่งของเธอได้ช่วยเหลือและสร้างความสุขที่ยิ่งใหญ่กับสองชีวิตที่โหยหากันและกัน ปฎิกิริยาระหว่างชายไร้บ้านและน้องหมาตัวน้อยแสดงชัดว่าทั้งสองรักและผูกพันกันมากแค่ไหน พวกเขาเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของกันและกัน ด็อกคลิปหวังว่าหลังจากนี้พวกเขาจะไม่ถูกพรากจากกันด้วยความเข้าใจผิดอีก
.
.
“ฉันรู้สึกตกใจมากนะ เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปากของชายคนนั้น เขาเป็นชายจิตใจดีและแฟรงคลินก็เป็นน้องหมาที่แสนวิเศษ ฉันตัดสินใจช่วยเขาเพราะฉันเองเข้าใจความรู้สึกการต้องถูกพรากจากน้องหมาแสนรักดีว่าเจ็บปวดมากแค่ไหน, ก่อนหน้านี้ฉันเคยทำงานช่วยเหลือน้องหมาจรมาก่อนและชีวิตของฉันก็อุทิศเพื่อช่วยเหลือน้องหมาจรจัดมาโดยตลอด แน่นอนว่าเมื่อมีโอกาสฉันจึงไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือและยินดีมากที่ได้ทำ”
วิลมากล่าว
.
.
นอกจากวิลมาจะมอบเงินและอาสาช่วยพาชายไร้บ้านไปรับตัวแฟรงคลินแล้ว เธอยังช่วยพาแฟรงคลินไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ฉีดวัคซีน ทำหมันและกำจัดเห็บหมัดให้ พร้อมกับมอบเบอร์โทรติดต่อกลับให้กับชายไร้บ้านอีกด้วย สำหรับเผื่อไว้หากเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ซ้ำอีกครั้ง เธอจะได้ช่วยเขาได้
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
