เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา “มิเกล เอนเจิล เอสโคบาร์” (Miguel Ángel Escobar) และครอบครัว ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวพักผ่อนอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศฮอนดูรัส แน่นอนธรรมชาติที่สวยงาม ชายหาดสีขาวบริสุทธิ์และท้องทะเลสีครามสดใสก็ทำให้มิเกลรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยากออกไปเดินเล่นบนชายหาด แต่ทว่าระหว่างทางเขากลับได้พบกับเรื่องน่าสะเทือนใจ!
.
ขณะที่มิเกลและครอบครัวกำลังเดินทอดน่องอยู่บนชายหาดอย่างสบายใจได้บังเอิญผ่านไปพบเต่าหัวค้อน เพศเมีย ขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวประมาณ 120 กิโลกรัม ลำตัวยาวประมาณ 6 ฟุต นอนแน่นิ่งอยู่ในลักษณะแนวดิ่งบริเวณโคนต้นสนริมชายหาด โดยส่วนหัวของเธอเกือบสัมผัสพื้นทราย ลำตัวติดแหง็กอยู่ในกองซากกิ่งไม้แห้ง ดวงตาทั้งสองข้างมีของเหลวใสไหลออกมาด้วย ซึ่งลักษณะคล้ายกับว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่...
เต่าหัวค้อน
.
ของเหลวใสไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
.
มิเกลสันนิษฐานว่า เต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายน่าจะขึ้นมาบนชายหาดในช่วงน้ำทะเลขึ้นสูง พอน้ำทะเลลดระดับต่ำลงกองซากกิ่งไม้ก็เป็นอุปสรรค แต่ด้วยความพยายามจะกลับลงทะเลอีกครั้งก็ทำให้เธอเข้าไปติดแหง็กอยู่ในกองซากกิ่งไม้อย่างที่เห็น สภาพของเต่าหัวค้อนในตอนนั้นดูแย่มาก ร่างกายของเธอหยุดนิ่งไม่ไหวติงราวกับว่าสิ้นใจไปแล้ว แต่ด้วยติดใจสงสัยอยากรู้ให้แน่ชัดมิเกลจึงเดินเข้าไปตรวจสอบ
.
“เธอนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง จนทำให้ผมคิดว่าเธอสิ้นใจกลายเป็นซากไปแล้ว แน่นอนการพบซากสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจและสงสารเธอมากจริง ๆ”
มิเกลกล่าว
.
มิเกลเดินเข้าไปใกล้ร่างเต่าหัวค้อนผู้โชคร้าย แล้วเอื้อมมือไปสัมผัสบนตัวของเธออย่างนุ่มนวล ก่อนจะสะดุ้งโหยงและรู้สึกดีใจมากในวินาทีต่อมา เมื่อพบว่าเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายยังมีชีวิตอยู่! อย่างไรก็ตามจากสภาพเห็นได้ชัดว่าเธอติดอยู่ในกองซากกิ่งไม้ และใช้ความพยายามดิ้นรนจากอุปสรรคที่ยากเกินแก้ไขนานหลายชั่วโมง จนอ่อนแรงแทบขาดใจ ก่อนจะยอมจำนนต่อโชคชะตา... หากไม่มีใครยื่นมือช่วยเธอคงจะไม่มีทางรอด
.
“เธอนอนแน่นิ่งราวกับซาก แต่ผมก็ยังติดใจสงสัย ภาวนาขอให้เธอยังมีชีวิตอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปใช้มือสัมผัสเพื่อตรวจสอบ จากนั้นเธอก็เริ่มขยับตัวช้า ๆ และส่ายหัวไปมาเบา ๆ ”
มิเกลกล่าว
.
เมื่อพบว่าเต่าหัวค้อนยังมีชีวิตอยู่ มิเกลก็เร่งหาทางช่วยทันที เขาใช้มีดเล็กที่พกติดตัวมาตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่ขวางทางและรั้งลำตัวเธอออกทีละกิ่ง ส่วนกิ่งไหนที่มีขนาดเล็กมิเกลก็ใช้มือหักออก ซึ่งในระหว่างนั้นเต่าหัวค้อนก็เริ่มมีสติส่งเสียงครวญร้องดัง ครืก ๆ เป็นระยะด้วยรู้สึกกลัว และกังวลใจว่าจะไม่ปลอดภัยจากมนุษย์
.
.
ไม่กี่นาทีต่อมาเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายก็ได้รับอิสรภาพ แต่ทว่าสภาพร่างกายของเธอก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าที่จะพาตัวเองกลับทะเลได้เองอีกครั้ง ดังนั้นมิเกลจึงจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลืออุ้มเธอไปส่งในจุดที่น้ำทะเลซัดถึง
.
“ตอนแรกผมคิดว่าเธอคงจะต้องนอนพักเอาแรงสักครู่ เพื่อรอให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นตัวก่อนจะกลับลงทะเลอีกครั้ง แต่เปล่าเลย พอเธอได้รับอิสรภาพก็รีบตะเกียกตะกายพาตัวเองลงทะเลว่ายน้ำไปเลย ซึ่งน่าประหลาดใจมาก เพราะตอนแรกสภาพเธอดูแย่มาก แต่พอตัวสัมผัสน้ำทะเลก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอกางครีบออกแล้วว่ายน้ำไปอย่างมั่นคง ดูแข็งแรงและรวดเร็วมากด้วย เธอคงกำลังดีใจและมีความสุขมากที่รอดชีวิต”
มิเกลกล่าว
.
.
.
เต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายได้รับโอกาสครั้งที่สองในการมีชีวิต จากความช่วยเหลือของชายใจดีที่ผ่านมาพบด้วยความบังเอิญ หลังจากที่ว่ายน้ำวนเวียนอยู่ในบริเวณน้ำตื้นใกล้ชายหาดสักพัก เต่าหัวค้อนก็ว่ายน้ำหายไปในทะเลน้ำลึก
.
อย่างไรก็ตามมิเกลยังคงสงสัยว่าเต่าหัวค้อนตัวโตผู้โชคร้ายขึ้นไปทำอะไรบนกองซากกิ่งไม้ ซึ่งข้อสันนิษฐานหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากสุดสำหรับมิเกลคือ เธอมีสถานะเป็น "แม่เต่า" และนานหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ เธอได้พยายามขึ้นไปบนหาดเพื่อวางไข่ แต่โชคร้ายที่ตอนกลับน้ำทะเลลดระดับลงมาก จนกองซากกิ่งไม้กลายเป็นอุปสรรคขวางทางกลับบ้าน ก่อนความพยายามจะทำให้เธอเข้าไปติดแหง็กอยู่ในกองซากกิ่งไม้อย่างที่เห็น แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอได้รับอิสรภาพแล้ว
.
“ผมรู้สึกมีความสุขมากเลยนะที่ได้ช่วยเธอในวันนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลยล่ะสำหรับผม”
มิเกลกล่าว
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.